ไลฟ์สไตล์

ถุงผ้าและหลอดเหล็กเข้ามาเพื่อจากไป...หรือกระแส “รักษ์โลก” จะเป็นแค่เทรนด์?

LINE TODAY
เผยแพร่ 15 มิ.ย. 2561 เวลา 10.52 น. • @mint.nisara

ในยุคที่ทุกคนหิ้วถุงผ้าแทนถุงก๊อบแก๊บไปซูเปอร์เพื่อแลกกับส่วนลด ในช่วงที่ทุกคนจูงมือกันไปซื้อหลอดโลหะด้วยใจที่หวังว่าจะช่วยลดการใช้พลาสติกได้บ้าง แต่อีกใจนึงก็คืออยากลองใช้ตามเพื่อนๆ ดูสักตั้ง ในเวลาที่การปลูกป่าชายเลนคือกิจกรรม CSR เพื่อสังคม เทียบเท่ากับการทำความดี ตัวอย่างเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของกระแส “รักษ์โลก” ที่ทุกคนกำลังตื่นตัว ผ่านการปลุกปั้นของสื่อต่างๆ ผ่านวีดีโอไวรัลบนโลกโซเชียลมีเดีย และผ่านแฮชแท็กที่ใครๆ ก็อยากติดบนรูปของตัวเอง แสดงตัวว่าฉันก็เป็นประชากรของโลกนะ แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว การ “รักษ์โลก” นี้เป็นแค่อีกเทรนด์ที่กำลังมาและอาจจากไปในไม่ช้าหรือเปล่า?

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ถ้ามองในเชิงประวัติศาสตร์ การอนุรักษ์ธรรมชาติเป็นอะไรที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นร้อยๆ ปี มีกลุ่มที่ออกเคลื่อนไหวเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นจริงเป็นจังเกิดขึ้นครั้งแรกหลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ต้นศตวรรษที่ 20 ในช่วงเวลาที่โรงงานผุดขึ้นมาเต็มเมืองใหญ่และระดับมลพิษอยู่ในขั้นวิกฤต เลยทำให้มีกฎหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและจำกัดการปล่อยของเสียจากโรงงานตัวแรกที่ถูกผ่านออกมาในประเทศอังกฤษ มีขบวนการ Back to Nature ที่เกิดขึ้นในฝั่งยุโรปหลังจากนั้น นำโดยนักวิชาการเพื่อต่อต้านระบบบริโภคนิยมที่ทำลายธรรมชาติ มียุคที่การใช้ยาฆ่าแมลงถูกแบนหลังจากที่ได้รับความนิยมมากในช่วงปฏิวัติเกษตรกรรม มีขบวนการที่ประท้วงเรื่องสัมปทานพื้นที่ป่าด้วยวิถีสันติ ใช้การโอบกอดต้นไม้แทนเสียงของตัวเอง ขบวนการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าที่กลายเป็นจุดกำเนิดขององค์กรอย่างเช่น WWF ไล่มาถึงการก่อตั้ง Earth Day วันคุ้มครองโลกในปีพ.ศ. 2513 

จะเห็นว่าการรักษ์โลกไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นปุบปับแต่เป็นแนวคิดที่เติบโต จนมาถึงในช่วง 10 ปีหลังนี้ การเคลื่อนไหวเรื่องสิ่งแวดล้อมชัดเจนมากขึ้นเนื่องจากสถานการณ์รอบโลกเริ่มบีบบังคับให้เราต้องเห็นความสำคัญของมัน ในเวทีโลกมีการถกถึงประเด็นสิ่งแวดล้อมที่กลายเป็นวาระสำคัญ มีการทำสนธิสัญญาในกลุ่มประเทศเพื่อทำข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับความร่วมมือด้านนี้มากขึ้น มีการผ่านร่างกฎหมายที่ควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์เข้าช่วยการปกป้องสิ่งแวดล้อมอีกหนึ่งแรง และการอัดฉีดของสื่อก็ทำให้เรื่องนี้แทรกซึมไปยังบุคคลทั่วไปในภาคประชาชนได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ที่ทุกคนตื่นตัวเพราะเราเห็นถึงอนาคตว่าหากเราใช้ทรัพยากรธรรมชาติกันแบบไม่ยั้งคิด วันหนึ่งป่าก็จะหมด น้ำจืดที่ตอนนี้ยังมีอยู่เหลือเฟือ สักวันจะร่อยหรอ ผืนดินที่เราอยู่อาศัยก็จะถูกทำลายโดยมลพิษ ภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงของอากาศ ทุกอย่างจะย้อนกลับมาที่ตัวของมนุษย์เองทั้งสิ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“รักษ์โลก” ไม่ใช่เรื่องใหม่ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องเก่า แนวคิดนี้ควรอยู่ในบรรทัดฐานการใช้ชีวิตของมนุษย์ทุกคนอย่างยั่งยืน ไม่ใช่สิ่งที่ “ฮิตทำ” กันเป็นครั้งคราว แต่มันควรเป็นสิ่งที่เรา “คิดทำ” กันจนเป็นเรื่องธรรมดา 

เพื่อโลก…หรืออย่างน้อยก็เพื่อความอยู่รอดของเราเอง 

คุณเห็นด้วยหรือไม่?

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ความเห็น 49
  • NO One Here
    มันไม่ใช่เทรนมันคือสำนึก เค้าผลักดันมาหลายปีแล้ว คนไม่มีจิตสำนึกมันก็คิดไม่ได้
    15 มิ.ย. 2561 เวลา 13.04 น.
  • Empty Chat
    แต่เราคิดว่าถุงผ้ามันokอยู่นะ
    15 มิ.ย. 2561 เวลา 11.59 น.
  • Jumjim
    ที่นี่เค้าไม่แจกถุง ใครอยากได้ถุงต้องซื้อ เว้นแต่จะพาถุง ไปเอง รถเข็นก็ไม่มีคนเก็บ ต้องเก็บเองใช้เหรียญปลดล็อค ห้างที่ไทยน่าทำแบบนี่บ้างนะคะ
    15 มิ.ย. 2561 เวลา 14.16 น.
  • เราปลูกฝังมาสี่ 50 ปี แต่เราไม่ได้ทำเป็นตัวอย่างแล้วลูกหลานจะทำตามหรือไง คือต้นไม้ต้นนี้ให้ปุ๋ยกับน้ำที่ไม่ถูกวิธีมันเลยไม่โต
    15 มิ.ย. 2561 เวลา 14.13 น.
  • พิษณุ
    ใช่ครับเรื่องนี้อยู่ที่จิตสำนึกล้วนๆแค่ลดให้ได้ก่อนเถอะอย่าพูดถึงเลิกใช้เลยของบางอย่างบางทีก็ใส่ด้วยกันได้แต่ก็ให้แยกถุงน้ำดื่มแพคจะเป็นตัวปัญหามากโดยเฉพาะ1.5ลิตรแพค6ต้องใช้2ใบซ้อนเจอมือเล็กต้องเพิ่มอีกใบผูกทำหูหิ้วมีแค่ยี่ห้อเดียวที่ทำหูหิ้วแต่ก็ไม่ใช้แพมเพิสเด็กก็ถามใส่ถุงแม้จะมีหูหิ้วก็ตามแนะนำก็ไม่ได้โดนคอมเพลนอีกคงจะเลิกใช้ถุงกันได้ก็ต่อเมื่อต้องซื้ออากาศหายใจกันล่ะ
    15 มิ.ย. 2561 เวลา 14.56 น.
ดูทั้งหมด