ไอที ธุรกิจ

(บทความ) Epic Game Store ผู้ร้ายที่คนเกลียด หรือ อัศวินขี่ม้าขาว ?

GameFever TH
อัพเดต 10 ต.ค. 2562 เวลา 07.47 น. • เผยแพร่ 10 ต.ค. 2562 เวลา 14.42 น. • GameFever.co

เป็นประเด็นให้พูดมาแรมปีแล้วสำหรับดราม่าของค่ายเกมอย่าง Epic Game Store แพลตฟอร์มร้านค้าเกมตัวใหม่ที่หลายๆ คนมักจะมองว่ามันคือผู้ร้าย และทำการตลาดน่าเกลียด แต่สิ่งที่แปลกก็คือลองสังเกตุดีๆ ว่ามีผู้พัฒนาส่วนน้อยมากๆ ที่จะพูดโจมตี Epic Game Store ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่พูดสนับสนุนกันอย่างออกนอกหน้า แต่มันก็มีหลายๆ กรณีให้เห็นว่าพวกเขาให้สิทธิพิเศษกับทางร้านค้านี้มากกว่า อย่างเช่นเกม Borderlands 3 ที่ Exclusive ลงให้กับร้านค้า Epic Game Store เป็นเวลา 6 เดือนก่อนที่จะลงให้กับ Steam เกม Metro Exodus ที่มีประเด็นดราม่าตอนแรกว่าจะลง Steam แต่กลับลำไปลงร้านค้าใหม่แทนก่อน 1 ปี หรือจะเป็นเกมเบอร์ใหญ่โคตรๆ อย่าง Red Dead Redemption 2 ที่พึ่งประกาศลงเครื่อง PC หมาดๆ ยังไม่วายที่จะประกาศว่าใครอยากเล่นเวอร์ชั่น Steam ก็รอไป 1 เดือนหลังเกมออกนะ เพราะผู้พัฒนาจะลงให้กับ Rockstar Game Launcher และ Epic Game Store ก่อนซะอย่างนั้น แล้วมันเป็นเพราะอะไรล่ะ ? วันนี้เราGameFeverTH จะมาหาคำตอบกัน

Steam เจ้าตลาดขายเกม PC ที่ครองโลกมาอย่างยาวนาน

ร้านค้าจากทาง Valve นี้เป็นแพลตฟอร์มที่อยู่กับเรามานานตั้งแต่ปี 2003 เป็นร้านขายเกมที่รวบรวมเกม PC มากมายหลายเกม ไหนจะรวบรวมเกม Indy จากค่ายผู้พัฒนาเล็กๆ เอาไว้ในนี้มากมาย รวมถึงยังมีการสร้างเกมเป็นของตัวเองอย่าง Dota 2, Counter Stirke, Left4Dead, Half Life หรือเกมอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมันทำให้ปัจจุบันร้านค้าเกมนี้มีผู้เข้าใช้ต่อวันกว่าเกือบ 20 ล้านคนเลยทีเดียว และพอเมื่อ Steam กลายเป็นแพลตฟอร์มครองใจของใครหลายๆ คน กลายเป็นผู้นำด้านร้านขายเกม PC ที่ไม่มีใครสามารถพิชิตได้และไม่อยากจะลงตลาดไปแข่งขัน มันเลยทำให้ Valve สามารถกำหนดราคาของสินค้าที่จะลงขายในร้านได้ด้วยตัวเอง อย่างเช่นการตัดส่วนแบ่งเกมขายอยู่ที่ 70/30 ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเยอะมากๆ เพราะลองคิดดีๆ กว่าถ้าเกมคุณขายในราคา 1,000 บาท คุณโดนหักไปแล้วแน่ๆ คือ 300 บาท แต่ข้อดีก็คือ Steam มีฐานแฟนคลับมากมายอยู่แล้ว โอกาศที่เขาจะเห็นเกมของคุณในกรณีที่คุณเป็นเกม Indy ก็จะมากขึ้น แต่กลับกับคือเกมค่ายใหญ่ๆ ที่มีฐานแฟนคลับอยู่แล้วจึงอาจจะคิดว่าส่วนแบ่งที่โดนตัดนี้มันมากเกินไป !! ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังต้องลงให้แพลตฟอร์ม Steam เพราะข้อดีของมันก็ยังคงความเป็นร้านค้าคุณภาพนั่นเอง และก็ถ้าไม่ลงให้กับร้านค้านี้ แล้วจะไปลงที่ไหนกันล่ะ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ steam

