ภูมิภาค

เกษตรกรน้ำตาตก ราคาหมูหน้าคอกเหลือ กก.ละ 80 แต่อาหารเลี้ยงสุกรพุ่งไม่หยุด (คลิป)

MATICHON ONLINE
อัพเดต 26 ก.พ. 2566 เวลา 05.48 น. • เผยแพร่ 26 ก.พ. 2566 เวลา 05.22 น.

สุดเศร้า! เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรน้ำตาตก ราคาหมูหน้าคอกเหลือกิโลละ 80 บาท แต่อาหารสุกรราคาพุ่งไม่หยุด (คลิป)

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่จังหวัดอุทัยธานี ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในพื้นที่อำเภอสว่างอารมณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรมากที่สุดทั้งรายเล็กรายใหญ่ หลังพบว่าราคาสุกรหน้าคอกของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรมีราคาลดฮวบ จากราคากิโลกรัมละ 110-115 บาท เหลือเพียงกิโลกรัมละ 80 บาทเท่านั้น ซึ่งลดลงจากเดิมถึงกิโลกรัมละ 30-35 บาท แต่เกษตรกรก็ต้องจำใจยอมจับขายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากถึงกำหนดจับขาย หากเลี้ยงไว้ต้องกินทุนค่าอาหารเพิ่มขึ้นอีก ประกอบกับปัจจุบันค่าอาหารหมูนั้น มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วยเช่นกัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยนายธีรวัฒน์ ยิ้มช้อย อายุ 40 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในพื้นที่ตำบลสว่างอารมณ์ อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า ตนเลี้ยงสุกรเป็นอาชีพมา 12 ปีแล้ว ปีนี้ถือว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาอาหารสุกรแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะก่อนหน้านี้ราคาหน้าคอกอยู่ที่กิโลกรัมละ 110-115 บาท ถือว่ามีกำไรอยู่กันได้ แต่ตอนนี้ ราคาลดฮวบลงมาเหลือกิโลกรัมละ 80 บาท และยังมีแนวโน้มลดต่ำดิ่งลงไปถึงกิโลกรัมละ 70 บาทอีกด้วย ส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อน ต้องแบกรับต้นทุนและจำใจยอมขาดทุนกัน อย่างตนเลี้ยงสุกรครั้งละ 20 ตัว มีต้นทุนเป็นค่าพันธุ์หมูตัวละ 2,500 บาท 20 ตัว เป็นเงิน 50,000 บาท ต้องเลี้ยงเป็นเวลา 4 เดือน จึงจะจับขายได้ เมื่อคิดค่าอาหารหมูแล้ว 1 ตัว ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ จะมีทุนทั้งค่าตัวและค่าอาหารรวม 8,000-8,500 บาท 20 ตัวจะมีต้นทุนรวม 160,000 บาท

ซึ่งตอนนี้ก็ถึงกำหนดขายแล้ว ราคาขายได้เพียงกิโลกรัมละ 80 บาทเท่านั้น โดยหมูแต่ละตัวเฉลี่ยจะมีน้ำหนัก 110 กิโลกรัม 1 ตัวจะมีราคา 8,800 บาท ถ้า 20 ตัว ราคารวมแล้ว ขายได้เพียง 176,000 บาท แต่มีต้นทุนถึง 160,000 บาท เหลือกำไรเพียง 16,000 บาท

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ถ้าคิดเป็นตัวจะขายเฉลี่ยตัวละ 8,800 บาท ได้กำไรตัวละ 300-500 บาท ถือว่าไม่ได้กำไร เพราะต้องเสียค่าแรง ค่าน้ำ ค่าไฟ และเสียเวลาถึง 4 เดือน หากเป็นราคาก่อนหน้านี้จับขายได้กิโลกรัมละ 110-115 บาท ต่อตัวจะขายได้เฉลี่ยตัวละ 12,000-12,500 บาท ซึ่งกำไรจากที่เคยได้ตัวละ 3,500-3,700 บาท ถ้ารวม 20 ตัวที่เลี้ยงไว้จะจับขายได้รวมเฉลี่ย 240,000-250,000 บาท เท่ากับกำไรหายไป รวมกว่า 65,000 บาท

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ก็จำเป็นต้องจับขายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะราคามีแนวโน้มดิ่งต่ำลงอีก 70 บาทต่อกิโลกรัม จึงไม่กล้าเสี่ยงที่จะรอราคา เนื่องจากต้องมีต้นทุนเป็นค่าอาหารสุกรอีก อยากจะวอนผู้เกี่ยวข้องช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องราคาอาหารสุกร หากราคาอาหารยังแพงขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจจะต้องหยุดเลี้ยงสุกรไปก่อน

ดูข่าวต้นฉบับ