บันเทิง

ได้แค่เพื่อน “โอ๊ต” ปิดประตูใจใส่ “แตงโม” ไม่อยากให้มารับรู้ภาวะซึมเศร้า-แพนิก ร้องไห้ทุกวัน

Manager Online
เผยแพร่ 07 ก.ค. 2563 เวลา 11.15 น. • MGR Online

“โอ๊ต ปราโมทย์” ให้ “แตงโม” แค่เพื่อน ยังไม่อยากมีแฟน เพราะตอนนี้กำลังต่อสู้กับโรคซึมเศร้าที่รุมเร้าตนหนักขึ้น จนมีภาวะแพนิกร่วม แอบไปร้องไห้คนเดียวทุกวัน หวังกินยารักษาแล้วอาการจะดีขึ้น ลั่นตายยาก ไม่ต้องเป็นห่วง

หลังจากที่สาว “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ออกมายืดอกยอมรับว่ากำลังปลื้มหนุ่ม “โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน” เอามากๆ ก็ทำเอาชาวเน็ตแห่แท็กคลิปดังกล่าวไปถึงหนุ่มโอ๊ตจนกลายเป็นกระแส มีทั้งคนเชียร์และคนที่ไม่ปลื้ม ล่าสุดหนุ่มโอ๊ตได้เปิดใจกับรายการดาราแลนด์ถึงแตงโมว่า….

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“ช่วงนี้อาบน้ำบ่อย ก็เลยเนื้อหอม(หัวเราะ) กับรูปเขินอาย จริงๆ ผมเขินอายกับทุกเรื่องอยู่แล้ว ผมลงรูปนั้นก่อนจะมีข่าวอีกนะ ก็ยังงงไม่รู้คนเอาไปโยงกันได้ยังไง มันคนละเรื่องกัน ก็รู้สึกดีครับที่มีคนมาปลื้ม มาชื่นชอบเรา กับแตงโมรู้จักกันมาเป็นสิบปีแล้ว อาจจะด้วยผลงานมากกว่า พอมีข่าวก็ได้มีการคุยกัน เราก็คุยกันชัดเจนด้วยความเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว ผมไม่ได้ไปทำชู้สาวใส่ ไปหยอดอะไรแบบนี้”

ชัดเจนเป็นเพื่อนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่อยากมีแฟน

“ถามถึงความเป็นไปได้ ตัวผมเองก็ให้เกียรติเขามาก เราก็ตอบไปแบบลูกผู้ชายว่าขอบคุณนะที่รู้สึกดีให้กัน ผมว่าตอนนี้มันชัดเจนตรงที่ว่าเราเป็นเพื่อนกัน ผมยังไม่อยากจะมีแฟนด้วย เราทำงานหนักมาก ผมเองมีหน้าที่รับผิดชอบเยอะ ก็บอกเขาตรงๆ ว่าเป็นเพื่อนกันนะ แต่ถ้าจะก้าวข้ามไปตรงนั้นอย่าเพิ่งดีกว่า”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

บอก “แตงโม” ไม่ต้องนอยด์ หลังคนเข้าไปคอมเมนต์เซฟตนให้หนีจากฝ่ายหญิงให้ไกลๆ

“สมัยนี้เราต้องมองข้ามเรื่องนี้ไปแล้ว การที่เราจะไปพูด ไปตามว่าแตงโมหรือตัวผมเองตามคอมเมนต์ต่างๆ ผมว่ามันก็ไม่แฟร์กับเขา มันเป็นชีวิตของเขา ผมเองเห็นเยอะเหมือนกันคนที่เขามาเซฟเรา ให้เราหนีไปไกลๆ ตรงนี้ผมก็บอกกับแตงโมว่าไม่ต้องไปนอยด์นะ เราชัดเจนกันอยู่แล้ว ฉะนั้นเราเป็นเพื่อนกันมันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย ผมก็ไม่ได้ปฎิเสธเขาต่อหน้าสื่อ หรือในไอจี"

ลั่นตนโตแล้ว รู้อะไรดีอะไรไม่ดี อยากให้มองเป็นเรื่องเชิงบวกมากกว่า

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“ไม่ต้องบอกให้ผมหนีไป ผมโตแล้ว ผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ผมรู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี อะไรแค่ไหนถึงจะเรียกว่าเหมาะสม ผมมองว่าผมกับแตงโมเองก็วางตัวดี ก็อยากให้มองเป็นเรื่องบวก ให้มันเป็นเรื่องที่น่ารัก อย่าไปเหยียด ดูถูกดูแคลนเขาไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ทุกวันนี้ก็เป็นเพื่อนกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน”

พ้อทำงานจนกระทบสุขภาพมีอาการโรคซึมเศร้ารุนแรงขึ้น จนตอนนี้กลายเป็นความเครียดสะสมมีอาการแพนิก (ภาวะตื่นตระหนกต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยไม่มีเหตุผล เป็นส่วนหนึ่งของโรคซึมเศร้า) ร่วมด้วย

“งานแน่นจนป่วย ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ไม่ได้หยุดเลย พอปลดล็อกดาวน์ 3 เดือนแทบไม่มีวันหยุด บางวัน 2-3 งาน มันก็กระทบกับสุขภาพเรามาก ตอนนี้เราเป็นแพนิกและซึมเศร้าหนักมากๆ กำลังจะไปพบจิตแพทย์ ตามนัด ซึ่งการไปพบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร”