เริ่มมีร้านค้าเป็นของตัวเอง

หลังๆ มาผู้พัฒนารายใหญ่หลายๆ เจ้าเองก็เริ่มที่จะสร้างแพลตฟอร์มร้านค้าเกมเป็นของตัวเองแล้ว บางเจ้าเอาเลือกที่จะเอาเกมใหม่ๆ ของเขานั้นลงให้กับร้านนั้นเลย หรือบางเจ้าก็ลงให้กับ Steam ด้วยแต่สิทธิพิเศษจะน้อยกว่าหรือเกมจะแพงกว่าร้านของผู้สร้างนั่นเอง ซึ่งมันก็สำเร็จบ้าง ไม่ประสบความสำเร็จบ้าง ซึ่งข้อดีของการซื้อเกมจากร้านค้าผู้พัฒนาโดยตรงมันดียังไง ? ก็คือมันทำให้ผู้พัฒนาจะได้เงิน จากเกมเต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่ต้องโดนตัดค่าต๋งถ้าหากลงใน Steam หรือบางเกมทีผู้พัฒนาอาจจะลดราคาเกมให้ถูกลงดั่งที่พูดไว้ก่อนหน้าก็ได้นั่นเอง แต่ถามว่าร้านค้าพวกนี้จะขึ้นมาเทียบเท่ากับ Steam ไหมก็เปล่า ถึงแม้พวกเขาจะมีเกมอื่นมาขายบ้าง แต่ Steam เองก็ยังยืนหนึ่งเป็นแพลตฟอร์มร้านค้าเกมที่ไม่ได้สั่นคลอนบัลลังก์แต่อย่างใด เกมไหนผู้พัฒนาไม่เอามาลงก็ไม่ซีเรียส เพราะเกมจากค่ายอื่นๆ เองก็ยังมี มั่นใจในคุณภาพและฐานผู้ใช้ที่เหนียวแน่น แต่ให้ผู้เล่นจำเป็นต้องไปซื้อเกมจากร้านอื่นบ้าง (เพราะ Steam ไม่มี) แต่ถ้าให้เลือกได้พวกเขาก็อยากจะซื้อใน Steam อยู่ดี  

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

การมาของ Epic Game Store พร้อมประกาศสงครามกับ Steam โดยตรง

ในเดือนธันวาคม 2018 บริษัท Epic Game ได้ทำการเปิดตัวแพลตฟอร์มร้านค้าเกม PC เป็นของตัวเอง ที่มีจุดยืนในการที่อยากจะขึ้นมาแข่งขันกับ Steam อย่างชัดเจน โดยเริ่มจากการประกาศตัดส่วนแบ่งของการขายเกมเพียงแค่ 12% เท่านั้น ทำให้ผู้พัฒนาได้รับรายได้จากการขายเกมมากขึ้น ซึ่งมันเลยทำให้ผู้พัฒนาหลายๆ คนเริ่มสนใจแพลตฟอร์มนี้มากขึ้น แต่ในช่วงแรกๆ ก็ยังไม่มีเกมที่จะลงให้กับเครื่องนี้มากนัก รวมถึงความยิ่งใหญ่ของ Steam เองที่มีฐานแฟนคลับต่อวันกว่า 20 ล้านคน ยังไงซะลงให้กับแฟลตฟอร์มเดิมน่าจะได้กำไรมากกว่าอยู่ดี แต่ถึงอย่างนั้นทาง Epic Game Store ก็ได้ทำแผนการตลาดครั้งใหญ่คือการที่พวกเขานั้นไปดิลกับทีมพัฒนาเกม Indy หรือทีมค่ายยักษ์ต่างๆ อย่างเช่นการให้เงินทุนสนับสนุนเพื่อแลกกับการให้เกมพวกเขานั้นลงให้กับร้านค้าของเขา พยายามไปปาดหน้าเกมดังๆ บางเกมให้ Exclusive บนร้านค้าเขาก่อนนะแล้วค่อยไปลงที่อื่น

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Epic game store cut 12%
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ดราม่าบังเกิด

