เป็นอีกความเคลื่อนไหวสำคัญของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในบ้านเรา เมื่อ Shopee หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ประกาศเก็บค่าธุรกรรมการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต 1.5% ของยอดขายจากร้านค้าผู้ขาย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2562 เป็นต้นไป ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากแบกต้นทุนค่าบริหารงานไม่ไหว
การคิดค่าธุรกรรมดังกล่าว จะถูกคิดจากยอดรวมที่ผู้ซื้อชำระเงินจริง ซึ่งรวมค่าจัดส่ง, ค่าส่วนลดต่าง ๆ แล้ว ส่วนค่าธุรกรรมบัตรเครดิต และเดบิตที่จะไม่ถูกคิดมีด้วยกัน 2 กรณี คือ 1.มีการยกเลิกคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อและผู้ขาย 2.มีการคืนสินค้าหรือคืนเงิน
ขณะที่ผู้ซื้อ จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะยังสามารถใช้บัตรเครดิตและเดบิตซื้อสินค้าได้แบบไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
แต่สิ่งที่น่าจับตามองจากการประกาศคิดค่าธรรมเนียมครั้งนี้ ก็คือ ในอนาคตร้านค้าใน Shopee จะมีการผลักภาระให้กับผู้บริโภคด้วยการขึ้นราคาสินค้าหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทาง Sea Limited บริษัทแม่ของ Shopee ได้รายงานผลประกอบไตรมาส 3 ของปี 2561 ว่า Shopee ยังเติบโตต่อเนื่อง มียอดขายสุทธิ (GMV) อยู่ที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โตขึ้น 152.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นจำนวนคำสั่งซื้อ 158.5 ล้านคำสั่ง
ส่วนรายได้อยู่ที่ 71.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1,156.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอินโดนีเซีย ถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของ Shopee
อ่านบทความทั้งหมด ที่ MarketingOops.com
nanoi จะขายของราคาถูกแต่ไปโหมโฆษณาเอาดาราค่าตัวแพงมา รายจ่ายมาก กำไลน้อย เลยคิดจะเอาคืนบ้าง
25 ธ.ค. 2561 เวลา 07.19 น.
T.Top คล้าย ๆ เปิดตลาดนัดแต่ไม่ดูแลพ่อค้าแม่ค้า ไม่หาลูกค้าให้ เก็บค่าที่อย่างเดียว สุดท้ายตลาดก็เจ๊งเพราะไม่มีคนขาย ต้องไม่ลืมว่ายังมีอีกหลายแอปในปัจจุบัน และอีกหลายแอปที่พรัอมจะแจ้งเกิดในอนาคต
24 ธ.ค. 2561 เวลา 17.41 น.
ดูทั้งหมด