ไลฟ์สไตล์

เปิดตัว! โรงแรมบาล 2 แห่งในกทม. ดูแลผู้ติดโควิด-19

ชิลไปไหน
เผยแพร่ 02 เม.ย. 2563 เวลา 05.34 น. • ชิลไปไหน
เปิดตัว! โรงแรมบาล 2 แห่งในกทม. ดูแลผู้ติดโควิด-19

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวความคืบหน้าในการนำโรงแรมมาใช้เป็นโรงพยาบาลสนามว่าได้จัดเตียงรองรับผู้ติดเชื้อที่จะเพิ่มมากขึ้น ภายใต้ความร่วมมือกับสถานพยาบาลทุกสังกัดได้หารือร่วมกันและเสนอแนวทางหนึ่งในการบริหารจัดการเตียง รองรับกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการรุนแรง ซึ่งมีอยู่ประมาณ 80 % ของผู้ติดเชื้อ โดยการประสานโรงแรมที่มีความพร้อมและผ่านการประเมินตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาเป็นสถานพยาบาลพิเศษ สำหรับให้ผู้ติดเชื้อเข้าพักฟื้นหลังจากเข้ารับการดูแลในโรงพยาบาลหลักครบ 7 วันแล้วแพทย์ประเมินว่ามีอาการน้อย ซึ่งมีผู้ประกอบการโรงแรมสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก แต่การจะอนุญาตโรงแรมใดจะต้องผ่านประเมินมาตรฐานและการอนุมัติเรื่องบุคลากรทางการแพทย์ที่จะมาดูแลจากกรมการแพทย์ก่อน โดยในพื้นที่กทม.มีโรงแรมที่มีความพร้อมและผ่านการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

1.โรงแรมปริ๊นซ์ตัน มีห้อง 270 ห้อง รับผู้ติดเชื้อมาดูแลแล้ว 50 ราย 

2.โรงแรมเดอะพาลาสโซ เครือโรงแรมดิเอมเมอรัล มีห้องราว 430 ห้อง 

คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีผู้ป่วยเข้าพักฟื้นที่โรงแรมนี้ รวมแล้วในพื้นที่กรุงเทพฯ มีห้องรองรับ 700-800 ห้อง เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่ามีเตียงพักเพียงพอในการดูแลผู้ติดเชื้อ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นอกจากนี้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพยังบอกหลักเกณฑ์การประเมินโรงแรมมาเป็นโรงพยาบาลสนามว่า จะต้องผ่านเกณฑ์ทั่วไป 2 ข้อในเบื้องต้น คือ มีห้องพักมากกว่า 30 ห้อง และมีใบอนุญาตกิจการโรงแรม และเข้ารับประเมินอีก 5 หมวดสำคัญ ได้แก่ 

1.โครงสร้างอาคารและวิศวกรรม โครงสร้างสมบูรณ์ พื้นห้องพักไม่เป็นพรหม ระบบปรับอากาศแยกส่วนไม่เป็นระบบท่อส่งลมร่วมกัน มีระบบโทรศัพท์สื่อสาร เป็นต้น 

2.บุคลากร จะต้องมีพนักงานเหมือนโรงแรม โดยผ่านการอบรมก่อน เช่น เจ้าหน้าที่ส่งอาหาร เจ้าหน้าที่ทำความสะอาด และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เป็นต้น 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

3.มีวัสดุอุปกรณ์จำเป็น 

4.ยา เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล

5.การจัดการสิ่งแวดล้อมและเป็นมิตรกับชุมชน เช่น มีระบบการจัดการขยะติดเชื้อ รวมถึงการกำจัดภาชนะบรรจุอาหารติดเชื้อ มีระบบการบำบัดน้ำเสียและความเป็นระบบปิด มีการเติมคลอรีนก่อนปล่อยสู่สาธารณะ มีระบบกำจัดสิ่งปฏิกูลและมีระบบท่อน้ำทิ้งที่ได้มาตรฐาน มีระบบการจัดการซักล้างผ้าติดเชื้อ และมีแนวทางสร้างความเจ้าใจและการยอมรับจากชุมชนโดยรอบ 

สำหรับค่าใช้จ่ายนั้น ฮอสพิเทลจะถือเป็นส่วนหนึ่งของสถานพยาบาล และคนที่เข้าพักเป็นผู้ป่วย ค่าใช้จ่ายในการเข้าพักฟื้นที่นี่จึงสามารถเบิกในอัตราเบิกได้จากกองทุนประกันสุขภาพภาครัฐตามสิทธิ์ผู้ป่วยได้ ส่วนโรงแรมที่จะเป็นสถานที่กักตัว กรมมีการจัดทำหลักเกณฑ์มาตรฐานเช่นกันแต่จะไม่เข้มงวดเท่าโรงแรมที่ดูแลผู้ติดเชื้อ โดยจะประสานให้สมาคมโรงแรมนำเกณฑ์นี้ไปประเมินโรงแรมที่จะเข้าร่วมโครงการ จากนั้นกรมจะประกาศรายชื่อในเวบไซต์ เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้ว่าโรงแรมแห่งใดผ่านมาตรฐานและสามารถเข้าใช้พักเพื่อกักตัวได้

ที่มา :  กรุงเทพธุรกิจ

บทความที่น่าสนใจ 

จริงหรือไม่ 9 ข้อสงสัยกับโควิด-19

ยืนยันไม่ได้! WHO เผย กลั้นหายใจได้นาน 10 วินาที ไม่เท่ากับไร้โควิด

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 11
  • kruea
    ในเมื่อสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้ นักท่องเที่ยวหดหาย แต่โรงแรมมีค่าใช้จ่ายเท่าเดิม จึงเลี่ยงไม่ได้ ยอมเปิดให้เป็นสถานที่กักตัวสำหรับผู้รอผลโควิด ว่า ติดหรือไม่ติด ยอมรับว่าเจ้าของโรงแรมทั้ง 2 แห่ง ใจดีจริง ๆ เป็นไปได้รัฐบาลต้องจ่ายเงินให้กับ 2 โรงแรมนี้ด้วยนะ ที่ยอมให้แปลงเป็นสถานที่กักตัวสำหรับผู้ป่วยโควิด ทั้ง ๆ ที่ทั้งพนักงานในโรงแรมและเจ้าของเค้าก็กลัวอยู่เหมือนกัน
    04 เม.ย. 2563 เวลา 14.49 น.
  • รักชนก
    สุดยอดเลยคะ
    03 เม.ย. 2563 เวลา 15.57 น.
  • INDy
    ใกล้บ้าน อยากไปช่วยคุณหมอ เจ้าหน้าที่ด้วยจังคับ
    02 เม.ย. 2563 เวลา 14.47 น.
  • Tee
    อ่านให้ดีๆ เขาเบิกเงินจากรัฐนะครับ ไม่ใช่ให้ใช้ฟรี
    02 เม.ย. 2563 เวลา 13.58 น.
  • Miss Napatsaran
    อยากทราบราคาว่าคิดค่าใช้จ่ายเท่าไรต่อวัน
    02 เม.ย. 2563 เวลา 13.52 น.
ดูทั้งหมด