ไอที ธุรกิจ

"โควิด" พลิกมุมคิดคนท่องเที่ยว "สุรวัช อัครวรมาศ" จุดประกาย ขายบะหมี่เบตง "จี๊กิม! บะหมี่ฮกเกี้ยน"

ประชาชาติธุรกิจ
อัพเดต 05 เม.ย. 2563 เวลา 04.04 น. • เผยแพร่ 05 เม.ย. 2563 เวลา 09.30 น.

ก้าวสู่เดือนที่ 3 แล้วที่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก นับตั้งแต่ประเทศจีนปิดเมือง “อู่ฮั่น” ห้ามคนจีนออกนอกประเทศ และห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้า-ออกเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา และขยายผลไปทั่วโลกในขณะนี้ ส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยหยุดชะงักทันที ทั้งปิดกิจการ, บอกเลิกจ้างพนักงาน, ลดเงินเดือนพนักงาน ฯลฯ

ล่าสุดคนท่องเที่ยวเริ่มมองหาทางออกด้วยการสร้างธุรกิจใหม่ โดยตัดสินใจก้าวสู่เส้นทางเถ้าแก่ขาย “บะหมี่ฮกเกี้ยน” หรือบะหมี่เบตง ภายใต้แบรนด์ “จี๊กิม! บะหมี่ฮกเกี้ยน” ไปเรียบร้อยแล้ว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“สุรวัช อัครวรมาศ” เจ้าของบริษัท กู๊ดลัคเอ็กซ์เพรส จำกัด, บริษัท เค.ที.เค. ทัวร์ เอ็นเตอร์ไพร้ส์ จำกัด อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA), ที่ปรึกษาสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA), ที่ปรึกษาสมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) ฯลฯ ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการท่องเที่ยวมากว่า 30 ปี ผู้ปลุกปั้นแบรนด์บะหมี่ “จี๊กิม! บะหมี่ฮกเกี้ยน” ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแนวคิด มุมมองการปรับตัวในช่วงที่ธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักในขณะนี้ ไว้ดังนี้

“สุรวัช” เล่าว่า นับตั้งแต่ธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิดระบาดตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีสื่อมาสัมภาษณ์เยอะมากว่า ในช่วงวิกฤตโควิด-19 นี้ ภาคท่องเที่ยวต้องปรับตัวกันอย่างไร และบริษัทที่บริหารอยู่จะปรับอย่างไร คำตอบง่าย ๆ คือ ต้องไม่นั่งดูปัญหาและทำอย่างไรให้ลูกน้องและพนักงานอยู่รอด

โดยสิ่งที่จุดประกายไอเดียให้เริ่มต้นธุรกิจขายบะหมี่ ภายใต้แบรนด์ “จี๊กิม!บะหมี่ฮกเกี้ยน” มาจากตระกูลของเขา ซึ่งมีภูมิลำเนาดั้งเดิมจากเบตง (อ.เบตง จ.ยะลา) และมีความสามารถในด้านฝีมือการทำอาหาร โดยเฉพาะพี่สาว (จี๊กิม-ที่มาของชื่อแบรนด์) โดยทุกครั้งที่มีโอกาสทำรับประทานกันเองในครอบครัว หรือในวาระที่คนในครอบครัวมารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงตรุษจีน, วันรวมญาติ หรือเทศกาลต่าง ๆ ก็คุยกันตลอดว่า พวกเราน่าทำขาย บวกกับส่วนตัวเป็นคนชอบกินเส้น ชอบกินบะหมี่รสชาตินี้อยู่แล้ว แต่หากินรสชาติแบบนี้ในกรุงเทพฯยากมาก จะมีบ้างก็ต้องที่ภูเก็ต เพราะส่วนใหญ่เป็นคนจีนฮกเกี้ยน ช่วงไหนมีโอกาสไปภูเก็ตก็จะไปหารับประทาน แต่รสชาติก็ยังไม่ถูกปากเท่ากับฝีมือของพี่สาว เพราะรสชาติดั้งเดิมของบะหมี่ฮกเกี้ยนจะมีความอร่อยที่เฉพาะตัว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เริ่มต้นสักที

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อมาเจอจังหวะที่ธุรกิจทัวร์ได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวหยุดการเดินทางทั้งตลาดอินบาวนด์ (ขาเข้า) และเอาต์บาวนด์ (ขาออก) บริษัทซึ่งทำทัวร์ทั้งขาเข้า-ขาออกไม่มีลูกค้า พนักงานทั้งหมดราว 20 คนไม่มีงานทำ

“สิ่งที่ผมคิดง่าย ๆ คือ ในช่วงที่พวกเราว่างงาน บริษัททัวร์ไม่มีลูกค้า จะทำอย่างไรให้พนักงานที่ทำงานกับเราอยู่ได้ จึงหารือกับลูก ๆ หลาน ๆ ก็ได้ข้อสรุปว่าน่าจะเปิดร้านขายบะหมี่ฮกเกี้ยน เพราะเป็นสิ่งที่ทางครอบครัวเรามีความถนัดที่สุด ขณะที่โปรดักต์คือบะหมี่ก็มีความแตกต่างจากในตลาดทั่วไป จึงให้พนักงานที่ว่างงานจากการทำทัวร์มาช่วยกันสร้างธุรกิจบะหมี่”

พร้อมเล่าว่า ในช่วงที่บริษัทไม่ได้ทำทัวร์ เขาคุยกับพนักงานไปแล้วครั้งหนึ่งว่า เราจะร่วมด้วยช่วยกันอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้บริษัทรอดพ้นจากวิกฤต ซึ่งพนักงานก็พร้อมใจและยินดีให้บริษัทลดเงินเดือนลงครึ่งหนึ่ง แลกกับลดจำนวนวันทำงานลงครึ่งหนึ่งเช่นกัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

