ศฤงคาร พรมสุภะ กองหลังทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ย้อนความหลังเส้นทางการคว้าแชมป์ซีเกมส์ เมื่อปี 2017 ที่มาเลเซีย ซึ่งเต็มไปด้วยกระแสวิจารณ์อย่างหนัก ก่อนจะเดินหน้าคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ
แนวรับวัย 22 ปี เป็น 1 ใน 20 ขุนพลชุดคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2017 โดยในปีดังกล่าวเกิดเสียงวิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นของช้างศึกU-23 ที่ไม่ค่อยดีนัก ซึ่งเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ด้วยการเสมออินโดนีเซีย 1-1 ก่อนเฉือน ติมอร์เลสเต 1-0 ส่งผลให้ต้องลุ้นหนักกับโอกาสเข้ารอบต่อไป อย่างไรก็ตาม สามารถเก็บชัยเหนือทีมชาติกัมพูชา , ฟิลิปปินส์ , เวียดนาม ผ่านเข้ารอบตัดเชือกในฐานะแชมป์กลุ่ม ก่อนจะคว่ำเมียนมา และอัดมาเลเซีย ถึงชาห์ อลัม สเตเดียม 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศซิวโทรฟี่แชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่
"ผมคิดว่าเราสู้กันมากนะ ทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจเต็มที่สู้ทุกแมตช์" แนวรับชุดแชมป์ซีเกมส์ 2017 เริ่มกล่าว
"เกมแรกเราเริ่มต้นไม่ดีเสมออินโดนีเซีย 1-1 ทำให้มีกระแสไม่ค่อยดีมีเสียงวิจารณ์มองว่าเราอาจจะไม่ได้เข้าชิงในครั้งนั้น แต่พวกเราทุกคนก็โฟกัสกับการเล่นแต่ละแมตช์ไม่มีเกมไหนที่เราไม่สู้ หลังจากนั้นเราปรับสมาธิกันใหม่จนสุดท้ายเก็บชัยชนะมาได้เรื่อยๆ และผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ แต่เกมนัดชิงมีแรงกดดันเพิ่มเป็นเท่าตัว เพราะวันนั้นเราต้องเล่นท่ามกลางแฟนบอลเจ้าบ้านที่มาเต็มความจุ 80,000 คน แต่เราก็พยายามเพิ่มสมาธิ มุ่งมั่นมากกว่าเดิมจนสุดท้ายก็ผ่านมันมาได้"
ขณะเดียวกันได้กล่าวถึงความพร้อมก่อนบุกป้องกันแชมป์ซีเกมส์ ที่ฟิลิปปินส์ หลังก่อนหน้านี้ได้ลงเกมอุ่นเครื่อง 2 นัด แพ้จีนU-23 ไป 1-2 และชนะเมียนมา U-23 ด้วยสกอร์ 3-2 ว่า ก่อนหน้านี้เราได้อุ่นเครื่องไปสองนัด แต่ยังมีเรื่องของความฟิตที่ต้องปรับเพิ่ม ซึ่งวันนี้เราได้ไปทดสอบร่างกายหลายอย่างทั้งวิ่งสปีด ปั่นจักรยาน ฯลฯ ซึ่งเป็นการทดสอบความฟิตของร่างกาย ก่อนจะเข้าทัวร์นาเมนต์ซีเกมส์"
"การเทสต์ครั้งนี้ทำให้เราได้รู้ว่าเรามีความพร้อมในระดับไหน ยังขาดตกบกพร่องตรงไหนหรือเปล่า ก่อนหน้านี้เรายังขาดความฟิต ซึ่งการไปเทสต์ก็จะทำให้เรามีเวลาในการเพิ่มเติมสิ่งที่ยังขาดก่อนจะเดินทางไปฟิลิปปินส์"
เมื่อถูกถามถึงเรื่องปรับตัวการเล่นหญ้าเทียม เจ้าตัวเผยว่า "แน่นอนว่าหญ้าเทียมมันมีข้อแตกต่างจากหญ้าจริงที่ทำให้เล่นยากขึ้น แต่เราก็ต้องพยายามแก้ไข และปรับตัวให้ดีที่สุดถึงแม้ว่าเราแทบไม่มีโอกาสได้งซ้อมหญ้าเทียมก็ตาม ก่อนหน้านี้เราได้เล่นหญ้าเทียมครั้งแรกในเกมกับเมียนมา จะเห็นได้ว่ายังมีข้อผิดพลาด แต่ถ้าทุกคนพยายามปรับตัวให้ได้เร็ว ผมคิดว่าเราก็น่าจะพร้อมกว่านี้"
"หญ้าเทียมมันค่อนข้างแข็งต่างจากพื้นดินที่นุ่มกว่า จังหวะพลิกตัวหรือจังหวะต่างๆในเกมก็จะแตกต่างกับหญ้าจริงหรือเวลากระแทกก็อาจได้รับบาดเจ็บง่าย แต่เราไม่ค่อยได้ซ้อมหญ้าเทียม เพราะอาจเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บได้ง่ายอย่างที่บอก"
"ส่วนการป้องกันแชมป์ผมมองว่ายิ่งยากกว่าตอนที่เราคว้าแชมป์แน่นอน เพราะเรามีมาตรฐานของตัวเองอยู่ นั่นคือการเป็นแชมป์เก่า แต่ตอนนี้อยู่ที่ว่าเราจะรักษามาตรฐานให้เหมือนตอนนั้นได้หรือไม่"
"แต่พวกเราทุกคนต้องพยายามเต็มที่จะอย่างไรก็ต้องสู้ในฐานะแชมป์เก่า เพราะเราอยากคว้าแชมป์ และประสบความสำเร็จในรายการนี้อีกครั้ง" ศฤงคาร ทิ้งท้าย
สำหรับทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะเก็บตัวต่อเนื่องที่แคมป์บางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะตัดผู้เล่นให้เหลือ 20 คน และออกเดินทางสู่ประเทศฟิลิปปินส์ ทำศึกซีเกมส์ ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562
อุ ซป 4️⃣5️⃣6️⃣ ป้องกันแชมป์ให้ได้ก่อนค่อยมาคุย
16 พ.ย. 2562 เวลา 05.12 น.
staporn พูดในทางที่ดีอดีตกับปัจจุบันต่างกันเยอะเดียวนี้บอลอาเซียนไม่ต่างกันเท่าไรหรอกอยู่ที่ใครมีความมุ่งมั่นและนิ่งว่ากัน
16 พ.ย. 2562 เวลา 01.27 น.
pipat น่าเสียดายไม่ได้โค้ชหระไปคุม
16 พ.ย. 2562 เวลา 01.09 น.
Anut มันเจ็บ..ครับ..
แต่รัก..และเชียร์..ต่อไป..#สู้ๆคับ
16 พ.ย. 2562 เวลา 01.05 น.
ปัญญา แจ่มแจ้ง บอลซีเกมส์ปีนี้แห้วหมดทั้งชายและหญิง
16 พ.ย. 2562 เวลา 00.34 น.
ดูทั้งหมด