แฟชั่น บิวตี้

'เท้าดอกบัวตูม' แฟชั่นสุดแสนทรมานของสตรีแดนมังกร ที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตและน้ำตา

SistaCafe
อัพเดต 09 ส.ค. 2561 เวลา 05.13 น. • เผยแพร่ 08 ส.ค. 2561 เวลา 02.30 น. • violeteiei

สวัสดีค่ะ สาวๆ SistaCafe ทุกคน
มนุษย์อยู่คู่กับแฟชั่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งแฟชั่นการแต่งกายที่เปลี่ยนตามยุคสมัยไปเรื่อยๆ  เท้าดอกบัวทอง ก็เช่นกัน เป็นแฟชั่นชนิดหนึ่งของประเทศจีนในสมัยก่อน ที่ผู้หญิงยังไม่มีสถานะทางสังคมมากนัก แฟชั่นชนิดนี้แลกมาด้วยความเจ็บปวด หรือบางครั้งก็แลกมาด้วยชีวิต

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

หากคุณต้องเกิดมาในสมัยโบราณที่มีประเพณีที่สืบทอดกันมาเนื่องจากความเชื่อที่ว่ามีลูกผู้หญิงก็เหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน ผู้หญิงส่วนมากไม่มีค่าในสังคม แต่ถ้าหากหญิงผู้นั้นมีเท้าที่เล็กขนาด 3 นิ้ว ชะตาชีวิตก็จะเปลี่ยนไป จากเพศหญิงที่ไม่มีค่าอะไรก็จะได้แต่งงานกับผู้ชายที่มีฐานะที่ดีมีตระกูลที่ดี โดยที่คุณจะต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด หรือแม้แต่ชีวิตของคุณเอง

ในสมัยราชวงศ์ซ่งของประเทศจีน มีประเพณีหนึ่งที่นิยมทำกันอย่างแพร่หลาย นั่นก็คือ การมัดเท้าให้เป็นดอกบัวตูมหรือจะเรียกว่าดอกบัวทองก็ได้ เด็กผู้หญิงอายุราว 4 ขวบขึ้นไป จำเป็นต้องผ่านการมัดเท้า ถ้าไม่อยากโดนขายเป็นคนรับใช้ตีนโต

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คนรับใช้ตีนโตคืออะไร

เด็กผู้หญิงบางคน ทางบ้านไม่ยอมมัดเท้าและปล่อยให้มีเท้าขนาดตามธรรมชาติ เมื่อโตขึ้นก็มักถูกขายให้ไปเป็นสาวใช้ตีนโต ทำงานหนักเยี่ยงทาส อย่างที่กล่าวข้างต้นก็คือ ยุคนั้นไม่ให้ความสำคัญกับเพศหญิงและสิ่งที่จะเพิ่มมูลค่าให้เพศหญิงนั่นก็คือ  การมัดเท้า

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สตรีจีนโบราณไม่ได้มีอิสระอะไรมากนัก การที่จะออกเรือนสักทีหนึ่งจำเป็นต้องพึ่งพาแม่สื่อ เพื่อที่จะให้แม่สื่อหาคู่ครองที่เหมาะกัน เรียกง่าย ๆ ก็การ คลุมถุงชน นั่นแหละ การที่จะได้แต่งงานเข้าไปอยู่ในบ้านที่มีฐานะดี ก็จำเป็นที่จะต้องดูลักษณะหลายอย่าง และการมัดเท้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้หญิงได้คู่ครองที่ดี นอกจากนี้ยังมีความเชื่อกันว่าเท้าดอกบัวทอง กระตุ้นอารมณ์ทางเพศแก่ฝ่ายชายอย่างมากอีกด้วย