“อาจจะต้องเทกยาก่อนเพื่อเป็นการปรับจูนระบบสมองในช่วงนี้เพราะว่าเราแบกความรับผิดชอบหลายอย่างไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบริษัท เรื่องที่จะต้องบริหารความรู้สึกคนอื่น รวมไปถึงวงดนตรีที่เราจะต้องดูแล ที่ผ่านมาพี่ๆไม่มีงานแต่ผมยังซัปพอร์ตพี่ๆในวงตลอด”

เผยเครียดหนักจนมีอาการแพนิกร่วมด้วย แอบไปร้องไห้คนเดียวทุกวัน

“แต่ก่อนเครียด ยังไม่แพนิก ตอนนี้แพนิกไปแล้ว อยู่ๆ มันก็อึดอัดหายใจไม่ออก หัวใจเต้นเร็ว มือชา เท้าชา ปากชา เวียนหัว มันอึดอัดมากๆ จนอยู่ในสถานที่ตรงนั้นไม่ได้ ต้องออกไปที่อื่น คือเมื่อก่อนเป็นเดือนละ1-2 ครั้ง แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นทุกวัน วันละ 2 ครั้ง พอแพนิกมันก็จะมีอาการนั่งร้องไห้คนเดียวทุกวัน ทางที่ดีที่สุดคือก็ต้องรักษามัน ไปปรึกษาคุณหมอ หลังจากนี้ก็คงต้องเช็คอัปตลอด อะไรที่ลดลงได้ก็พยายามจะลดลง”

คาดสาเหตุอาจจะมาจากที่ตนไม่มีแฟน ทำให้ไม่มีคนปรับทุกข์ ระบายความรู้สึกด้วยได้

“มันอาจจะเพราะว่าเราไม่ได้มีแฟน ไม่มีคนข้างกายไว้ให้เราระบายได้ เราก็จะเก็บอะไรไว้คนเดียวทั้งหมด ไม่อยากให้มองว่ามันเป็นโรคเรียกร้องความสนใจ ผมไม่อยากได้รับความสนใจจากคนอื่น โรคนี้มันต้องรักษาด้วยตัวเอง มันต้องหายด้วยตัวเอง มันต้องเยียวยาด้วยตัวเอง”

“ฉะนั้นผมแค่บอกคนข้างกายไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน พนักงานทุกคนว่าตอนนี้ฉันเป็นแบบนี้อยู่นะ ฉะนั้นอะไรที่มันจะกระทบกระเทือนจิตใจเราก็อย่าพยายามเอามาให้เรารู้สึกดาวน์ไปกับมัน ให้คนอื่นรับผิดชอบส่วนต่างๆ มากขึ้น ไม่ให้ตัวเองแบกอะไรมากเกินไป ด้วยความที่เราชอบทำอะไรคนเดียว แบกคนเดียวโดยที่เราไม่รู้ตัวว่าเราเป็นอะไร ทำอะไรลงไปบ้าง”

ย้ำแฟนๆ ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวก็จะผ่านไป ตนตายยาก เล็งหาน้องหมามาเลี้ยงเป็นเพื่อน

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ โอ๊ต ปราโมทย์สบายมากครับ ตายยากครับ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป มันเป็นช่วงอายุด้วย คนอายุ 35-36 ปี มันก็มาครึ่งชีวิตแล้ว ก็จะเป็นช่วงชีวิตที่ต้องรับผิดชอบอะไรมากขึ้น โตขึ้น มันก็จะเกิดการกลัวสิ่งต่างๆ ที่จะเข้ามา ตอนนี้บอกเลยว่าเป็นแบบนี้กันเยอะ เพื่อนๆ ผมหลายคนเป็น จนตอนนี้มันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว”

“ฉะนั้นก็แค่ดูแลตัวเองมอบว่ารู้สึกดีๆ ให้แก่กันก็พอแล้ว ตอนนี้กำลังมองหาน้องหมามาเป็นเพื่อน ไม่อยากมีแฟน ไม่อยากให้เขามารับสภาพอะไรเราตอนนี้ แม่ยังไม่รู้ ยังไม่อยากบอกแก ตอนนี้ก็ลองกินยาดูก่อนถ้ามันไม่ดีขึ้นก็คงต้องบอก”

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 27
  • ผชก็ตอบปฏิเสธแบบรักษาน้ำใจ สรุปคือเขาไม่เอา ระดับนี้เขาหาได้ดีกว่านี้เยอะ ผญนี่ก็ผ่านมากี่มือละ ราคาตกไปเยอะ หน้าก็ทำมาจนเป็นหุ่นยนต์ไปแล้ว อายแทนผญ
    08 ก.ค. 2563 เวลา 05.13 น.
  • Saw Hpa Aiz
    จัดกันสักยกสองยกค่อยเลิกก็ได้
    08 ก.ค. 2563 เวลา 02.35 น.
  • Joannie
    โชคดีของโตโน่
    08 ก.ค. 2563 เวลา 00.09 น.
  • Phim Phim
    🍓🍓🍓🍓🍓🍓🍓🍓🍓
    07 ก.ค. 2563 เวลา 23.17 น.
  • ♠️
    แตงเน่าใครจะเอา
    07 ก.ค. 2563 เวลา 18.00 น.
ดูทั้งหมด