ซึ่งการที่ Epic Game Store ได้ดิลกับผู้พัฒนาหลายๆ เจ้าเพื่อให้พวกเขานั้นลงเกมเฉพาะร้านค้าตัวเอง จึงทำให้แฟนๆ กลุ่มใหญ่ๆ รู้สึกไม่พอใจว่าทำไมพวกเขานั้นจะต้องถูกบังคับให้เล่นเฉพาะร้านค้านี้เท่านั้น ซึ่งบางคนให้เหตุผลถึงเรื่องตัวระบบของเกมที่ยังไม่มีฟังชันดีพอเทียบเท่า Steam หรือบางคนเองก็อยากที่จะสะสมเกมของตัวเองไว้ในแพลตฟอร์มเดียวถ้าหากเป็นไปได้ เกมเมอร์หลายๆ คนเองก็ให้การตำหนิแพลตฟอร์มนี้เป็นอย่างมากเนื่องจากที่พวกเขาทำการตลาดที่น่าเกลียด หรืออาจจะว่าผู้พัฒนาบางเจ้าที่เห็นแก่เงิน พอ Epic Game Store เอาเงินฟาดหัวหน่อยก็หนี Steam กันหมดบลาๆ เพราะมันมีกรณีของเกม Metro Exodus ที่ตอนแรกผู้พัฒนาเปิด Pre-Order ให้จับจองล่วงหน้าบน Steam แล้วแต่ภายหลังก็ถอดการซื้อขายออกและประกาศลงให้กับแฟลตฟอร์มคู่แข่งแทนเป็นเวลา 1 ปี จนทำให้แฟนเกมไม่พอใจเป็นอย่างมาก และถ้าให้พูดตามตรงว่ามันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับเหล่าผู้เล่นซักเท่าไร เหล่าเกมเมอร์บางกลุ่มเองก็คิดว่าการที่ Epic Game Store ทำอะไรแบบนี้มันไม่แฟร์เลย ทั้งๆ ระบบของตัวเองก็ไม่ดี มาแรกๆ Cloud Save ก็ไม่มี หลายๆ ลูกเล่นที่มีน้อยกว่า Steam หลายเท่า หรือจะเป็นดราม่าอย่างการที่พวกได้เอาข้อมูลของ Steam ไปใช้ เพื่อรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผู้เล่นโดยไม่ได้รับอนุญาติ หรือการที่พวกเขานั้นอยากจะทำลายการผูกขาดของ Steam ด้วยการเป็นคนผูกขาดซะเองเป็นต้น

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ metro exodus epic game store

ทำไม Epic Game Store ถึงต้องทำการตลาดให้คนด่า

ลองคิดดูสิว่ามีแพลตฟอร์มร้านค้าเกมออกมากี่ตัวแล้วทั้ง GOG, Origin และอื่นๆ อีกมากมาย กลับไม่มีร้านค้าเกมไหนที่จะขึ้นมาเทียบเท่ากับ Steam เลย เต็มที่ก็ทำได้เพียงแค่ขายเกมที่ตัวเองสร้างได้แค่นั้น ซึ่งมันมีคนที่ผูกขาดการตลาดอยู่แล้วการที่เราจะขึ้นมาให้เหนือหรือเทียบเท่ากับพระเจ้าผู้ครองโลกเราก็อาจจะต้องใช้กลวิธีที่ดูเป็นซาตานซักนิดหนึ่ง กลไกการตลาดเป็นระบบที่เจ้าของสินค้าจะต้องชิงดีชิงเด่นกันอยู่แล้ว การตัดราคา การผูกขาดการตลาดบางอย่างมันเป็นเรื่องปกติของธุรกิจอยู่แล้ว และคนที่ได้รับผลดีในอนาคตไม่ใช่ใครที่ไหนครับ มันคือผู้บริโภคอย่างเราๆ นี่แหละไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ยกตัวอย่างการแข่งขัน CPU Processor ของ Intel และ AMD Ryzen หรือจะเป็นการ์ดจอที่แข่งขันกันเรื่องประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ เดี๋ยวนี้เราสามารถซื้ออุปกรณ์แรงๆ ในได้ราคาที่ถูกลงมามาก หรือจะเป็นการแข่งขันระหว่างเกมของผู้พัฒนาเอง ที่จะต้องหาอะไรใหม่ๆ มาเสิร์ฟตลอดเวลา ไม่งั้นก็จะไม่ตามเทรนและทำให้ความเชื่อใจต่อผู้พัฒนานั้นๆ น้อยลง และผู้ที่ได้รับคือใครล่ะ ? ก็เราเหล่าผู้บริโภคนั่นเอง ซึ่งการที่ Epic Game Store ทำอะไรแบบนี้ มันอาจจะกระตุ้นทำให้ทาง Steam คิดค้นระบบอะไรใหม่ๆ มาเสิร์ฟให้เรามากขึ้นก็ได้ หรืออาจจะมีแผนการตลาดใหม่ๆ เอาใจผู้บริโภคและผู้พัฒนามากขึ้นอีกกว่านี้ก็ได้ เพราะต้องยอมรับตามตรงว่าตอนนี้ Steam เป็นเสือนอนกินแบบชัดเจนเลย เน้นการทำได้รายจากเกม Multiplayer หลายแหล่ของพวกเขาอย่าง CSGO และ Dota 2 บางทีเราอาจจะได้เห็นเกมใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีเลข 3 ก็ได้นะ 55555

