ไม่ว่าจะงานแต่ง งานบวช งานสัมนา หรืองานอะไร อาชีพหนึ่งที่เรามักจะเห็นพวกเขาโดดเด่นและมีความสามารถด้านการพูดและดำเนินงานอยู่เสมอ คงหนีไม่พ้นอาชีพ “พิธีกร”
เชื่อว่าอาชีพ “พิธีกร” ต้องเป็นหนึ่งในอาชีพ ที่หลายๆ คนให้ความสนใจไม่น้อย ว่าอาชีพนี้เขามีขั้นตอนการทำงานกันอย่างไร แล้วต้องมีทักษะอะไรบ้าง รวมถึงไลฟ์สไตล์จริงๆ ของคนอาชีพนี้เป็นอย่างไรกันแน่ และวันนี้แบไต๋จะพาทุกท่านไปรู้จักอาชีพ “พิธีกร” ให้มากขึ้นค่ะ
อิ๊งค์-ณิชชา ฉัตรไชยเดช
อิ๊งค์เริ่มต้นทำอาชีพพิธีกรได้ยังไงคะ
จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นความบังเอิญและต้องขอบคุณทาง AIS เพราะว่าอิ๊งค์เข้ามาเป็น AIS Smart Gen เลยได้มีโอกาสไปเทรนการพูดและบุคลิกภาพ กับครูน้ำฝน Pronality และ ครูทีน่า Professional MC in English By Kru Tina หลังจากนั้นเลยได้ต่อยอดมาทำงานด้านพิธีกร
AIS Smart Gen คืออะไรคะ
AIS Smart Gen มี 10 คน ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยหน้าที่ของกลุ่ม AIS Smart Gen เราคือการเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่สนใจเทคโนโลยี เราได้รับโอกาสจากทาง AIS ให้มาร่วมงานกัน โดยได้ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆ ผลิตภัณฑ์และบริการให้เป็นที่รู้จัก และแน่นอนว่าเราได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ จาก AIS มากมาย
เป็น AIS Smart gen มีภารกิจอะไรที่ต้องทำบ้างคะ
ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ร่วมอีเว้นท์ต่างๆ ของ AIS และ Partner ของเรา และแน่นอนว่ามีโอกาสทำงานด้านพิธีกรด้วย นอกจากนี้เรายังมีส่วนร่วมกับโครงการเบื้องหลังที่กำลังจะ Launch ออกมาเร็วๆ นี้ค่ะ
ประสบการณ์การทำงานกับ AIS ที่อิ๊งค์ประทับใจที่สุดคือเหตุการณ์ไหนคะ
จริงๆ มีหลายงาน ทั้งงานกลุ่มและงานเดี่ยว ของยกตัวอย่างเป็นงานพิธีกรงานใหญ่งานแรกที่ได้ทำคนเดียวแล้วกัน งานนั้นอิ๊งค์ได้รับมอบหมายให้ได้เป็นพิธีกรงาน Exclusive party AIS next G x Channel 3 next gen ซึ่งจะได้สัมภาษณ์ผู้บริหาร AIS และผู้บริหารจาก Chandelier music ได้สัมภาษณ์นักร้องเดี่ยวและกลุ่ม กลุ่มแรกจากค่ายนี้ที่มา MV Premier ที่งาน พร้อมกับแฟนคลับนับร้อย ตอนนั้นตื่นเต้นมาก แต่ก็ผ่านมาได้ ยังเป็นประสบการณ์ที่จำไม่ลืมมาจนวันนี้
ทำไมถึงสนใจงานด้านพิธีกร
อิ๊งค์ชอบงานด้านนี้เพราะว่าเป็นงานที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การที่เราจะยืนอยู่ตรงนี้ได้ เราต้องดูแลตัวเองและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เช่น ความรู้รอบตัว และความรู้เฉพาะทางในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งจะทำให้เราเอาไปต่อยอดในการทำงานจริงได้