กระนั้นก็ตามก็ยังคิดตลอดว่า จะช่วยให้พวกเขามีรายได้ที่ไม่น้อยกว่าเดิมได้อย่างไร พอสรุปโปรเจ็กต์ขายบะหมี่กับลูก ๆ หลาน ๆ ได้ ก็นำมาคุยกับพนักงานว่า ใครพร้อมที่จะมาช่วยงานขายบะหมี่บ้าง คนที่มาช่วยจะได้รายได้ส่วนที่หายไปครึ่งหนึ่งกลับคืนมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็สมัครใจเข้าร่วมโครงการขายบะหมี่กัน โดยที่ไม่ต้องไปจ้างคนใหม่เข้ามาช่วย เรียกว่า นอกจากจะเป็นการเริ่มสร้างธุรกิจใหม่แล้ว ยังเป็นการสร้างงาน และสร้างรายได้ให้พนักงานที่ว่างงานจากการไม่มีทัวร์อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่ก็พักอาศัยอยู่ใกล้ออฟฟิศ สามารถเดินมาทำงานได้โดยไม่เสี่ยงกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดด้วย ทุกอย่างจึงลงตัวในเวลาอันรวดเร็ว

“อีกอย่างด้วยความที่เป็นคนเบตง ผมมีความตั้งใจมาก ๆ ที่จะทำให้บะหมี่เบตงกลายเป็นที่รู้จักของคนในวงกว้างมากยิ่งขึ้น และทำให้เป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ของนักท่องเที่ยวคนไทยที่ต้องซื้อ ต้องชิม เมื่อมีโอกาสไปเที่ยวเบตงด้วย”

ที่สำคัญ ด้วยเครดิตต้นทุนด้านสังคมที่ตัวเองพอมีอยู่บ้าง จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบอาหารคุณภาพ ที่มีรสชาติเสมือนกลิ่นอายฝีมือแม่ หรือ like mother cook ให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ และคนที่เคารพนับถือโดยในช่วงเริ่มต้นธุรกิจนี้จะมีโปรดักต์หลัก 2 ตัว คือ บะหมี่ฮกเกี้ยน (กุ้ง) จำหน่ายในราคา 129 บาท และบะหมี่แกงกะหรี่เบตง จำหน่ายในราคา 89 บาทซึ่งสูตรดั้งเดิมที่เบตงจะเป็นบะหมี่เส้นขาว หรือที่ภาษากวางตุ้งเรียกกันว่า “กาไล้มัยฝัน” อาหารเช้าของชาวเบตง แต่สินค้าที่ทำออกสู่ตลาดในช่วงนี้จะมี 3 สูตร คือ เส้นบะหมี่ขาว, เส้นบะหมี่เหลือง และเส้นผสมทั้งบะหมี่ขาวและบะหมี่เหลืองในชามเดียวกัน และยังมีแผนเพิ่มสินค้าประเภทเครื่องดื่มอีก 2 โปรดักต์ คือ น้ำจับเลี้ยงเบตง รสชาติเข้มข้น หอมสมุนไพร เครื่องดื่มสมุนไพรที่ช่วยดับกระหายและแก้ร้อนในและน้ำเก๊กฮวย ซึ่งเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปด้วย

สำหรับช่องทางการจำหน่ายนั้น “สุรวัช”บอกว่า ในระหว่างที่อยู่ในช่วงของประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้ หน้าร้าน (โครงการ Chic District ซอยรามคำแหง 53) ยังไม่สามารถเปิดให้บริการแบบนั่งรับประทานได้ ลูกค้าที่สนใจขณะนี้สามารถสั่งซื้อได้ทาง โทร.06-2392-4636, แอด Line ID : @kimhokkienmee หรือ https://lin.ee/mDAkLRO , LINE MAN และ Facebook :จี๊กิม บะหมี่ฮกเกี้ยน

ผู้คร่ำหวอดในวงการท่องเที่ยวรายนี้ยังฝากข้อคิดทิ้งท้ายด้วยว่า อยากให้การลุกขึ้นมาทำธุรกิจขายบะหมี่ครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนท่องเที่ยวบางส่วนที่กำลังมองหาช่องทางสร้างงานสร้างอาชีพ ว่าอย่าท้อแท้ และอย่าดูถูกอาชีพ ไม่รังเกียจการทำมาหากิน ที่สำคัญต้องพร้อมฝ่าฟันวิกฤต อย่ามัวแต่นั่งดูปัญหาและรอความช่วยเหลือจากภาครัฐ เพราะวิกฤตรอบนี้หนักหนาสาหัสกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ต้องสู้เท่านั้นถึงจะชนะ…

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • Nira
    💜💙💛❤💝💚❣🧡💜 💰🌈♥️🌟💰💳🍷👑🇹🇭 📣 ขออนุญาตฝากประกาศจ้าา ต้องการรับคนเพิ่ม!! (รับอายุ 18-60 ปี) **อยู่กรุงเทพและปริมณฑลรับพิจารณาเป็นพิเศษ** ช่วยคอนเฟิร์มออเดอร์สินค้าให้ลูกค้า (ทำเวลาไหนก็ได้ หลังเรียน หลังเลิกงาน) 💰รายได้สัปดาห์ละ 2000-6000 บาท💰 สนใจงานติดต่อโดยตรงที่👇🏻 👤Line ID: @153lawtz (พิม @ ด้วยค่ะ) (เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับไปให้รายละเอียดงานตามคิว)
    06 เม.ย. 2563 เวลา 07.16 น.
ดูทั้งหมด