วันที่ 7 ธ.ค.62 พลเรือโทประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือและโฆษกกองทัพเรือ เผยว่า ทัพเรือภาคที่ 3 ต้องเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ใหม่ หลังทราบข่าวว่าใน 24 ธ.ค.62 นี้ ประเทศเมียนม่าร์จะมีเรือดำน้ำเข้าปฏิบัติงานในทะเลอันดามัน สำหรับเรือดำน้ำลำแรกของเมียนมาร์นี้ เป็นเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า จากประเทศอินเดีย โดยเป็นเรือดำน้ำชั้น Kilo ใช้เชื้อเพลิงดีเซล ขนาด 3,000 ตัน ความยาว 72.6 ม. มีระยะปฏิบัติการใต้น้ำได้ราว 640 กม. สามารถปฏิบัติการใต้น้ำได้ราว 45 วัน กำลังพลประจำเรือจำนวน 52 นาย สามารถดำน้ำลึกได้สูงสุด 300 เมตร โดยเรือดำน้ำรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากด้วยประสิทธิภาพในเรื่องของความเงียบ และความสามารถติดอาวุธได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งอินเดียได้จัดซื้อจากประเทศรัสเซียตั้งแต่ปี 1980 โดยได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยและยังได้ทำการปรับปรุงระบบต่างๆ เพิ่มเติมจากอู่ต่อเรือในประเทศอินเดียอีกด้วย โดยเมียนม่าร์ยังระบุว่า เรือดำน้ำลำนี้ จะถูกใช้ในภารกิจด้านความมั่นคงและการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของเมียนมาร์เป็นหน้าที่หลัก ซึ่งในอนาคตรัฐบาลเมียนม่าร์ ยังคงมีแผนในการเจรจากับรัสเซีย เพื่อจัดหาเรือดำน้ำชั้น Kilo เพิ่มเติมในอนาคตเพื่อขยายขีดความสามารถทางทหารของพม่าอีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่กองทัพเรือจะต้องเร่งดำเนินการหาวิธีการเพื่อเตรียมการรับมือต่อไป
Atsawin ผมนี่คิดเรื่องเดียวเลย งบกลาโหมเพิ่ม 55555
07 ธ.ค. 2562 เวลา 17.44 น.
🌱 พี่นัท 🌱 ทร.ไทย ซื้อเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำมาเยอะๆ ครับ ม้วนเดียจบ อากาศยานยังไงก็รบชนะกองทัพเรือ
07 ธ.ค. 2562 เวลา 17.40 น.
Gaikrub ถึงเวลาที่จะได้โชว์แสนยานุภาพทางการทหารอันแสนเกรียงไกรของทหารไทย ที่ไม่แพ้ใครในโลก แม้แต่พวกโจรใต้ก็ไม่ได้แดก
07 ธ.ค. 2562 เวลา 17.09 น.
‘0’ คิดว่าคงจะไม่หาเรื่องไปซื้อมาอีกนะครับ เรามีปลาพยูร ก็พอ เอามาทำมัยเรือดำน้ำ ช่วยน้ำท่วมได้มั๊ยถามใจเธอดู
07 ธ.ค. 2562 เวลา 17.04 น.
กะเพา จะรีบ ซื้อไปไหน มันซื้อก้ไม่รบ กับใครหรอก
07 ธ.ค. 2562 เวลา 18.44 น.
ดูทั้งหมด