สภาแห่งรัฐ หรือคณะรัฐมนตรีจีน จัดประชุมผู้กำหนดนโยบายระดับสูงด้านเศรษฐกิจและการเงินและแถลงว่า จีนต้องรักษาสมดุลระหว่างความจำเป็นในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ การจัดการความเสี่ยงต่างๆ และรักษานโยบายการเงินอย่างสมดุลเอาไว้ หลังจากข้อมูลเมื่อวันศุกร์ ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอ่อนแอที่สุด นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลก เป็นประเด็นท้าทายของจีน ท่ามกลางการทำสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา ซึ่งบั่นทอนความต้องการสินค้าและบริการในประเทศ ทั้งนี้ จีนผ่อนคลายนโยบายการเงินและนโยบายการคลังแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่ธนาคารกลางจีนย้ำว่า จำเป็นต้องจัดสรรเงินทุนเพื่อสนับสนุนบริษัทขนาดเล็กด้วย
cr: Reuters
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
SITTIPORN KIM เศรษฐกิจของจีนในยุคหลังมีความเข้มแข็งจากภายในโครงสร้างของระบบ แต่เนื่องจากมีผลกระทบจากภายนอกจึงทำให้มีผลในการชะลอตัวบ้างซึ่งเป็นปกติของกลไกทางเศรษฐกิจในระดับมหภาค
แต่เนื่องจากจีนรู้จักเรียนรู้ที่จะปรับตัวเสมอและมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งกว่าประเทศส่วนใหญ่ในโลก จึงไม่มีผลเสียหายร้ายแรงเหมือนอย่างชาติในยุโรป
22 ต.ค. 2561 เวลา 08.17 น.
สมิงพระราม 007ึ คิดจะครองโลกเศรษฐกิจแต่มีคนบ้ามาขวางไว้
22 ต.ค. 2561 เวลา 00.10 น.
yong ก็ไม่แปลก เศรษฐกิจ มันวิ่ง ไปไกลมากเกินกว่า ที่คิดไว้มาก มันก็ฉลอ บ้าง
ต้องมาดูผลกระทบ ที่จะเกิดกะประเทศ อื่น หลังนโยบาย ใหม่ที่เกิดขึ้น
21 ต.ค. 2561 เวลา 23.51 น.
woraphot khunsit ชาติจะพัฒนาต้องเข้มแข็งจากภายใน...ไทยก็ไม่ต่าง.. หากหลงแสงสี..จุดจุดคงไม่เป็นดังหวัง.
21 ต.ค. 2561 เวลา 17.10 น.
กฤติเดช สุขเนืองนอง วิเคราะห์ จีน คงหันมากระตุ้นพัฒนาภายในประเทศ ปล่อยหยวนลอยตัว ถือดอลเมกาให้น้อยที่สุด ค้าขายกับพันธมิตรเพื่อระบายสินค้ามากขึ้น ใช้เงินท้องถิ่นที่จีนมั่นใจซื้อขาย อนาคตไทย สินค้าอุปโภคบริโภค เดือดร้อนแน่ เหลือแต่ท่องเที่ยว จะพาชาติรอด
21 ต.ค. 2561 เวลา 16.32 น.
ดูทั้งหมด