Marilyn Monroe กับการตายที่อื้อฉาวที่สุดในโลก - เพจพื้นที่ให้เล่า

ต่อให้เราไม่ได้เกิดในยุค 50s แต่รับรองว่ายังไงก็ต้องเคยได้ยินชื่อของ Sexy Star อย่าง “มาริลิน มอนโร” ไม่มากก็น้อย เพราะครั้งหนึ่งเธอเป็นไอคอนของฮอลลิวูด รวมถึงแฟชั่นความสวยงามมากมาย และที่สำคัญการตายของเธอเป็นปริศนาน่าขบคิดและเรื่องอื้อฉาวระดับโลก

ชื่อจริง ๆ ของเธอคือ นอร์มา จีน มอร์เทนสัน เธอฉายแววและได้เข้าวงการบันเทิงจริง ๆ ตอนอายุ 16 ปี เสน่ห์และรูปร่างทำให้เธอก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะดังเป็นพลุแตกและเป็นไอคอนแห่งความเซ็กซี่ในเวลาต่อมา เนื่องจากข่าวหลุดอื้อฉาวเกี่ยวกับการถ่ายแบบเปลือย นี่เป็นต้นทางความอื้อฉาวของ ส่วนเครื่องเทศ พริกไทย และผักชีที่เป็นส่วนช่วยให้ชีวิตสาวเซ็กซี่ของเธอเผ็ดร้อนขึ้นไปอีกก็คือเรื่องราวชีวิตรักลับ ๆ ของเธอที่เกี่ยวข้องกับคนสำคัญระดับประเทศไม่น้อย! 

หนึ่งในคนสำคัญที่มีข่าวลือหนาหูว่าเธอข้องเกี่ยวด้วยเป็นอย่างมากคือประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาอย่าง จอห์น เอฟ. เคนเนดี พวกเขารู้จักผ่านการแนะนำของนักแสดงที่เป็นญาติของประธานาธิบดี กล่าวกันว่าเคนเนดีหลงใหลในเสน่ห์ของมอนโรและความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็พัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพียงแต่มาสะดุดตรงที่ว่า..เคนเนดีมีภรรยาอยู่แล้ว และเรื่องฉาวไม่ใช่เรื่องดีสำหรับบุคคลตัวอย่าง เรื่องมาริลินจึงเป็นเหมือนความลับที่ต้องซ่อนเอาไว้ใต้พรมให้ดี 

โชคร้าย..มาริลิน มอนโรไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวคิดนั้นเท่าไหร่ สตรีหมายเลขหนึ่งดูเหมาะสมกับเธอมากกว่า เธอไม่คิดจะปิดบังเรื่องนี้แม้แต่น้อย บางครั้งเวลาว่างยังโทรไปหาภรรยาของเคนเนดีเพื่อทักทายอยู่บ่อย ๆ ขณะที่มอนโรก็ดูเบื่อและไม่ได้ให้ความสำคัญกับงานบันเทิงเท่าที่เคย หรืออาจอยู่ในจุดที่เริ่มอิ่มตัว เลยอยากหันไปเป็นผู้หญิงคนสนิทของนักการเมืองใหญ่ และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของเธอ

ตามการเผยแพร่ข่าวในหนังสือพิมพ์เป็นทางการโดยทั่วกัน การตายของมอนโรนั้น สาเหตุมาจากการที่เธอใช้ยาระงับประสาทเกินขนาด โดยแม่บ้านของเธอเป็นคนพบมอนโรนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง ท่ามกลางข้าวของที่ถูกเขวี้ยงกระจัดกระจาย ฟังดูธรรมดา แต่ไม่มีใครซื้อการตายอันเรียบง่ายนี้เท่าไหร่ เพราะเธอเป็นสาวสวยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ถึงจะนิสัยแย่จนคนในวงการจะไม่อยากจ้างแล้ว แต่เธอก็ดูมีโอกาสประสบความสำเร็จในวงการและชีวิตรักมากที่สุด สิ่งนี้ทำให้ทฤษฏีการตายของเธอนั่นวุ่นวายและมากมายพอควร!

เนื่องจากเธอเป็นเมียเก็บของประธานาธิบดี ฝ่ายสนับสนุนของเคนเนดีจะมองว่าเธอคือก้างชิ้นใหญ่ที่ทำให้พวกเขาอาจถูกโค่นล้ม ฉะนั้นการที่ใครสักคนจะลุกขึ้นไปกำจัดเธอนั้นไม่แปลกแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีข่าวว่ามอนโรเป็นภรรยาลับ ๆ ของพี่น้องเคนเนดีทั้งคู่ แน่นอนว่าน้องชายของจอห์นอย่าง โรเบิร์ต เอฟ. เคเนดี้ก็ถูกดึงมาพัวพันกับการตายของมอนโรด้วย 