ค่านิยมของสตรีในสมัยโบราณ

  • สตรีควรมีความอ่อนน้อมถ่อมตน

  • สตรีต้องรู้จักผิดชอบชั่วดี

  • สตรีต้องเชื่อฟังผู้อื่นเป็นสำคัญ

  • สตรีต้องใช้ชีวิตเพื่อบุรุษ

ลองจินตนาการว่าหากคุณอายุเพียง 4 ขวบ แม่นำคุณขึ้นไปยังหอหญิงเพื่อเริ่มทำการมัดเท้า โดยการขัดให้สะอาด ผสมส่วนผสมประกอบด้วยปัสสาวะและสมุนไพร รวมทั้งเลือดสัตว์ลงในอ่างใบเล็ก เพื่อให้คุณแช่เท้าให้อ่อนนุ่ม เมื่อเท้าอ่อนนุ่มดีแล้วก็ถึงเวลางัดเล็บเท้าทั้งหมดออก และพันผ้าเปียกสลับชั้นกับเครื่องหอมหลาย ๆ ชั้น แล้วเย็บติดทุกชั้น เมื่อผ้านั้นแห้ง เท้าของคุณก็จะถูกรัดจากการตึงของผ้า และฝึกให้คุณเดิน ผ้าที่พันเท้าไว้จะถูกแกะออกมาและทำความสะอาดเท้าทุก ๆ 2 วัน และในทุก ๆ ครั้งก็จะพันเท้าให้มีขนาดเล็กกว่าเดิม ทำดังนี้จนกว่าเท้าจะผิดรูปและได้ขนาด 3 นิ้ว
พิธีการสุดโหดนี่ต้องทำทุกวัน คุณต้องเดิน เดินโดยที่นิ้วเท้าและกระดูกเท้าของคุณหักพับแบบนั้น เดินต่อไปจนกว่าจะมีเสียงกระดูกหัก เดินต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าคุณจะชินและเท้าจะเข้ารูปจนสามารถสวมรองเท้าที่มีขนาดเพียง 4 นิ้วได้ คุณจินตนาการออกถึงความเจ็บปวดไหมล่ะ

วิธีการสุดโหดนี้ ทำให้เด็กหลายคนต้องเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด แต่ก็ดูเหมือนว่าค่านิยมการรัดเท้ายังไม่หมดไป เพราะทุกครอบครัวก็อยากให้ลูกสาวแต่งงานกับตระกูลที่ดี ที่สามารถยกระดับครอบครัวตัวเองให้สูงขึ้นได้

การล้มเลิกประเพณีรัดเท้า

ในช่วงศตวรรษที่ 18 เกิดการกบฏขึ้นโดยสตรีที่ไม่ได้รัดเท้า หลังจากกบฏโดนกวาดล้างลงไป เหล่านักเทศน์ของศาสนาคริสต์ได้ให้ความรู้กับสตรีชาวจีน รวมทั้งยังมีปราชญ์ชาวจีนที่ต่อต้านการรัดเท้า ในปี 1902 พระนางซูสีไทเฮาได้ออกกฎหมายป้องกันและปราบปรามการรัดเท้า จนประเพณีนี้ค่อยๆ หายไป ในยุคสมัยของพระนางก็มีการออกแบบรองเท้าที่ใช้ชื่อว่า รองเท้าไม้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องทรมานกับการรัดเท้าแต่อย่างใดและยังทำให้ผู้ใส่สง่างามอีกด้วย

เป็นโชคดีของผู้หญิงในสมัยปัจจุบัน ที่ไม่ต้องพบเจอกับสถานะทางสังคมที่ต่ำต้อยเช่นแต่เดิม ผู้หญิงสมัยนี้สามารถที่จะมีความรักและเลือกอยู่กับคนที่ตนรัก ซึ่งแตกต่างจากยุคสมัยเก่าที่มีค่านิยมค่อนข้างคับแคบ ผู้หญิงสามารถทำงานนอกบ้านได้อย่างอิสระ หรือแม้แต่เป็นหัวหน้าครอบครัวได้
แต่ถึงอย่างไร การรัดเท้า ก็ยังคงเป็นแฟชั่นสุดทรมานที่เพศหญิงในสมัยโบราณของจีนต้องประสบพบเจอ และเป็นสิ่งที่อัศจรรย์ใจสำหรับคนในปัจจุบันอย่างเรา ๆ

ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 8
  • ซูสีไทเฮาก็มีข้อดีนะ ใช่มีแต่ข้อเสีย
    08 ส.ค. 2561 เวลา 05.42 น.
  • สยองอ่ะ
    08 ส.ค. 2561 เวลา 07.07 น.
  • Ann
    สงสารเด็กน้อย
    08 ส.ค. 2561 เวลา 08.44 น.
  • น่าสงสารจัง
    08 ส.ค. 2561 เวลา 10.44 น.
  • 「 J i T T i M A 」
    พิดารไปเลย
    08 ส.ค. 2561 เวลา 07.33 น.
ดูทั้งหมด