พิษโควิด-19 ระบาดทั่วโลกและในไทยยืดเยื้อ กระทบอุตสาหกรรมกุ้งไทยชะงักทั้งซัพพลาย สหรัฐ-อียู ตลาดหลักเดี้ยง ซ้ำโอลิมปิก ญี่ปุ่นถูกเลื่อนออร์เดอร์วูบ คาดผลผลิตปีนี้เหลือเพียง 2 แสนตัน ส.แช่เยือกแข็งกุมขมับเร่งถกกรมประมงพร้อมทุกฝ่ายด่วน หามาตรการช่วยเหลือหลังผลผลิตราคา ขาดทุนถ้วนหน้า
นายบรรจง นิสภวาณิชย์ ที่ปรึกษาสมาพันธ์เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากรมประมงประชุมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ส่งออก ห้องเย็นแปรรูป เกษตรกรผู้เลี้ยง เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร จากปัญหาราคากุ้งตกต่ำ ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลก ทำให้ตลาดผู้รับซื้อกุ้งทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป (อียู) และจีน ต่างมีกำลังซื้อลดลง โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นที่ซื้อกุ้งไทยลอตใหญ่ ก็เพิ่งประกาศเลื่อนการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก 2020 ไปแล้ว และนำสต๊อกเก่าออกมาใช้ ส่งผลต่อการซื้อกุ้งลอตใหม่จากไทยลดลง
ประเด็นนี้ ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทยขาดทุนและเดือดร้อนหนัก ราคากุ้งลดลง กก.ละ 40-50 บาท โดยกุ้งขนาด 100 ตัวต่อ กก.เหลือเพียง กก.ละ 105 บาท ขนาด 70 ตัวต่อ กก.เหลือเพียง กก.ละ 135-150 บาท และยังเหลือกุ้งในบ่อเลี้ยงอีกมากที่ยังไม่จับขึ้นมาจำหน่าย และมีแนวโน้มว่าจะต้องยืดเวลาการเลี้ยงรอบใหม่ออกไปอีก หากโรคระบาดยืดเยื้อ โดยในสัปดาห์นี้ทางกลุ่มเกษตรกรจะนำเสนอข้อมูลการเลี้ยงในช่วง 2-3 เดือน ที่ผ่านมาต่อที่ประชุมด้วย โดยคาดว่าผลผลิตกุ้งเลี้ยงปีนี้จะเหลือเพียง 200,000 ตัน แต่สมาพันธ์ยังไม่ลดเป้าหมายการเลี้ยงปีนี้ที่วางไว้ 320,000 ตัน เพราะหากโรคระบาดโควิด-19 ไม่ยืดเยื้ออาจจะกลับมาเลี้ยงได้
“เกษตรกรทั่วประเทศปล่อยกุ้งลงเลี้ยงประมาณปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา 50% ของปริมาณการเลี้ยงปกติ เพราะช่วงนั้นเพิ่งเริ่มเกิดโรคระบาดโควิด-19 แต่เมื่อโรคระบาดยืดเยื้อ กุ้งที่จับขึ้นมาจำหน่ายราคาตกต่ำ ทำให้เกษตรกรยังไม่จับกุ้งในบ่อขึ้นมาจำหน่ายอีกมาก ขณะที่ห้องเย็น ผู้ส่งออกพร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือหลังการประชุมครั้งนี้”
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า ตอนนี้ทุกประเทศเจอปัญหาส่งออกกุ้งทั้งหมด ยังประเมินลำบากมาก ก่อนหน้านี้มีแค่จีน แต่ตอนนี้กระทบไปทุกภูมิภาค ไทยเองก็กระทบ โดยเร็ว ๆ นี้จะประชุมหาแนวทางกับกรมประมงอีกครั้ง เพื่อรับมือกับมาตรการและช่องทางตลาด
“ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ในขณะนี้ เพราะทุกประเทศกระทบเหมือนกัน ตอนนี้เราต้องดูออร์เดอร์ช่วง 2 เดือน เม.ย.-พ.ค. กรณีเลวร้ายสุดหากยังไม่ดีขึ้น หลังจากนั้นจึงจะสามารถประเมินอีกครั้ง เพราะกุ้งเรายังต้องพึ่งพาทั้งตลาดในและนอกอยู่ ทำอย่างไรไทยจะชะลอปัญหาโควิดและฟื้นตัวให้เร็วที่สุด เราต้องช่วยกัน”
นายบรรจง จำนงศิตธรรม รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า เบื้องต้นมีแนวคิดจะปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์และเพิ่มช่องในการส่งออก ซึ่งจากเดิมส่งสินค้ากุ้งมีชีวิตไปทางเครื่องบินอาจเปลี่ยนเป็นส่งออกโดยรถและเปลี่ยนเป็นกุ้งแช่แข็ง หรือกุ้งต้มแทน และหาตลาดใหม่ทดแทน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว และกัมพูชา ที่ปัจจุบันมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น กรมประมงคาดหวังว่าแนวทางดังกล่าวจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ตรงจุด และสามารถช่วยระบายผลผลิตของเกษตรกร
ขณะนี้้นำร่องให้เกษตรกรเข้าใช้ระบบและจำหน่ายสินค้าด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก ซึ่งประชาชนสามารถสั่งจองสินค้าผ่านทางเว็บไซต์กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) สินค้ากุ้ง ในปี 2563 คาดว่าการผลิตกุ้งทะเลไทยจะมีปริมาณ 325,000 ตัน ส่งออก 82.76% และบริโภคภายในประเทศ 17.24% ผลผลิตมีเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ แต่การส่งออกอาจจะได้รับผลกระทบ
เมื่อวานไปตลาดนัดขายกับข้าวตอนเย็น ซื้อมากิโลละ 220
10 เม.ย. 2563 เวลา 08.37 น.
Bobnathee ในซุปเปอร สีเขียว สีแดง ถ้าโล 100ตัว ราคา120บาท เอามาขายสิ ยังไงก้หมด
10 เม.ย. 2563 เวลา 06.52 น.
Chaipattanavik ส่งออกไม่ได้มันก็จับไปแช่แข็งเก็บได้เป็นปี คนไทยหรือจะได้ซื้อถูกๆ มีแต่แพงขึ้นทุกวัน
10 เม.ย. 2563 เวลา 06.49 น.
pim ที่ไหนขาย50?220ขึ้นทั้งนั้น
10 เม.ย. 2563 เวลา 06.45 น.
วิชล คนไทยแต่เดิมกินปลาแดง,ปลาทู คือปลาคนจน เห็นเดี๋ยวนี้สยองมากจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ ค่าแรงมี300฿
10 เม.ย. 2563 เวลา 12.58 น.
ดูทั้งหมด