ใน 1 วัน ที่ต้องทำงานพิธีกรอาชีพ มีขั้นตอนยังไงบ้างคะ
ใน 1 วันของแต่ละวันไม่เหมือนกันเลย จริงๆ ขึ้นอยู่กับงานที่เราไปทำ พิธีกรจริงๆ ก็แบ่งไปได้อีกหลายสาย พิธีกรรายการ พิธีกรอีเว้นท์ พิธีกรงานเลี้ยง พิธีกรพิธีการ ฯลฯ ยกตัวอย่างงานพิธีกรเดี่ยวงานนี้แล้วกัน สมมติว่างานมีตอนเย็น ก่อนไปงานเราก็ต้องมีการเตรียมตัวในเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม ทำการบ้านเรื่องคนที่เราจะไปสัมภาษณ์ว่าเค้ามีประวัติยังไง หน้าตาเป็นอย่างไร ประเด็นไหนที่แฟนคลับกำลังสนใจอยู่ ดูกำหนดการต่างๆ ก่อนทำงานเราก็ดูแลร่างกายดูแลเสียง พอถึงช่วงทำงานจริง เราไปถึงงานก่อนงานเริ่มอยู่แล้ว ปกติก็สองสามชั่วโมง รับบรีฟจากทีมงาน รันคิวกับทีมสเตจ ทวนรายละเอียดทุกอย่าง พอถึงเวลางานก็ท่องไว้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราคือคนที่ทำหน้าที่สำคัญ และ The show must go on
สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการทำอาชีพพิธีกรคืออะไร
การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่หน้างาน ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติของอาชีพนี้ เช่น สลับคิวเชิญแขกขึ้นเวที คิวเลท สไลด์ไม่มา และอีกมากมาย เราต้องพูดยังไงให้คนดูไม่รู้สึกว่าข้างหลังกำลังเกิดปัญหา ทุกอย่างราบรื่น
อิ๊งค์คิดว่าอาชีพพิธีกร สามารถต่อยอดในระยะยาวไปได้ในทิศทางไหนบ้าง
จริงๆ อาชีพพิธีกร ตราบใดที่เรายังพูดได้ดี เรายังสามารถทำไปได้เรื่อยๆ และอย่างที่บอกไปว่าพิธีกรมีหลายสายมาก แต่ถ้าให้พูดถึงการต่อยอดไปอาชีพอื่นๆ อิ๊งค์คิดว่าพิธีกรมีสกิลที่เรียกว่า Public speaking อาชีพไหนที่ต้องการสกิลนี้ก็สามารถนำอาชีพพิธีกรไปต่อยอดได้หมด
เทคนิคการพัฒนาตัวเองของอิ๊งค์คืออะไรบ้าง
เราต้องเป็นคนที่สนใจเรื่องราวความเป็นไปรอบๆ ตัว ติดตามข่าว ติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ นอกจากนี้การพัฒนาภาษาที่สอง สาม สี่ก็สำคัญและส่งผลต่ออาชีพของเราเช่นกัน อีกอย่างคือ ต้องดูแลเสียงและร่างกายดีด้วย
ถ้าอยากทำ พิธีกรอาชีพ ต้องเริ่มต้นยังไงบ้าง
การเริ่มต้นอาจจะเป็นการหาโอกาสให้ตัวเองได้มาลองทำอาชีพนี้ เช่น การสมัครโครงการต่างที่ดีๆ อิ๊งค์ก็อยากแนะนำมาสมัคร AIS Smart Gen เหมือนกันนะ แล้วก็ลองหาโอกาสจากคนที่ทำอาชีพนี้อยู่แล้ว หรือจะเริ่มจากการไปเรียนก็ได้เหมือนกัน ทำยังไงก็ได้ให้เราได้เข้ามาอยู่ในแวดวงนี้ เดี๋ยวก็มีทางให้ไปต่อเอง
