หากพูดถึงเมืองที่อยู่ใต้สุดแดนสยาม ก็เป็นอันเข้าใจตรงกันว่าคือ อ.เบตง จ.ยะลา
ส่วนเมืองที่จะชวนไปเที่ยวนี้ ก็เป็นเมืองที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทยทางฝั่งตะวันออก มีเขตแดนติดกับรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย นั่นก็คือ “อ.ตากใบ” จ.นราธิวาส แต่ก่อนจะลงใต้สุดสยามไปถึงตากใบ ขอแวะเที่ยวในตัวเมือง “นราธิวาส” เสียก่อน
การเดินทางมายังนราธิวาสที่ง่ายสุดๆ ก็คือการนั่งเครื่องบินมาลงที่ “ท่าอากาศยานนราธิวาส” แล้วก็นั่งรถเที่ยวต่อได้เลย
เมื่อมาถึงนราธิวาสแล้วก็เอาฤกษ์เอาชัยด้วยการไปสักการะ “พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล” ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา ที่ “พุทธอุทยานวัดเขากง” (อ.เมือง จ.นราธิวาส) เป็นพระพุทธรูปสีทองอร่ามปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชร ประทับนั่งกลางแจ้งดูโดดเด่นเปี่ยมศรัทธาอยู่บนเนินเขา ศิลปะแบบสกุลช่างอินเดียตอนใต้ สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก องค์พระสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กประดับโมเสคสีทอง หน้าตักกว้าง 15 เมตร สูง 24 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งที่มีความงดงามและและมีขนาดใหญ่ในภาคใต้
ต่อจากนั้นก็แวะมาสักการะ “องค์พระศรีคเณศ พระพิฆเนศ ณ นราธิวาส” (อ.เมือง จ.นราธิวาส) ที่เป็นพระพิฆเนศองค์โตกับรูปร่างสรีระอันอ่อนช้อย วิจิตร ตระการตา จนได้ชื่อว่าเป็น “พระพิฆเนศกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่งดงามที่สุดในเมืองไทย”
สำหรับองค์พระศรีคเณศ เป็นพระพิฆเนศมีขนาดหน้าตักกว้าง 7 เมตร สูง 16 เมตร มี 4 กร พระหัตถ์ขวาบนถือดอกบัว พระหัตถ์ขวาล่างแสดงท่าประทานพร พระหัตถ์ซ้ายบนถือปรศุ (ขวาน) พระหัตถ์ซ้ายล่างถือชามขนมโมทกะ ประทับนั่งในท่าลลิตาสนะ สวมศิลาภรณ์มงกุฎประดับโมเสคแก้วหลากสี มีการผสมผสานระหว่างศิลปะไทยกับอินเดีย โดยรูปแบบถนิมพิมพาภรณ์ใช้แบบไทยประดับโมเสคแก้วหลากสี รูปแบบพัสตราภรณ์ใช้ลักษณะนุ่งแบบอินเดีย
ผู้ที่มาไหว้องค์พระพิฆเนศสามารถขอพรได้ตามประสงค์ โดยมีความเชื่อว่าถ้าไปพูดบอกป้องหูหนูข้างซ้าย(ตัวที่ตั้งอยู่หน้าองค์พระพิฆเนศ) แล้วอธิษฐานจะสมหวัง
ที่ตั้งอยู่กันก็คือ “ศาลเจ้าโก้วเล้งจี่” เป็นศาลเจ้าแห่งแรกของเมืองนราธิวาส สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2458 พร้อมๆ กับการตั้งเมืองนราธิวาส (เปลี่ยนชื่อเมือง) องค์ศาลเจ้าด้านนอก(ผนังด้านนอก) ตกแต่งด้วยงานปูนปั้นนูนต่ำอันสวยงาม ละเมียด เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีวัฒนธรรมประเพณีจีน ตามตำนานพงศาวดารจีน
ภายในศาลเจ้าประดิษฐานองค์พระและเทพเจ้าต่างๆกว่า 20 องค์ อาทิ องค์พระยูไลฮุกโจ้ว, องค์เจ้าแม่กวนอิมพันมือ, องค์เจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ, องค์เจ้าแม่ทับทิม, องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว,องค์เทพเจ้ากวนอู, องค์พระอรหันต์จี้กงฮัวฮุก เป็นต้น
ส่วนผนังภายในมีงานภาพเขียนสีกับงานปูนปั้นสดรูปเทพรูปพระอรหันต์อันสวยงามน่ายล ปั้นในปี 2505 บนหลังมีช่วงเปิดโล่งให้แสงธรรมชาติสาดส่องลงมา
