ต่างประเทศ

นักวิเคราะห์มองอย่างไร เมื่อ BOJ เร่ิมปรับทิศนโยบาย แต่ยังผ่อนคลายกว่าคาด

ประชาชาติธุรกิจ
อัพเดต 31 ต.ค. 2566 เวลา 12.16 น. • เผยแพร่ 31 ต.ค. 2566 เวลา 12.12 น.
อาคารธนาคารกลางญี่ปุ่น (ภาพโดย Yuichi YAMAZAKI / AFP)

สำรวจความเห็นนักวิเคราะห์-นักเศรษฐศาสตร์ หลัง BOJ ตัดสินใจนโยบายการเงิน เริ่มเข้าสู่การปรับทิศนโยบายที่จะสิ้นสุดนโยบายแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ แต่ก็ยังผ่อนคลายเกินกว่าที่คาด

วันที่ 31 ตุลาคม 2023 สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) คลายการควบคุมอัตราดอกเบี้ยระยะยาว โดยปรับนโยบายการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอีกครั้ง ซึ่งเป็นอีกก้าวในการสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของ BOJ มีมติเอกฉันท์คงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ -0.1% และคงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอยู่ที่ประมาณ 0% แต่มีมติไม่เอกฉันท์ปรับเพดานการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) ของพันธบัตรอายุ 10 ปีขึ้นไปที่ 1% และยกเลิกความพยายามที่จะปกป้องระดับอัตราผลตอบแทนด้วยข้อเสนอที่จะซื้อพันธบัตรในจำนวนไม่จำกัด

คณะกรรมการนโยบายการเงินทั้ง 9 คนของธนาคารกลางญี่ปุ่นยังได้ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้และปีหน้าให้เกินเป้าหมาย 2% ด้วย เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่า BOJ ใกล้จะสิ้นสุดนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษแล้ว

คาซูโอะ อูเอดะ (Kazuo Ueda) ผู้ว่าการ BOJ กล่าวในการแถลงข่าวหลังการตัดสินใจนโยบายว่า ยังไม่เห็นหลักฐานเพียงพอที่จะมั่นใจว่าแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อจะแตะ 2% ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินจึงไม่เห็นความเสี่ยงใหญ่หลวงว่าจะเกิด behind the curve

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและตลาดมีสูงมาก จึงเหมาะสมที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นในการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน” BOJ ระบุในแถลงการณ์ที่ประกาศการตัดสินใจนโยบายการเงิน

หลัง BOJ ตัดสินใจนโยบายการเงิน ค่าเงินเยนต่อเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเกือบ 0.7% เนื่องจากนักลงทุนเทน้ำหนักไปที่คำมั่นสัญญาของ BOJ ที่ว่าจะรักษานโยบายผ่อนคลายเป็นพิเศษเอาไว้อย่างอดทน และคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่จะสูงกวาเป้าหมายอีกมากกว่า 1 ปี โดยคาดว่าชะลอตัวลงต่ำกว่า 2% ในปี 2025

หุ้น Nikkei ของญี่ปุ่นพลิกกลับเป็นขาขึ้น หลังจากที่ BOJ เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมากขึ้น ดัชนีอ้างอิง (benchmark) เพิ่มขึ้น 0.42% ไปอยู่ที่ 30,825.95 สัญญาซื้อขายล่วงหน้า พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) อายุ 10 ปีร่วงลงมากถึง 0.36 จุด มาอยู่ที่ 143.73 หลังจากมีการประกาศการตัดสินใจ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีอยู่ที่ 0.930% ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดตลาดเที่ยงวัน ซึ่งปรับลดลงจากช่วงเช้าที่ขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี ถึง 0.955%

หลังจากทราบมติกการตัดสินใจนโยบายการเงินของ BOJ รอยเตอร์ได้สำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์หลายคน ซึ่งในที่นี้ได้คัดมาบางส่วน ดังต่อไปนี้

นากะ มัตสึซาวา (Naka Matsuzawa) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านมหภาคของโนมูระ (Nomura) วิเคราะห์ว่า BOJ พยายามที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าที่เป็นไปได้ และไม่มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายเพิ่มเติม เช่น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าจะปรับเพิ่มการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ แต่ก็ยังคงระมัดระวังเป้าหมายเงินเฟ้อ 2%

