แม่ค้าลอตเตอรี่แจ้งความเจ้าอาวาสขอนแก่น

จากกรณีที่โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ภาพพระภิกษุ วัดชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น มีหากเสียงกับกลุ่มพ่อค้าและแม่ค้า จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ ลอตเตอรี่ จนเป็นประแสสังคมและมีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้นคืบหน้า ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นางนวลละออง แสนโคก อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 ม.5 ต.หนองกุงใหญ่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ซึ่งปรากฎอยู่ในคลิปภาพดังกล่าว ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชน ขณะมาจำหน่ายสลากฯภายในเขตเทศบานครขอนแก่น ว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ตนและเพื่อนแม่ค้า จำหน่ายสลากฯ อยู่ด้วยกัน 5 คน  ได้พากันไปขายสลากฯที่เขื่อนอุบลรัตน์ เพราะมีคนจำนวนมากไปทำบุญที่นั่น เนื่องจากมีการตักบาตรเทโวลงจากยอดเขา จากนั้นในช่วงบ่ายจึงพากันเดินทางกลับโดยรถคันเดียวกัน เมื่อมาถึงวัดป่าคำหัวช้าง จึงพากันลงจากรถแวะดูว่ามีคนที่วัดมากพอที่จะขายสลากฯ หรือไม่  โดยในขณะที่ลงไปดูนั้น ตนเองยืนอยู่กับเพื่อนแม่ค้าด้วยกัน 4 คน โดยที่เพื่อนอีก 1 คน เดินเข้าไปดูในวัด

“หากมีคนเยอะก็จะไปจำหน่ายสลากฯ แต่ถ้าไม่เยอะก็จะพากันกลับบ้าน อยู่ๆก็มีหลวงพ่อถือไม้มาไล่ตนเองและเพื่อนๆ พร้อมทั้งข่มขู่ทำร้าย ทั้งที่ทุกคนนั้น ยืนอยู่นอกวัด ทำให้ทุกคนนั้นไม่ยอม เพราะไม่มีความผิดอะไร จะมาขู่ว่าจะตบได้อย่างไร และพระสงฆ์กระทำการในลักษณะเช่นนี้ได้หรือไม่ อีกทั้งตนเองและเพื่อนๆไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งในระหว่างที่ถูกต่อว่าก็มีการอธิบายไปแล้วว่าขอยืนรอคนขับรถและเพื่อนๆก่อน แต่หลวงพ่อก็ไม่ฟัง”

นางนวลละออง กล่าวต่ออีกว่า สาเหตุที่หลวงพ่อโมโหนั้น เชื่อว่าน่าจะเกิดจากที่ตนเองและเพื่อนๆไม่ยอมไปนั่งจำหน่ายสลากฯ ในจุดที่วัดกำหนด โดยจะต้องเสียค่าบริการ แผลงละ 100 บาทต่อคน ต่อวัน

ขณะที่ นางบัวฮอง ทิพย์ฤาตรี อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ 5 ต.หนองกุงใหญ่ อ.กระนวน แม่ค้าจำหน่ายสลากฯ อีกราย บอกว่า ตนเองเป็นคนเดินเข้าไปดูภายในบริเวณวัดเพียงคนเดียวแต่ยังไม่ได้กลับออกมาบอก เพื่อนๆ  ก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมาก่อน ส่วนที่หลวงพ่อบอกว่ามีการวางแผนมาเพื่อทำลายชื่อเสียงของวัด และตัวของหลวงพ่อเองนั้น ทุกคนขอปฎิเสธ

“แม่ค้าทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นเป็นชาวพุทธ ทำบุญที่วัดมามากต่อมากแล้ว จะมาทำลายศาสนา มาทำลายวัดได้อย่างไร ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ได้ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.น้ำพอง ไว้แล้ว เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ในความผิดถูกข่มขู่คุกคามทำให้เกิดความตกใจกลัว แต่ว่ายังไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับทางหลวงพ่อตามที่ปรากฎในคลิปภาพ  แต่หากยังคงกระทำการในลักษณะดังกล่าวอีกก็จะแจ้งความเอาผิดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายทันที