ไลฟ์สไตล์

รากเหง้า ปัญหา Sexๆ

PLAYBOY Thailand
เผยแพร่ 09 ก.ค. 2563 เวลา 08.00 น.

ก่อนที่เราจะมาเข้าสู่เนื้อหานั้น ผมมีเรื่องจะสารภาพกับพี่ๆ น้องๆ ครับ ว่าบทความนี้ผมรื้อใหม่มารอบหนึ่ง เพราะว่าไอ้รอบแรกนั้น ผมได้สกัดและแยกแยะปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง sex ในมุมมองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางสังคม ทางความรู้สึก สภาวะจิตใจที่มีผลจาก sex โรคติดต่อ แบบแยกย่อยละเอียดมาก

จนจะเหมือนวิชาในมหาวิทยาลัย ซึ่งผมรู้สึกว่า… มันน่าเบื่อไปป่าววะ หลายๆ คนก็คงรู้ปัญหาหลายๆ ด้านที่สื่อชอบประโคมข่าวให้ดูเว่อร์ ให้ดูเสียหาย สังคมเน่าเฟะ เห็นกันจนเอียน ฉะนั้น ผมจะย้อนอดีต ตามรอยวิถีสืบพันธุ์กันแบบดิบๆ ไปเลย ก่อนจะมามีสังคม มามีความรู้ทางการแพทย์ ก่อนจะดราม่าแบบเรื่องสกปรก รับไม่ได้ Sex หรือ การสืบพันธุ์ คือ กิจกรรมทั่วๆ ไปที่มีในทุกสิ่งมีชีวิต จะปี้กันก็แลดูเป็นเรื่องธรรมดาตามกฎของธรรมชาติ ถ้าเราย้อนไปถึงสมัยอยู่ในถ้ำ เราคงไม่ได้มี sex เพื่อความบันเทิงสักเท่าไร ส่วนจะเป็นลักษณะจ่าฝูง มีฮาเร็มแบบสิงโต หรือจะเป็นแบบบางเผ่า ที่ผู้หญิงคนเดียว มีสามีนับสิบ ฟังก็ระบมแทนละ (ใครสนใจค้นในพี่กูได้) ปัญหาที่มีแต่ดั้งแต่เดิม ก็มีเรื่องการติดเชื้อ จะว่าเป็นการคัดเลือกคุมประชากรตามธรรมชาติก็ได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่โรคในสมัยนั้นก็ไม่เยอะขนาดสมัยนี้ และที่น่าสนใจคือโรคบางโรคที่เกิดจาก sex ถูกกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของภูติผีปีศาจ ยกตัวอย่างเช่นในสมัยเรเนซองก์ ของยุโรป (เมืองเนเปิล ประเทศอิตาลี ปี 1495) กองทัพซอมบี้จำนวนมากบุกเข้ามาในเมือง เนื้อตัวเน่า ชิ้นเนื้อหลุดลุ่ยร่วงหล่นจากใบหน้า สมองสับสน สติไม่สมประกอบ สภาพเหมือนศพเดินได้ ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง คนที่ป่วยและไม่ได้รับการรักษา จะเป็นโรคผิวหนัง มีไข้ ระบบกล้ามเนื้อและร่างกายเริ่มเน่า

นี่คืออาการของโรคซีฟิลิซ ซึ่งมีโคลัมบัสเป็นคนแพร่เชื้อ (คนที่พบทวีปอเมริกานั่นล่ะ) และความน่าสยดสยองกว่านั้น คือไอ้การรักษาแบบบ้าๆ บอๆ สมัยก่อน เช่น เฉือนหู เฉือนจมูก หรือใช้ตะกั่ว กิน สูด ดม ทา เอาเป็นว่ามันเละเทะกันสุดๆ เลยครับ ระบาดทั่วยุโรป และระบาดนานถึง 500 ปี กว่าจะมีวิธีรักษาได้ (ระบาดหนักมากเพราะว่าชาวยุโรปไม่มีภูมิต้านทาน) กลับไปมุดถ้ำ ดูหินย้อย สมัยที่มนุษย์ล่าสัตว์มากกว่าเพาะปลูก การมี sex มากเกินไป หมายถึง หายนะ เพราะการที่มีประชากรผู้ล่ามากขึ้น เหยื่อก็ย่อมจะลดลงเป็นธรรมดา ยิ่งสมัยก่อนไม่มีการป้องกันการตั้งครรภ์ เมื่อมีลูกมีหลานมาก อาหารก็ไม่พอ ล่ามากไปก็หมด อดมากไปก็อาจตายได้ เป็นวัฏจักรตามครรลองของธรรมชาติ ที่ยังไม่มีค่านิยมทางสังคมมาเกี่ยวข้อง

ถ้าจะยกตัวอย่างเหตุการณ์แนวสุดๆ ก็ต้องย้อนไปถึงพวกแอซเทค อินเดียนแดงบางเผ่า หรือชาวเผ่าในปาปัวนิวกินี ที่มีความเชื่อว่า การกินเนื้อคนเป็นเรื่องที่ดี มันมีเหตุการณ์ที่บางเผ่าเสบียงขาดแคลน แล้วต้องหันมากินกันเอง หรือออกไปล่าเผ่าอื่นเพื่อมากิน พูดง่ายๆ ว่า การที่มี sex ส่งผลให้ประชากรมีมากไป และการมีประชากรมากไปทำให้กินบ้านกินเมือง ถุ้ย บริโภคทรัพยากร กินเนื้อกินผักมากไป ทำให้ของเริ่มขาดแคลน จัดหาไม่ทัน เริ่มเข้าสู่สภาวะอดอยาก เสื่อมโทรม แก่งแย่งชิงดี เลวร้ายหน่อยก็กินกันเอง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ซึ่งการวางแผนประชากร หรือกิจกรรมที่เกิดขึ้นในเผ่านั้น ล้วนมาจากร่างทรง ในบางวัฒนธรรมถึงกับมีการให้ข่มขืน หรือไปล่าตัวหญิงเผ่าอื่นเพื่อมาตั้งครรภ์ พอออกลูกแล้วก็ฆ่าทิ้งเลยก็มี การใช้ sex เป็นเครื่องมือ มีรากฐานมาตั้งแต่สมัยโบราณ และเมื่อสังคมเราซับซ้อนมากขึ้นดังปัจจุบัน sex ก็เลยกลายเป็นข้ออ้าง หรือตราบาปในสังคมแบบที่เชื่อว่า เอาตัวแลกเงิน เอากายแลกตำแหน่ง ไต่เต้าด้วยเต้าไต่ ใครที่สวยไป ดูดีไป ก็ซวยไป ปัญหาแบบมาจากต้นตอโคตรเหง้าศักราช ก็มีเพียงแค่นี้ ส่วนไอ้เรื่องปัญหาทางความรู้สึก คงเอาไว้คุยกันรอบหลัง ถ้าคุณสนใจอ่ะนะ ก่อนจากกัน หากคิดจะมี sex ให้คิดก่อนสักนิด หรือถ้าคิดไม่ออก จะดู playboy แก้ขัดไปก่อนก็ได้ แล้วพบกันใหม่ครับ

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • Worz_Li
    😵มึนดี!ใช้ได้😅ๆ
    09 ก.ค. 2563 เวลา 14.48 น.
ดูทั้งหมด