จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง จับกุมนายสุรินทร์ ยันตะดิลก หรือ บังฮิม อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาในคดีข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย ข่มขืนใจผู้อื่นฯ และข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน และ บุกรุกเคหะสถาน โดยเจ้าตัวบอกว่า รู้สึกสำนึกผิด และหากพ้นโทษจะไม่ก่อเหตุเช่นนี้อีก ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่าน : โจรหื่นบุกขืนใจสาวคาห้องพัก สำนึกผิดพร้อมขอโทษ รับทำครั้งแรก ลั่นต่อไปไม่ทำอีก )
ล่าสุด วันที่ 23 ก.ย. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุที่หอพักแห่งหนึ่งภายในย่านรัชดา เป็นสถานที่ที่นายสุรินทร์ ยันตะดิลก หรือ บังฮิม ผู้ต้องหา ได้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราหญิงสาวในหอพัก โดยทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยสอบถามกับผู้ดูแลหอพัก พร้อมบอกว่า ตั้งแต่เปิดหอพักมากว่า 20 ปี ไม่เคยมีเหตุในลักษณะนี้ ที่ผ่านมาก็ดูแลกันเองและอยู่กันอย่างปลอดภัยมาตลอด โดยผู้เช่าส่วนใหญ่ก็ทำงานภายในโรงแรมที่อยู่ปากซอย
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนได้ยินว่านายบังฮิม ผู้ต้องหา ตั้งใจมาหาเพื่อนในห้องพัก ซึ่งพ่อกับเพื่อนนายบังฮิมก็พักอยู่ชั้นล่างของหอพัก แต่ทุกคนไม่ทราบเรื่องที่นายบังฮิมไปข่มขืนคนในหอ ส่วนเรื่องที่นายบังฮิมไปเคาะตามห้องอื่น ๆ จริงเท็จอย่างไร ตนไม่ทราบ เพราะไม่มีกล้องวงจรปิด และไม่มีใครมาแจ้งให้ทราบ ส่วนตัวยอมรับว่าทางหอพักไม่เคยติดตั้งกล้องวงจรปิดมาก่อน แต่พอเกิดเรื่องก็ได้นำรั้วเหล็กมาล้อมไว้ โดยลูกบ้านทุกคนต้องป้องกันตัวเองด้วย พร้อมทั้งล็อกประตูห้อง แต่หอพักยืนยันว่าจะพยายามแก้ไขหรือทำให้ดีที่สุดในเรื่องความปลอดภัยที่ต้องดูแลให้รัดกุมมากขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ดูแลหอพัก บอกว่า ไม่ได้รู้จักกับนายบังฮิม และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ส่วนที่บอกว่านายบังฮิมมาดื่มสุราบ้านเพื่อนในละแวกนี้นั้น ตนไม่ทราบเรื่องนี้ สำหรับเรื่องที่นายบังฮิมเข้าออกหอพักได้เป็นเพราะถ้าลูกบ้าน เช่าบ้านอยู่ แล้วมีคนเข้ามาหาลูกบ้าน ตนก็คงไม่มีสิทธิ์เข้าไปห้ามไม่ให้เขาเข้ามาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายที่ถูกนายบังฮิมข่มขืนกระทำชำเรา ยังคงพักอยู่ภายในห้องเช่า
ด้านน.ส.แหวน (นามสมมติ) ผู้พักอาศัยภายในซอย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนไม่รู้สึกผิดสังเกตว่าจะมีเหตุคนข่มขืน ส่วนตัวผู้นายบังฮิมที่ถูกจับ ตนไม่เคยคุ้นเคยหรือเห็นหน้ามาก่อน แต่ทราบว่านายบังฮิมตั้งใจมาหาแฟน ซึ่งแฟนคนนี้เป็นสาวประเภทสอง และเจอกันผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยแฟนสาวเช่าห้องอยู่กับพ่อภายในหอพักที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนก็ยังไม่เจอน้องผู้เสียหาย แต่คิดว่ายังไม่ย้ายออกจากห้องเช่าแต่อย่างใด ที่ผ่านมา หอพักภายในซอย ก็ดูแลเรื่องความปลอดภัยค่อนข้างดี แต่ขาดเรื่องการติดตั้งกล้องวงจรปิด ตนก็อยากให้มีการติดตั้งกล้องเพิ่มภายในซอย จะได้สามารถจับคนร้ายได้ เพราะเคยเกิดเหตุการวิ่งราวทรัพย์ในซอยอยู่บ่อยครั้ง
ถ้าอยากชัวร์ว่าเขาจะไม่ทำอีก
ก็ประหารเลยสิ
จะได้มั่นใจ 100%
23 ก.ย 2561 เวลา 23.19 น.
sak ต้องโทษศาลด้วยอะไรๆก็ลดโทษแค่รับสารภาพได้ลดโทษแล้วอยู่ในคุกทำตัวดีได้รับอภัยโทษอีก แล้วเมื่อไรพวกชั่วจะสำนึก ศาลต้องนึกถึงผู้เสียหายให้มากหน่อย คนร้ายได้ลดโทษ ผู้เสียหายมีบาดแผลติดตัวตลอดชีวิต
23 ก.ย 2561 เวลา 23.54 น.
MU แอมแนสตี้ มารับไปเลี้ยงนะ...
23 ก.ย 2561 เวลา 23.26 น.
เขาบอกไม่ทำอีกแล้ว นักโทษชั้นดีเยี่ยม ดียิ่งกว่าคนไม่เคยทำผิด ราชทัณฑ์รีบปล่อยเขาเร็วๆ
23 ก.ย 2561 เวลา 22.44 น.
สู้ๆนะติดไม่กี่วันเดี๋ยวก้อออกแล้ว
23 ก.ย 2561 เวลา 23.30 น.
ดูทั้งหมด