เมื่อกล่าวถึงโรคมะเร็งทุกคนจะรู้สึกตกใจ เพราะมะเร็งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลกและเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญ โดยมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ มะเร็งปอด รองลงมาคือ มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งกระเพาะอาหาร ส่วนมะเร็งที่เป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่ง คือ มะเร็งปอด ตามมาด้วยมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งการรักษามะเร็งด้วยยาเคมีบำบัด เป็นรูปแบบการรักษาที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติอีกครั้ง
โรคมะเร็งที่รักษาได้ผลดี (Curable Cancer) นั้น ส่วนใหญ่ถ้าสามารถวินิจฉัยได้ในระยะเริ่มแรก โดยมากจะเพิ่มโอกาสการรักษาให้หายได้ด้วยการผ่าตัด เช่น โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น แต่หากวินิจฉัยเมื่อโรคเป็นมากแล้วและมีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่างๆ จำเป็นต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็ง ทำให้โรคมะเร็งบางชนิดที่แม้มีการแพร่กระจายไปแล้วก็สามารถเพิ่มโอกาสการรักษาให้หายได้ โดยโรคมะเร็งที่สามารถรักษาได้ผลดี (Curable) ด้วยยาเคมีบำบัด ประกอบไปด้วย 1.โรคมะเร็งอัณฑะ 2.โรคมะเร็งเนื้อรก หรือ Choriocarcinoma 3.โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองบางชนิด และ 4.โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวบางชนิด
วิธีการรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาแบบ "สหสาขา" หมายถึงการรักษาโดยทีมแพทย์หลายสาขาร่วมกัน ประกอบด้วย แพทย์รังสีวินิจฉัย แพทย์รังสีร่วมรักษา ช่วยในการวินิจฉัยและการตัดชิ้นเนื้อเพื่อการวินิจฉัย ศัลยแพทย์โรคมะเร็งทำการผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออก แพทย์ทางรังสีรักษาให้การรักษาด้วยแสงรังสีรักษา อายุรแพทย์มะเร็งวิทยาให้การรักษาทางยา สำหรับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) นับเป็นการรักษาหลักของการรักษาทางยาที่ใช้มากที่สุดในการรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบัน โดยยาเคมีบำบัดอาจใช้เป็นการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดอย่างเดียว หรืออาจใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับรังสีรักษาที่เรียกว่า Chemoradiation อาจใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับยามุ่งเป้า หรือยาภูมิคุ้มกันบำบัดได้ โดยขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรคมะเร็ง การรักษาด้วยยาต้านฮอร์โมน (Hormonal Therapy) นับเป็นการรักษาที่ใช้รองลงมาจากการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) และการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) โดยการพยายามใช้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง
