เปิดราคา “บัณฑิตจบใหม่” ต้องจ่ายเท่าไหร่ถึงจะได้รับปริญญา?
BY : TEERAPAT LOHANAN
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการรับปริญญา ถือว่าเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนที่อยากทำให้พ่อแม่ได้ภูมิใจสักครั้งหนึ่งในชีวิต ก็ถึงขนาดที่ทุ่มเทเรียนมาตั้งแต่ อนุบาล จนขึ้นประถม ไล่มามัธยม และขึ้นมาสู่ระดับปริญญาได้เนี่ย ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่ใคร ๆ ก็จะทำกันได้ แถมบางคนก็ยังอาจจะได้แถมเกียรตินิยมอันดับ 1 หรืออันดับ 2 ไปฝากพ่อแม่ให้เชิดหน้าชูตาเข้าไปอีก
แต่ช้าก่อน เหล่าบัณฑิตใหม่ป้ายแดงทั้งหลาย จบมายังไม่ทันจะได้เข้าที่เข้าทางอะไร งานก็ใช่ว่าจะมีกันแล้วครบทุกคน ไหนจะที่ได้งานแล้วและไม่ถูกใจก็ลาออกอีก หรือแม้ว่ามีงานแล้ว ฐานเงินเดือนก็ยังไม่ได้เหยียบค่าครองชีพในประเทศเราได้สักเท่าไหร่เลย… ก็ต้องมาเจอมหกรรมรับปริญญาที่มีค่าใช้จ่ายไม่น้อยเข้ามาอีก แถมยังหลีกเลี่ยงไม่ได้ซะด้วยถ้าเราดันเป็นหนึ่งในคนที่อยากจะได้เข้ารับปริญญา
ลองมาดูกันเล่นๆก่อนดีกว่าว่างานรับปริญญา จะมีค่าใช้จ่ายอะไรอยู่บ้าง เผื่อใครบางคนอาจจะอยู่ในช่วงที่กำลังหมุนเงินไม่ทัน หรือว่าจะต้องขอผู้ปกครองมาใช้ไปก่อนจะได้เอาไปบอกพ่อแม่ได้ถูก (แต่อย่าไปบอกเกินจำนวนล่ะ)
1. ค่าขึ้นทะเบียนบัณฑิต
ค่าขึ้นทะเบียนบัณฑิตเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็หลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน เพราะคิดจะเป็นบัณฑิตแล้วเนี่ยก็ต้องขึ้นทะเบียนบัณฑิตก่อนเป็นอย่างแรกเลย ซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 4,000 บาท ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย
2. ชุดรับปริญญา
ชุดครุย เข็มวิทยฐานะ ตราต่าง ๆ เข็มขัด ชุดราชปะแตน ชุดสูท ฯลฯ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องหามาเพื่อใช้ในงานนี้โดยเฉพาะเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วก็เป็นสิ่งที่ต้องทุ่มทุนกันหน่อย เพราะคงจะไม่มีใครมีชุดครุยเป็นของตัวเองแต่ดั้งแต่เดิมอยู่แล้ว ซึ่งก็จะมีรายจ่ายตกอยู่ที่ประมาณ 1,500 – 3,000 บาท แต่ก็จะมีการแบ่งอีกว่าเราจะสั่งเช่าชุดหรือ เช่าตัด หรือตัดชุดไปเลยอีกต่างหาก
- กรณีเช่า: ทางร้านจะมีไซส์มาตรฐานไว้ แล้ววัดตัวเราไปเทียบหาไซส์ที่ใกล้เคียงกับเรามากที่สุด ดังนั้นจึงอาจไม่พอดีตัวเท่าสั่งตัด แต่เหมาะกับคนที่ไม่ซีเรียสและไม่ต้องการเอาชุดมาเก็บให้รกตู้ ส่วนราคาจะต่างตามเนื้อผ้า เช่น ผ้าไหมอิตาลี, ผ้าชีฟองฝรั่งเศส, ผ้าทัตซูมิ, ผ้าโซลอน ฯลฯ ซึ่งจะต่างตรงน้ำหนัก การทิ้งตัวของผ้า และความเหมาะสมกับหุ่นเราเอง ราคาอยู่ที่ 500-1,000 บาท