จากบทความของ BBC ได้มีการเปิดเผยว่า FBI ได้ส่งจดหมายลับในช่วงปี 1964 เพื่อเตือนโรเบิร์ตเกี่ยวกับการเผยแพร่ความสัมพันธ์ลับ ๆ ระหว่างเขาและมอนโรผ่านหนังสือ The Strange Death of Marilyn Monroe ที่มีเนื้อหาว่าโรเบิร์ตอาจเกี่ยวพันกับการตายที่น่าสงสัยของเธอ เพราะเขาคือคนที่ให้คำสัญญาว่าจะหย่ากับภรรยามาแต่งงานกับเธอ แต่กลับปฏิเสธในภายหลัง จนทำให้มอนโรขู่ว่าจะแฉเรื่องนี้และทำลายเส้นทางที่มุ่งสู่อนาคตการเมืองอันรุ่งโรจน์ของเขา แต่ด้วยข้อเท็จจริงในคืนวันเกิดเหตุว่าโรเบิร์ตอยู่กับภรรยาที่ซานฟรานซิสโกพอดี เลยสามารถยืนยันสถานที่ให้เขารอดจากการตกเป็นผู้ต้องสงสัยไปได้ .. แต่ในขณะเดียวกันก็มีข่าวลือว่ามีคนพบเห็นจอห์นในรถที่จอดอยู่บริเวณบ้านมอนโร และเห็นโรเบิร์ตเดินออกจากบ้านในคืนนั้น (ซึ่งตามบันทึกการพบจิตแพทย์ มอนโรไม่เคยพูดถึงความสัมพันธ์ของตัวเองกับจอห์นเลยสักครั้ง มีเพียงกับโรเบิร์ตเท่านั้นที่มีการกล่าวออกมาอย่างชัดเจน) 

ใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็คงพอรู้แล้วว่า องค์กรลับระดับประเทศอย่าง FBI ยังมีส่วนร่วมกับความรักลับ ๆ นี้ เพราะฉะนั้นการที่สังคมจะสงสัยการตายของเธอว่ามีเงื่อนงำก็ไม่แปลก เพราะเธอกลายเป็นภัยที่อาจเอาความลับของประเทศหรือของคนสำคัญไปขายให้กับผู้มีอิทธิพลหรือกลุ่มมาเฟียได้ ซึ่งภายหลังคนที่ซื้อบ้านต่อมอนโรก็ได้มีการพบการจดบันทึกจำนวนมากที่ซ่อนอยู่ภายใต้หลังคา ในนั้นเต็มไปด้วยข้อมูลชีวิตประจำวันของมอนโรและความลับที่ออกจากปากอดีตประธานาธิบดี และหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่คาดว่าจะถูกบันทึกในกองขยะนั้นคือ “แผนการของ CIA ที่จะร่วมมือลอบสังหารกัสโตรในคิวบา”

คุณอาจคิดว่าก็แค่ผู้หญิงเขียนอะไรไปเรื่อย จะไปบอกข้อมูลกับฟิเดล กัสโตรจริง ๆ ได้ยังไง? แล้วทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อมอนโรในช่วงวัยรุ่นเหมือนจะเคยมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับฟิเดล กัสโตรมาก่อน ยิ่งความขัดแย้งระหว่างอเมริกาและคิวบาปะทุจากความต่างทางการเมืองมากเท่าไหร่ ทุกการกระทำของมอนโรอาจเป็นชนวนที่ทำให้ทุกอย่างระเบิดได้แค่พลิกฝ่ามือ และบทบาทหญิงคนสนิทย่อมเก็บข้อมูลได้ไม่มากก็น้อย

ซึ่งภายหลังมอนโรจากไปกว่า 40 ปีดันมีการเปิดเผยข้อมูลจากอัยการที่เกี่ยวข้องกับคดีการตายของมอนโรเพิ่มเติมว่าบันทึกการรักษาจากจิตแพทย์ของมอนโรในช่วงก่อนเสียชีวิต แสดงให้เห็นความตั้งใจมุ่งมั่นอยากแสดงบทภาพยนตร์เรื่องต่อไปของเธอเป็นอย่างมาก และการแสดงออกถึงความหวังการอยากมีชีวิตอยู่ไม่ต่างจากคนปกติ 

นอกจากนั้นไม่นานมานี้ยังมีคำกล่าวของชายวัย 78ปี นอร์แมน ฮอดเจส อดีตเจ้าหน้าที่ CIA ที่เปิดเผยในอีกแง่มุมว่าเขาได้สังหารคนไปทั้งหมด 41 คนในการทำงาน และ “เขาคือคนฆ่ามอนโร” เนื่องจากมีคำสั่งลงมาให้ทำ และต้องทำให้เป็นการฆ่าตัวตายมากที่สุด

เอาเป็นว่าเธอคนนี้อยู่ก็เป็นที่จดจำ หายไปก็เป็นที่คิดถึงของจริง!! 

จะเห็นได้ว่ามีการลือกันไป ลือกันมาเยอะเหลือเกิน สมกับคำว่าคนเยอะ เรื่องก็ยิ่งแยะ การตายของมาริลิน มอนโร จึงเป็นปริศนาที่น่าปวดหัวระดับโลก เพราะทุกวันนี้ก็ไม่มีใครมั่นใจและสามารถยืนยันได้สักทีเดียวว่าดาวรุ่งที่ร่วงแรงในวัย 36 ปีจากไปเพราะอะไรกันแน่

แล้วอย่างไร จบบรรทัดสุดท้ายตรงนี้ ส่วนตัวแล้วคุณคิดว่ามาริลิน มอนโร ตายเพราะอะไร? 

.

.

ติดตามบทความของเพจพื้นที่ให้เล่า ได้บน LINE TODAY ทุกวันเสาร์

.

.

อ้างอิง

http://bit.ly/2JnQqoe

http://bit.ly/2MLnLve

http://bit.ly/32JzZtY