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มองว่านี่เป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง เพราะมันยังคงอยู่ในเส้นทางการ normalize นโยบายการเงิน และเขาคิดว่าตลาดเงินกำลังเห็นค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและเงินเยนอ่อนค่าลงอีก

เขากล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ในตลาดมีการพูดคุยกันว่า BOJ อาจตั้งเป้าหมายอัตราผลตอบแทน 10 ปีไว้ที่ 1.5% ซึ่งเมื่อเทียบกับผลที่ออกมา ค่อนข้างจะดูผ่อนคลายกว่าที่คาดเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการดำเนินการที่จะเพิ่มความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยในตลาดทั่วโลก ซึ่งตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่า BOJ จะดำเนินการซื้อพันธบัตรอย่างไร

โทนี่ ไซคามอร์ (Tony Sycamore) นักวิเคราะห์ของซิตี้ อินเด็กซ์ (City Index) ในซิดนีย์ ออสเตรเลีย กล่าวว่า การตัดสินใจนโยบายในวันนี้จะช่วยให้ BOJ มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และหมายความว่าไม่จำเป็นต้องขยายงบดุลเพื่อปกป้องเพดานอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่กำหนดไว้ “มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ชาญฉลาดและจะซื้อเวลาของ BoJ ก่อนที่จะมีการปรับนโยบายให้เป็นปกติในปีหน้า”

ทาคายูกิ มิยาจิมะ (Takayuki Miyajima) นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ โซนี่ ไฟแนนเเชียล กรุ๊ป (Sony Financial Group) กล่าวว่า โดยรวมแล้ว การตัดสินใจนโยบายการเงินของ BOJ มีทิศทางผ่อนคลายมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ เพราะแม้ว่าจะยอมให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีขึ้นถึง 1% ก็ตาม แต่ก็มีแผนที่จะใช้มาตรการจำกัดอัตราผลตอบแทน หากอัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป

“การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อยังเป็นแบบอนุรักษ์นิยม โดยการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะต่ำกว่า 2% ในปี 2024 ซึ่งหมายความว่าจะยังคงมีเวลาจนกว่า BOJ จะออกจากนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ”

มาร์เซล ธีเลียนต์ (Marcel Thieliant) หัวหน้าฝ่ายเอเชีย-แปซิฟิกของบริษัทวิจัยแคิปตัล อีโคโนมิกส์ (Capital Economics) กล่าวว่า วันนี้ BOJ ได้ยกเลิก YCC แล้วโดยพฤตินัย และอาจสิ้นสุดอัตราดอกเบี้ยติดลบทันทีในการประชุมในเดือนมกราคม 2024

เจฟฟ์ อึ้ง (Jeff Ng) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์มหภาคเอเชียของธนาคารซูมิโตโม มิตซุย (SMBC) ในสิงคโปร์ กล่าวว่า ดูเหมือนว่า BOJ กำลังคืบหน้าอย่างช้า ๆ ไปสู่การยกเลิกการควบคุมอัตราผลตอบแทน (YCC) ดังนั้น นี่เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเพื่อความยืดหยุ่นมากขึ้น เนื่องจากอัตราผลตอบแทนทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับสูง

“บางทีตลาดอาจจะคาดหวังมากกว่านี้ หรืออาจเป็น buy the rumour, sell the fact (ซื้อเมื่อมีข่าวลือ และขายเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏ) ก็ได้”

ส่วน “ห้องค้ากสิกรไทย” ในไทย ประเมินไปในทิศทางเดียวกันว่า BOJ มีแนวโน้มปรับนโยบายการเงินไปฝั่งตึงตัวมากขึ้นในปีหน้า เมื่อพิจารณาจากทั้งเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นเหนือระดับ 2% รวม 19 เดือนติดต่อกัน ในขณะที่ค่าต้างญี่ปุ่นในปีนี้โดยรวมเพิ่มขึ้นราว 3.58% มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1993 และค่าเงินเยนมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในฝั่งอ่อนค่าต่อเนื่องทดดสอบระดับอ่อนค่าที่สุดของปี 2022 ที่ 151.95 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ

ดูข่าวต้นฉบับ