*คนที่จะเป็นพิธีกรได้ ควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง *
อิ๊งค์คิดว่าพิธีกรหรือนักพูดที่ดี ข้อแรกเลยต้องเป็นนักฟังที่ดี ข้อสองคือพัฒนาความรู้ ใฝ่เรียนอยู่เสมอ ข้อสามคือสื่อสารเก่ง พูดแล้วคนเข้าใจได้ง่าย และสุดท้ายคือน้ำเสียงน่าฟัง จริงๆ ทุกข้อที่พูดมาสามารถฝึกฝนและพัฒนาได้หมด ขอเพียงมีความตั้งใจเป็นจุดเริ่มต้น
กิจกรรมยามว่างของอิ๊งค์มีอะไรบ้างคะ
อิ๊งค์ชอบท่องเที่ยว พยายามหาเวลาไปเที่ยวเรื่อยๆ ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง กับครอบครัวบ้าง ล่าสุดคือไปลองเที่ยวคนเดียวที่ต่างประเทศ การท่องเที่ยวแต่ละแบบให้ความสนุกและประสบการณ์ไม่เหมือนกันเลย และได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน ไม่เรียนรู้โลกภายนอก ก็เรียนรู้ตัวเองนี่แหละ อิ๊งค์ชอบออกกำลังกาย ช่วงนี้มีเพื่อนชวนมาปีนผาจำลอง รู้สึกสนุก ท้าทายตัวเองและได้ออกกำลังกายไปพร้อมกัน
เทคนิคการบริหารชีวิต Work-life balance ในแบบของอิ๊งค์
จริงๆ สำหรับอิ๊งค์ Work มาก่อน Life บ่อยมาก เราสนุกที่จะทำงานจนบางทีพักผ่อนน้อยไปก็มี เคยทำงานติดกันยี่สิบกว่าวันไม่หยุดเลย อิ๊งค์คิดว่าคำนี้สำหรับอิ๊งค์มันคือการที่เรารู้จักตัวเอง เรารู้ว่าตอนไหนเราควรพัก ตอนไหนเราควรไปต่อ แต่แน่นอนว่าจะทำงานหนักแค่ไหน เราก็ต้องไม่ลืมสนใจร่างกายเรา ออกกำลังกายบ้าง กินดีบ้าง นอนให้พอ มีเวลาให้คนที่เรารักบ้าง มีเวลาให้ตัวเองบ้าง แค่นี้คิดว่าเป็นนิยาม Work-life balance แบบอิ๊งค์แล้ว
แอปโปรดของอิ๊งค์
อิ๊งค์ใช้บริการจาก Google บ่อยมาก โดยเฉพาะ Google docs ค่ะ ส่วนใหญ่ใช้ทำสคริปท์ จดข้อมูลต่างๆ ซึ่ง Google docs ดีตรงที่เป็นไฟล์ออนไลน์ ถ้าเผลอกดลบ งานก็ไม่หายไปไหนค่ะ เรากดดูย้อนหลังได้อีก และยังแชร์ไฟล์ออนไลน์ให้คนอื่นดูหรือแก้ไขกับเราได้ด้วยค่ะ ต้องบอกว่าเทคโนโลยีพวกนี้ ถ้าเราใช้เป็น ทำให้เราสะดวก ประหยัดเงินและประหยัดเวลาไปเยอะมากๆ เลย
PCWorld
ดาวน์โหลด
วันนี้หลายๆ คนก็คงได้รู้จัก อิ๊งค์ ณิชชา ฉัตรไชยเดช พร้อมๆ กับอาชีพพิธีกรกันไปบ้างแล้ว และก่อนจากกันสาวพิธีกรมืออาชีพคนนี้ก็ยังได้ฝากผลงานคุณภาพที่กำลังออนแอร์อยู่ คือรายการ Chinese is all around Season 2 ออกอากาศทางแอปพลิเคชั่น AIS Play และกล่อง AIS Play box และยังสามารถติดตามผลงานอื่นๆ ได้ทางเพจ Nicha_workaday หรือ IG inkynicha พร้อมทั้งประโยคทิ้งท้ายที่มากับรอยยิ้มอันสดใสว่า “ถ้าใครสนใจอาชีพนี้สามารถมาปรึกษาอิ๊งค์ได้นะคะ อิ๊งค์เชื่อว่า ทุกคนมีความฝันและก้าวแรกสำคัญต้องใช้ความกล้าค่ะ”
เป็นอีกหนึ่งสาว ที่มากความสามารถและน่ารักจริงๆ
แชร์โพสนี้