ศาลเจ้าโก้วเล้งจี่เป็นศาสนาสถานในวัฒนธรรมจีนที่ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคู่บ้านคู่เมืองนรา ที่โดดเด่นทั้งด้านความศักดิ์สิทธิ์และความสวยงาม ซึ่งจะมีคนเดินทางมากราบขอพรอยู่เป็นประจำ
ที่นราธิวาส มีพื้นที่อยู่ติดกับฝั่งอ่าวไทย ทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นชายหาดอยู่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นก็คือ “อ่าวมะนาว” ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง (อ.เมือง จ.นราธิวาส)
ที่นี่เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องมาจากชายทะเลฝั่งตะวันออกของ จ.ปัตตานี เป็นโค้งอ่าวเชื่อมต่อกันยาว 4 กิโลเมตร มีโขดหินสลับกับโค้งชายหาดเป็นระยะ มีพื้นที่ให้มาพักผ่อน เล่นน้ำทะเลได้เนื่องจากน้ำไม่ลึก หาดมีลักษณะค่อยๆ ลาดลงไปในทะเล และที่ริมหาดมีสวนรุกขชาติ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายหาด ระยะทางราว 1 กิโลเมตร ที่จะสามารถพบพันธุ์ไม้ต่างๆ ได้ รวมถึงยังมีทิวสนร่มรื่นให้นั่งพักผ่อนได้
เที่ยวในเมืองกันไปหลายที่แล้วก็ได้เวลาล่องลงไปใต้สุดแดนสยามทางฝั่งตะวันออก ที่ “ตากใบ”
“ตากใบ” นั้นเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยมาอย่างยาวนาน มีความสำคัญอย่างมากในช่วงรัชกาลที่ ๕ จากเหตุการณ์ที่ไทยสูญเสียดินแดนบางส่วนให้อังกฤษ เดิมนั้นตากใบอยู่ในการปกครองของเมืองกลันตัน (ซึ่งเดิมอยู่ภายใต้การปกครองของไทย) ต่อมาอังกฤษที่ปกครองมลายู พยายามจะผนวกดินแดนส่วนของอำเภอตากใบเข้าไปอยู่ภายใต้การปกครองด้วย แต่ทางไทยยืนยันว่าเมืองนราธิวาสมาจนถึงตากใบนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยมาตั้งแต่โบราณ โดยอ้างพื้นที่ของวัดชลธาราสิงเห ซึ่งเป็นวัดที่ชาวไทยสร้างขึ้นมานับร้อยปีแล้ว จากนั้นจึงมีการตกลงอาณาเขตระหว่างไทยกับมลายู โดยกำหนดแม่น้ำสุไหงโกลกเป็นเส้นกั้นอาณาเขต ทำให้ตากใบอยู่ภายใต้การปกครองของไทยในที่สุด
และพื้นที่ที่มีความสำคัญอย่างมากในครั้งนั้นก็คือ “วัดชลธาราสิงเห” (อ.ตากใบ จ.นราธิวาส) เป็นหนึ่งในวัดงามแห่งดินแดนด้ามขวานที่ถูกยกให้เป็นอันซีนไทยแลนด์ ภายในวัดมีบรรยากาศร่มรื่น มีอาคารโบราณสถานสถาปัตยกรรมท้องถิ่นภาคใต้ ที่สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างสวยงามทรงเสน่ห์อยู่หลากหลาย อาทิ กุฏิเจ้าอาวาส(หลังเก่า) วิหารพระนอน หอพระนารายณ์ หอระฆัง ศาลาโถง ศาลาท่าน้ำ เป็นต้น
ขณะที่ไฮไลท์สำคัญของวัดแห่งนี้ก็คือ “พระอุโบสถ” หลังงามที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ ภายในมีภาพจิตกรรมฝาผนังอันงดงามวิจิตร เขียนโดยพระภิกษุชาวสงขลา เป็นภาพพุทธประวัติที่สอดแทรกเรื่องราววิถีชีวิต วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของผู้คนในอดีตได้อย่างน่าสนใจยิ่ง