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Division 2 epic games

ลองมองอีกมุมหนึ่ง

ส่วนตัวก็เห็นด้วยนะครับกับในเรื่องดราม่าบางอย่างที่ตัว Epic Game Store สร้างมาที่มันแย่มากๆ อย่างการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเหล่าเกมเมอร์ หรือบางระบบที่ส่วนตัวก็รู้สึกรำคาญเช่นกันสำหรับแพลตฟอร์มนี้ ที่ลูกเล่นมันน้อยกว่า Steam หลายเท่าตัว แต่ถึงอย่างนั้นถ้าลองมองอีกมุมหนึ่ง Epic Game Store เองก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาวงการเกมเยอะเหมือนกันนะ อย่างในกรณีของการตัดส่วนแบ่งค่าหัวเพียงแค่ 12% ถึงแม้ว่าจะไม่ถาวร แต่ทางผู้พัฒนาก็จะได้รับเงินจากตรงนี้มากยิ่งขึ้น ทำให้เขามีรายได้จากสิ่งที่เขาสร้างมากกว่าเดิม และเห็นผลได้ชัดสำหรับเกมที่ไม่ได้มีชื่อชั้นใหญ่โตอย่างเกมอินดี้ทั้งหลายแหล่ แต่เดิมพวกเขาเองก็ไม่สามารถการันตรีได้อยู่แล้วว่าเกมเขานั้นจะสามารถวางขายได้ตามเป้าหรือไม่ แต่การที่ Epic Game Store สนับสนุนเรื่องเงินพวกเขาเพื่อการันตรีรายได้แน่นอนในการที่พวกเขาจะป้องกันการขาดทุนได้

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Control epic games

หรือจะเป็นการกอบกู้และสานต่อบางซีรีส์ที่คิดว่าจะไม่จบแล้วอย่าง The Walking Dead: Telltale Series ที่ทางผู้พัฒนาทำการปิดบริษัทเนื่องจากรายได้ไม่ดี แต่ทางร้านค้าเกมนี้เองก็เข้ามาสนับสนุนอย่างไวและผลักดันให้เกมนี้สร้างจนจบซีรีส์อย่างสวยงามได้ ถ้าให้ถามว่า Epic Game Store ทำการตลาดน่าเกลียดไหม ส่วนตัวก็ต้องบอกว่ามันก็น่าเกลียดอยู่เหมือนกันนะ แต่ลองคิดกลับกันว่าถ้าหากคุณมีเงินทุนเยอะ !! ทำยังไงดีนะที่จะให้สินค้าของเราเป็นที่รู้จักเยอะ ? บางทีเราๆ เองก็อาจจะทำเหมือน Epic Game Store ตอนนี้ก็เป็นได้นะ เพราะการตลาดคือการชิงดีชิงเด่น !!

**อาจจะยอมเป็นผู้ร้ายในสายตาคนทั้งโลก แต่เป็นพระเอกขี่ม้าขาวให้กับอุตสาหกรรมเกม อาจจะยอมขาดทุนเรื่องรายได้หน่อย คนด่าคนเกลียดเยอะหน่อย แต่แลกกับการที่ให้คนรู้จักมากขึ้นมันก็อาจจะคุ้มก็ได้ !!**

ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