หุ้น การลงทุน

นักลงทุนเทขายหนัก หวั่น ‘เศรษฐกิจถดถอย’ ฉุด ‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาด ร่วงเกือบ 500 จุด

The Bangkok Insight
อัพเดต 24 ก.ย 2565 เวลา 00.44 น. • เผยแพร่ 24 ก.ย 2565 เวลา 00.44 น. • The Bangkok Insight

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (23 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ "ดาวโจนส์" ร่วงลงเกือบ 500 จุด เหตุนักลงทุนเทขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความวิตกถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลัง "เฟด" ส่งสัญญาณ ใช้นโยบายการเงินเข้มงวด ในความพยายามที่จะควบคุมเงินเฟ้อ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 29,590.41 จุด ร่วงลง 486.27 จุด หรือ 1.62% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,693.23 จุด ร่วงลง 64.76 จุด หรือ 1.72% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 10,867.93 จุด ร่วงลง 198.88 จุด หรือ 1.80%

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ดาวโจนส์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 โดยระหว่างวันซื้อขาย ทรุดตัวลงมากกว่า 800 จุด และร่วงลงมากกว่า 20% จากระดับปิดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 36,799.65 เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา

ดาวโจนส์

ขณะที่ หุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดตลาดในแดนลบ นำโดยกลุ่มพลังงาน และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งร่วงลง 6.75% และ 2.29% ตามลำดับ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

บรรดานักลงทุนได้เทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากมีความวิตกมากขึ้นว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด จะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (21 ก.ย.) เฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในความพยายามที่จะควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยระดับดังกล่าว เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในปีนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟด อยู่ในกรอบ 3-3.25%

ทั้งนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยังย้ำว่า เฟดมุ่งเป้าบรรลุเป้าหมายด้านเสถียรภาพราคา ซึ่งคาดว่า จะต้องอาศัยการคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่อง และจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำกว่าแนวโน้ม และการว่างงานสูงขึ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นักลงทุนคาดว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนพฤศจิกายน และปรับขึ้นอีก 0.50% ในเดือนธันวาคม

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.3 ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 44.6 ในเดือนสิงหาคม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