ระยะของโรคมะเร็งและแนวทางการรักษา โดยทั่วไปแบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่ โรคมะเร็งระยะที่ 1-2 คือ โรคมะเร็งระยะแรกที่สามารถผ่าตัดได้ หลังการผ่าตัดผู้ป่วยบางรายอาจจำเป็นต้องให้การรักษาเสริมภายหลังด้วยยาเคมีบำบัดและ/หรือยาต้านฮอร์โมน ที่เรียกว่า Adjuvant Treatment โรคมะเร็งระยะที่ 3 คือโรคมะเร็งที่มักมีการลุกลามมากขึ้น โดยมีการกระจายไปต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงบางรายสามารถผ่าตัดได้ ศัลยแพทย์ก็จะผ่าตัดก่อน หลังการผ่าตัดผู้ป่วยบางรายอาจจำเป็นต้องให้การรักษาเสริมภายหลังด้วยยาเคมีบำบัด และ/หรือรังสีรักษา และ/หรือยาต้านฮอร์โมน เหตุผลที่มีการนำเอายาเคมีบำบัดและยาอื่นๆ มาให้เสริมหลังผ่าตัดก็เพื่อลดอุบัติการณ์ของการกลับมาของโรคมะเร็งทั้งแบบเฉพาะที่และแบบแพร่กระจาย ซึ่งท้ายที่สุดจะเพิ่มระยะเวลาการรอดชีวิตของผู้ป่วยในบางรายที่โรคเป็นมากและการผ่าตัดอาจทำได้ แต่ผลการรักษาอาจไม่ดี เนื่องจากขนาดก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่จึงมีการนำเอายาเคมีบำบัดมาใช้รักษาในระยะเบื้องต้นก่อนการผ่าตัดเพื่อให้ก้อนเล็กลง ศัลยแพทย์สามารถผ่าตัดเก็บอวัยวะหรือผ่าตัดเก็บเต้านมได้ จากนั้นก็ให้การรักษาอื่นตามในภายหลัง โรคมะเร็งระยะที่ 4 หรือโรคมะเร็งระยะที่ 1-3 และมีการกลับมาของโรค ผู้ป่วยจะมีโรคลุกลามมากขึ้นและแพร่กระจายไปอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด ตับ กระดูก สมอง และที่อื่นๆ ซึ่งโรคมะเร็งระยะที่ 4 นี้ มีโรคมะเร็งบางชนิดสามารถเพิ่มโอกาสรักษาให้ได้ผลดีได้ด้วยยาเคมีบำบัดเช่น โรคมะเร็งอัณฑะ โรคมะเร็งเนื้อรก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามโรคมะเร็งระยะแพร่กระจายนี้ส่วนมากรักษาไม่หายขาด แต่สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้หากผู้ป่วยมีกำลังใจดี มีร่างกายที่แข็งแรงพอสมควร แพทย์สามารถให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) ที่เป็นการรักษาหลักในการรักษาโรคมะเร็งระยะแพร่กระจาย โดยยาเคมีบำบัดจะไปหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งทั้งที่อยู่เฉพาะที่และที่แพร่กระจายไป หากการตอบสนองของผู้ป่วยต่อยาเคมีบำบัดนั้นได้ผลดี การรักษาก็จะเพิ่มระยะเวลาการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้และคุณภาพชีวิตก็จะดีขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้การรักษาอื่นๆ ของโรคมะเร็งระยะที่ 4 อาจเป็นการรักษาด้วยยาต้านฮอร์โมน การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) และภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) แล้วแต่ชนิดของโรคมะเร็ง
พญ.สุดสวาท เลาหวินิจ
แพทย์ผู้ชำนาญการด้าน
อายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา
โรงพยาบาลวัฒโนสถ
เจษฎาพล ฉิมพลี ผมว่าอยู่ที่ภูมิคุ้มกันของใครของมันครับ....เมื่อมันไม่ไหวต้องทำใจ..ไปก็ไป..เอาเงินที่จะมารักษาตัวเองเก็บไว้ให้ลูกหลานดีกว่า ทั้งๆที่รู้ว่ามะเร็งถึงรักษาไปก็ตาย เปลืองเงิน แค่ซื้อเวลาให้ตายช้าลง
22 ก.ค. 2562 เวลา 07.49 น.
เป็นโรคอะไรก็ตายทุกโรค หมดวิบากกรรม อาจได้เกิดมาใหม่ ไม่ต้องอ่อนแอทั้งจิตใจและร่างกาย
เราอยากเป็นเหมือนคนอื่นๆที่เขามีความสุข
แต่เราไม่ได้สร้างบุญและทานไว้
เราจึงเป็นอย่างเขาไม่ได้
แค่ทำใจๆๆดีที่สุดหมดวาสนาก็ต้องไป
ทำไมต้องกลัวตาย น่ากลัวเรื่องไม่มีกินจะดีกว่ามั้ย
22 ก.ค. 2562 เวลา 07.40 น.
.!?ผมไม่ชอบเม้น,ไรๆทีลบๆเสียดสี ครั้งนี้ขออนุญาตสักครั้ง เคมีคีโมตายทุกรายในที่สุด เลิกโง่ได้แล้ว อะไรที่เค้ารณรงกันยุตอนนี้ช่วยได้จิง ญาติคนใกล้ชิดผมตายไปเป็น100ในรอบ10ปีนี้ รอบข้างเป็นพันรอตายยุ .. .
22 ก.ค. 2562 เวลา 07.36 น.
ดูทั้งหมด