ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เรื่องต้องรู้ ‘ดองกิ’ สาขาแรกในไทย ของยักษ์ญี่ปุ่นผู้ท้าชิงรายใหม่ในตลาดรีเทลบ้านเรา ก่อนเปิดจริง 22 ก.พ.นี้

Marketing Oops
อัพเดต 18 ก.พ. 2562 เวลา 09.37 น. • เผยแพร่ 18 ก.พ. 2562 เวลา 05.05 น. • Lupang

donki-cover
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ในที่สุดสนามแข่งขันในธุรกิจรีเทลบ้านเรา ก็ได้ต้อนรับผู้ท้าชิงรายใหม่ที่ดีกรีไม่ธรรมดาอย่าง ‘ดองกิโฮเต้’ (Don Quijote) ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น โดยในวันที่ 22  ก.พ.นี้ เตรียมเปิดตัวร้านดิสเคาน์สโตร์ชื่อดัง ‘ดอง ดอง ดองกิ’ (DON DON DONKI) หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่า ดองกิ (Donki) สาขาแรกในไทยที่ย่านทองหล่อ

สำหรับคนไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวขาชอปที่ชอบไปญี่ปุ่น ต้องคุ้นเคยกับ ‘ดองกิ’ เป็นอย่างดี เพราะที่นี้ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายที่เหล่าขาชอปต้องไปละลายเงินหรือซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับมา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

donki shop

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ภาพจาก Don Don Donki Thailand Facebook

‘ดองกิ’ เริ่มต้นธุรกิจในปี 2523 อยู่ภายใต้การบริหารของ Don Quijote Group ประเทศญี่ปุ่น ด้วยการประกาศตัวชัดเจนว่า เป็น ‘ร้านดิสเคาน์สโตร์’ หรือ ร้านค้าลดราคา ซึ่งเสน่ห์นอกจากราคาถูก ก็คือ การมีสินค้าให้เลือกมากมายและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สินค้าอุปโภคบริโภค , เครื่องเขียน , สินค้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋า แบรนด์เนม เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องกีฬา ของเล่น ของกินที่มีทั้งขนม อาหารสด และอาหารแช่แข็ง ฯลฯ

สรุปง่าย ๆ มีตั้งแต่ สากกะเบือ ยันเรือรบ

ภาพจาก Don Don Donki Thailand Facebook

ภาพจาก Don Don Donki Thailand Facebook

นอกจากราคา และสินค้า จะเป็นตัวชูโรงแล้ว ที่นี้ยังพยายามเปิดให้บริการดึกกว่าห้างอื่นๆ ของญี่ปุ่น และบางสาขาเปิดให้บริการกัน 24 ชั่วโมง (รวมถึงดองกิสาขาแรกในไทยที่ทองหล่อด้วย) ซึ่ง ‘ดองเปง’ (Donpen) มอสคอตเพนกวินสีฟ้าที่สวมหมวกนอน นั่งอยู่บนพระจันทร์เสี้ยว เป็นตัวแทนที่สื่อถึงเรื่องนี้และถือเป็นสัญลักษณ์ประจำร้านด้วย

ด้วยการวาง Position และกลยุทธ์ชัดเจน ดองกิ กลายเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ด้านรีเทลของญี่ปุ่น ปัจจุบันมีสาขารวมมากกว่า 368 สาขาในญี่ปุ่น , สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์   โดยสาขาที่สิงคโปร์เปิดตัวไปเมื่อเดือน ธ.ค.2560 ณ ออชาร์ด เซ็นทรัล

domki3

ส่วนไทย จะเป็นประเทศที่ 3 ที่ทางดองกิโฮเต้จะเข้ามาลงทุน

ในลักษณะร่วมทุนกับ บริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตสีทาบ้าน TOA และ บริษัท นิปปอน พาร์คกิ้ง ดีเวลลอปเมนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการบริหารจัดการที่จอดรถจากประเทศญี่ปุ่น จัดตั้ง บริษัท เจซีอี-ทีโอเอ จำกัดขึ้นมาดูแลและบริหาร ศูนย์การค้าดองกิ มอลล์ ทองหล่อ (Donki Mall Thaonglor)

ศูนย์การค้าแห่งนี้ ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 10 ใกล้ปากซอย เอกมัย 5 ตรงข้ามกับ Park Origin Thonglor  หรือ Arena 10 เดิม ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวในอดีตเป็นสำนักงาน TOA Group และถือเป็น Prime Location ที่มีกำลังซื้อสูง เพราะเป็นทั้งย่านธุรกิจ แหล่งท่องเที่ยวสังสรรค์ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น

ตัวศูนย์ เป็นอาคาร 8 ชั้น มีพื้นที่กว่า 26,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยพื้นที่รีเทล ร้านอาหาร คาเฟ่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และฟิตเนส

donki2

ส่วนไฮไลท์หลัก ๆ  หนีไม่พ้นร้านดังที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น โดยพระเอก ก็คือ DON DON DONKI ร้านดิสเคาน์สโตร์ อยู่บริเวณชั้น 1 และ 2 ซึ่งสาขานี้จะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ตอบไลฟ์สไตล์ของคนย่านนี้โดยเฉพาะ รวมไปถึง Nana”s Green Tea ร้านคาเฟ่ชาเขียวชื่อดัง ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 , Sanrio Bakery ร้านเบเกอรี่คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น , D-Sports Stadium  ร้านเกมและกีฬา ฯลฯ

donki5

 

การเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ในวงการรีเทลของบ้านเรา โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้มีหลายรายได้เข้ามา อาทิ ‘ไทยไดมารุ’ , ‘สยามจัสโก้’ , ‘อิเซตัน’ , ‘โตคิว’  แต่สุดท้ายก็ต้องถอยออกไปกันเป็นแถว ยกเว้น  ‘อิเซตัน’ ในย่านราชประสงค์ และ ‘โตคิว’ ที่มาบุญครอง

นอกจากนี้ยังมี ‘ทาคาชิมายะ’ ที่จับมือ ‘สยามพิวรรธน์’ ลงทุนราว 3,000 ล้านบาท เปิด ห้างสยามทาคาชิมายะ ที่ไอคอนสยาม ไปเมื่อต้นเดือน พ.ย. 2561

ส่วนการเข้ามาของ ‘ดองกิ’ จะสร้างแรงสั่นสะทือนให้กับวงการรีเทลในไทยอย่างไร จะเหมือนตอนเข้าไปที่สิงคโปร์หรือไม่ รวมถึงจะมีกลยุทธ์อะไรเป็นหมัดเด็ด หรือวางแผนรุกไว้อย่างไร ทาง Marketing oops จะมานำเสนออีกครั้ง

อ่านบทความทั้งหมด ที่ MarketingOops.com

ดูข่าวต้นฉบับ