- กรณีเช่าตัด: เจอกันครึ่งทางค่ะงานนี้ หากใครอยากได้ชุดพอดีตัว แต่ไม่ได้ถึงกับอยากได้มาเก็บใส่ตู้ เราสามารถเช่าตัดได้ ราคาก็จะถูกกว่าแบบสั่งตัด แล้วพอใช้งานเสร็จเราต้องส่งคืนทางร้านด้วย ราคาอยู่ที่ 1,000-3,000 บาทขึ้นอยู่กับเนื้อผ้า
- กรณีสั่งตัด: เหมาะกับคนมีงบและอยากเก็บใส่ตู้เป็นที่ระลึก และส่งมอบให้รุ่นน้องยืมไปใช้ได้ ราคาอยู่ที่ 2,000-3,000 บาทขึ้นอยู่กับเนื้อผ้าอีกเช่นกัน
3. รองเท้า
สำหรับบัณฑิตหญิง เรื่องรองเท้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะ ต้องใส่ทั้งวันแล้วเนี่ย ก็มีสิทธิ์ที่จะโดนรองเท้ากัดอย่างแน่นอน ซึ่งราคารองเท้าของผู้หญิงก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์ต่าง ๆ ว่าจะราคาเท่าไหร่ ซึ่งราคาก็จะเริ่มต้นอยู่ที่ 500 – 3,000 บาท
ส่วนสำหรับบัณฑิตชายก็อาจจะไม่ต้องกังวลในเรื่องรองเท้ากัดเท่าสาว ๆ แต่ว่ายังไงก็ต้องดูทรงรองเท้าให้ดี ๆ ว่าถูกต้องตามระเบียบหรือไม่
4. ค่าแต่งหน้า+ ทำผม
เรื่องง่าย ๆ ที่ยุ่งยากที่สุดสำหรับสาว ๆ เลยก็คือการแต่งหน้า โดยเฉพาะในวันรับปริญญา จะต้องมีการถ่ายรูปกับคนนู้น และคนนี้ และคนนั้น มากมาย รวมไปถึงจะต้องตากแดด ตากลม ตากฝน สู้ให้จบวันให้ได้ ดังนั้นการหาช่างแต่งหน้าที่ใช้เครื่องสำอางดี ๆ กับฝีมือดี ๆ นี่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งเรทราคาสำหรับช่างแต่งหน้าทำผมนั้น ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือและคุณภาพเครื่องสำอางนั่นแหละ ราคาก็จะอยู่ที่ราว ๆ 0 – 4,000 บาท/วัน
ส่วนผู้ชายนั้น หลาย ๆ คนอาจจะไม่ซีเรียสมากนัก แค่โปะแป้งบาง ๆ ปิดสิวนิด ๆ หน่อย ๆ และก็ใส่เจล ใส่แว๊กซ์ ลงผมให้ดูดีพอเป็นพิธี
5. ค่าถ่ายรูปรวม-รูปพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
ในงานรับปริญญาบัตร เราจะต้องมีรูปหมู่ที่ถ่ายรวมกับเพื่อน ๆ และอาจารย์ในคณะอย่างแน่นอน เพราะนั่นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นจุดมุ่งหมายของการรับปริญญาเลยก็ว่าได้ (และรูปนั้นก็จะมาประดับอยู่บนฝาบ้านเราไปจนชั่วลูกชั่วหลาน) ซึ่งราคารูปพร้อมกรอบจะอยู่ที่ราว 500 บาท แพงไปจนถึง 3,000 บาทเลยก็มี ซึ่งจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับกรอบที่เลือก ใครเลือกกรอบหรู ๆ ราคาก็ยิ่งสูงขึ้นตามนั้น
6. ค่าจ้างช่างภาพ