ที่วัดแห่งนี้ยังมี “พิพิธภัณฑ์วัดชลธาราสิงเห” จัดแสดงศิลปวัตถุน่าสนใจต่างๆ พร้อมทั้งบอกเล่าอดีตความเป็นมาของอำเภอตากใบ รวมถึงจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการเสียดินแดนในยุคล่าอาณานิคม ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทางสยามได้หยิบยกเอาพระพุทธศาสนา โบราณสถาน และงานพุทธศิลป์อันโดดเด่นของวัดชลธาราสิงเหมาเป็นข้อต่อรองเพื่อแสดงสิทธิในการปักปันเขตแดน ทำให้อังกฤษยอมรับเหตุผล นั่นจึงทำให้วัดชลธาราสิงเห มีอีกหนึ่งชื่อเรียกขานว่า “วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย”
จากวัดชลธาราฯ มาอีกไม่ไกล จะพบกับ “สะพานเกาะยาว” หากใครที่เดินทางมาที่นี่ จะได้สัมผัสวิถีประมงพื้นบ้านอันแสนเรียบง่ายบนเกาะยาว เกาะเล็กๆ ที่เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ด้วย “สะพานคอย 100 ปี” มีความยาว 345 เมตร ซึ่งทอดผ่านแม่น้ำตากใบไปยังเกาะยาว มีทั้งสะพานไม้ (คนเดิน) และสะพานปูน (รถมอเตอร์ไซค์วิ่ง)
ด้วยบรรยากาศอันสงบ มีหาดทรายละเอียดสีน้ำตาลในบางมุมของเกาะ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ประกอบอาชีพประมงและสวนมะพร้าว ที่หน้าหาดเกาะยาวสามารถชมวิวทิวทัศน์ของแนวหาดทรายยาวขาวเนียนที่ทอดตัวกว้างไกลได้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังมีจุดให้ไฮไลท์เป็นเนินทรายติดตั้งเสาธงชาติขนาดใหญ่ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปคู่กับเสาธงชาติแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของที่เที่ยวใน จ.นราธิวาส ช่วงนี้ได้เวลาเที่ยวในเมืองไทย อย่าลืมล่องลงใต้มาให้สุดแดนสยามที่เมืองนราธิวาส มาเที่ยวสนุกๆ ชิมของอร่อย พักผ่อนสบายๆ กันได้
* * * * * * * * * * * * * *
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการท่องเที่ยวใน จ.นราธิวาส ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนราธิวาส (ดูแลพื้นที่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา) โทร. 0-7354-2343 Facebook : TAT Narathiwat ททท.สำนักงานนราธิวาส
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่Youtube :Travel MGR
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO
ARUN แหล่งท่องเที่ยว3จว.ชายแดนใต้น่าท่องเที่ยวมาก ถ้าเหตุการณ์สงบคงเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างดีเพราะธรรมชาติยังบริสุทธิ์มาก
07 ส.ค. 2563 เวลา 02.36 น.
ลุงต่อ น่าท่องเที่ยวมากครับ ผมเองก็ไฝ่ฝันมานานแล้ว อยากไปเที่ยวสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มากแต่ก็กลัวด้านความไม่ปลอดภัย พี่น้องครับที่ถือมีด ถือปืน ถือวัตถุระเบิด วางมันเถอะครับแล้วมาช่วยกันพัฒนาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อชีวิตที่ดีกว่าของคนในพื้นที่น่าจะดีกว่ากันนะครับ ที่สำคัญฝันของผมและประชาชนคนไทยที่อยู่จังหวัดอื่น ที่อยากจะไปท่องเที่ยวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้เป็นจริงซะที ผมขอวิงวอนครับ ขอบคุณครับ
07 ส.ค. 2563 เวลา 03.13 น.
SUNSHlNE เมื่อไหร่จะสงบนะ
07 ส.ค. 2563 เวลา 02.27 น.
khem นราธิวาสมีทั้งป่าภูเขา น้ำตก ทะเล สองวัฒนธรรม ผลไม้ ครบเครื่องที่สุดละ ลืม...มีโจรห้าร้อยด้วย ทักสินเคยบอกมา
07 ส.ค. 2563 เวลา 02.47 น.
คิดถึงปักษ์ใต้ สถานที่สวย เขียวชอุ่ม มีภูเขา และวัดของทางใต้ส่วนใหญ่จะสงบเงียบร่มรื่น
07 ส.ค. 2563 เวลา 08.23 น.
ดูทั้งหมด