อาชญากรรม

รองผบช.น. เผยสาเหตุ อดีตสามียิงในรพ. สั่งไล่เช็กวงจรปิด ยันไม่ใช่เหตุกราดยิง

Khaosod
อัพเดต 25 มี.ค. เวลา 07.28 น. • เผยแพร่ 25 มี.ค. เวลา 07.00 น.
รองผบช.น. เผยสาเหตุ อดีตสามียิงในรพ. สั่งไล่เช็กวงจรปิด ยันไม่ใช่เหตุกราดยิง

รองผบช.น. เผยสาเหตุ อดีตสามียิงในรพ. สั่งไล่เช็กวงจรปิด ยันไม่ใช่เหตุกราดยิง เป็นเรื่องส่วนบุคคล มูลเหตุเรื่องนี้เบื้องต้นเป็นเรื่องส่วนตัว

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. เปิดเผยถึงเหตุชายถืออาวุธปืนเข้ามาในโรงพยาบาล ก่อนใช้อาวุธปืนยิงตัวเองบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เหตุชายถืออาวุธปืนเข้ามาในโรงพยาบาลย่านโชคชัย 4 ก่อนใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต โดยยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เหตุกราดยิง แต่เป็นเรื่องส่วนบุคคล ซึ่งผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงตัวตายเองภายในห้องของโรงพยาบาลดังกล่าว โดยมูลเหตุเรื่องนี้เบื้องต้นเป็นเรื่องส่วนตัวที่ผู้ตายมีปัญหากับบุคลากรที่อยู่ในโรงพยาบาล ไม่ขอระบุว่าตำแหน่งไหน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เบื้องต้นทราบว่า ทั้งคู่หย่าร้างมาก่อนหน้านี้ราว 1 สัปดาห์ ก่อนจะกลับมาที่โรงพยาบาล เพื่อขอพบขอพูดคุย จากการตรวจสอบกล้องของโรงพยาบาลพบว่า ผู้ตายอยู่ระหว่างนั่งรอภายในห้องแยกส่วนของแพทย์ ไม่มีบุคคลอื่นอยู่ภายในห้อง แต่ปรากฏว่า บุคลากรที่อยู่ในโรงพยาบาลรายดังกล่าวยังคงติดภารกิจ ทำให้เชื่อว่าน่าจะเครียดจนก่อเหตุยิงตัวเอง

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างไล่กล้องวงจรปิด พร้อมทั้งต้องเชิญบุคลากรในโรงพยาบาลรายดังกล่าวเข้ามาสอบปากคำถึงมูลเหตุจูงใจในครั้งนี้ด้วยว่า มีปัญหาหรือทะเลาะเบาะแว้งอะไรกันมาก่อน ส่วนฝ่ายชายกำลังตรวจสอบอยู่ว่าทำอาชีพอะไร

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พร้อมทั้งขอย้ำว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และไม่มีใครทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิต เป็นการทำร้ายตัวเองด้วยอาวุธปืนจนจบชีวิต

ซึ่งขณะนี้พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช อยู่ระหว่างชันสูตรพลิกศพ ร่วมกับพนักงานสอบสวน และเก็บหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนจะส่งศพมาที่นิติเวช เบื้องต้นมีรายงานว่าผู้ตายป่วยซึมเศร้า ส่วนอาวุธปืนเป็นของผู้ตายเอง ขนาด 9 มม.

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : รองผบช.น. เผยสาเหตุ อดีตสามียิงในรพ. สั่งไล่เช็กวงจรปิด ยันไม่ใช่เหตุกราดยิง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