ในงานรับปริญญานั้น จะมีคนมาหาเรามากหน้าหลายตา ตั้งแต่คนรู้จัก ญาติสนิทมิตรสหาย ไปจนถึงใครก็ไม่รู้ที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเข้ามาหาเราทำไม พวกเขาเหล่านี้จะเข้ามาถ่ายรูปกับเรา ซึ่งการที่เราไม่จ้างช่างกล้องเนี่ยก็จะทำให้รูปกระจัดกระจาย และดีไม่ดี ขั้นเลวร้ายที่สุดก็คือ เราจะไม่ได้รีเช็คหน้าของเราว่าในรูปเป็นอย่างไร ซึ่งค่าจ้างจะแตกต่างกันตามฝีมือและประสบการณ์ (ยิ่งฝีมือและประสบการณ์เยอะเนี่ยเราจะยิ่งได้รูปที่ดีมากขึ้นเท่านั้น) แต่โดยปกติแล้วถ้าจ้างครึ่งวันก็จะประมาณ 3,000 บาท ส่วนเต็มวันจะอยู่ราว ๆ 5,000 บาท
7. งานฉลองเรียนจบ-เลี้ยงน้อง
สิ่งที่เรียกว่างานงอกของจริงก็คืออันนี้แหละ ความรักพี่รักน้อง รักเพื่อนรักพ้องมันสำคัญเท่าไหนก็ดูที่ตัวเลขตอนเช็คบิลกันเอาไว้ดี ๆ เรทราคาส่วนนี้ไม่สามารถกำหนดได้เลย
8. ใส่ซองให้รุ่นน้อง
เคยทำอะไรกับรุ่นพี่เอาไว้เราก็จะโดนสิ่งนั้นกลับเช่นกัน ในงานวันรับปริญญา จะมีรุ่นน้องเข้ามาบูมแสดงความยินดีให้กับพี่ ๆ บัณฑิตทุกคน ซึ่งตามธรรมเนียมแล้ว รุ่นพี่ก็จะต้องควักซองใส่เงินให้น้องเพื่อเป็นเงินเอาไว้จัดกิจกรรมต่อ ๆ ไปของรุ่นน้อง ซึ่งค่าเสียหายจากจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับศรัทธาของรุ่นพี่แต่ละคนเลย
9. ค่าเดินทาง-ที่พัก
สำหรับใครที่มหาวิทยาลัยไกลจากบ้าน การมารับปริญญาก็จะมาพร้อมกับค่าเดินทาง ค่าที่พักด้วย โดยค่าเดินทางนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าระยะทางใกล้ไกลขนาดไหน ส่วนค่าที่พัก ก็จะตกอยู่ที่ราว 0 - 1,000บาท/คืน แต่ก็ต้องมีค้างคืนอย่างน้อย ๆ ก็ 2 – 3 วัน สำหรับการซ้อมย่อย ซ้อมจริงและรับจริงอีกด้วย
สรุปโดยรวมแล้วก็คือ ค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่งอกเงยออกมา ก็มีที่มาเนื่องจากพิธีการที่จำเป็นจะต้องทำให้ทุกอย่างเป็นระเบียบและเรียบร้อยที่สุดนั่นแหละ แต่อย่างไรก็ตาม รายจ่ายที่คิดมาทั้งหมดนี้ก็ถือว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างจะสาหัสสำหรับนิสิตจบใหม่จริงๆ ใครที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายหรืออยากจะเก็บเงินไปใช้ในอย่างอื่นมากกว่า ก็อาจจะต้องวางแผนควบคุมการเงินให้ดี ๆ เลยล่ะ …
อ้างอิง : https://www.dek-d.com/activity/47010/
T.Pumpoung ไม่ต้องรับ ครับ ไม่ต้องเข้าพิธี อะไร หางานไป ยังไงก็ได้ครับปริญญาน่ะไม่ต้องซีเรียส ไม่รับก็ ได้ครับปริญญา
21 ธ.ค. 2561 เวลา 05.08 น.
New เราไม่ไปรับ มหาลัยส่งมาให้ที่บ้าน จบ
21 ธ.ค. 2561 เวลา 05.09 น.
ต้น กลายเป็นวัฒนธรรมไปซะแล้ว ลำบากพ่อแม่อีก ขี้ตามช้างกันต่อไป
21 ธ.ค. 2561 เวลา 05.27 น.
Nat ตปท.เรียนจบแล้วทางมหาวิทยาลัยเขาจัดส่งใบปริญญาให้ทางไปรษณีย์..
21 ธ.ค. 2561 เวลา 05.40 น.
ต้น Tom ประเมินได้แม่นยำไกล้เคียงคับ ประมานี้จิงๆ
21 ธ.ค. 2561 เวลา 05.11 น.
ดูทั้งหมด