ทั่วไป

จับอดีตรองนายก อบต. รับจัดหายานรกส่งทั่วอาเซียน

SpringNews
อัพเดต 19 มิ.ย. 2562 เวลา 00.24 น. • เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2562 เวลา 00.24 น. • SpringNews

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ควบคุมตัวนายสมบัติ เลือดทหาร อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลระวิง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าตรวจค้นบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ระวิง อ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาบ้าและไอซ์ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองกัญชาไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจค้นพบปืนมีทะเบียนพร้อมกระสุน 1 กระบอก ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่ามีคนมาจำนำปืนกระบอกนี้ไว้ และไม่รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด อ้างว่าทำอาชีพรับเหมาขุดดิน ไม่มีรายได้ที่แน่นอน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยจากเป้าหมายรวม 7 จุด เจ้าหน้าที่ยึดทรัพย์ ทั้งบ้าน ที่ดิน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถแบ็คโฮ ที่คาดว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดมูลค่ากว่า 56 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบทรัพย์ของผู้ต้องหา ซึ่งคาดว่ามีจำนวนมากที่ให้ผู้อื่น อย่างญาติและบุคคลถือครอง รวมถึงจะต้องเร่งติดตามตัวนายไพรรัตน์ เลือดทหาร น้องชายของนายสมบัติที่ยังหลบหนี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ด้านพลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งลงพื้นที่ไปติดตามคดีด้วย ระบุว่า จากข้อมูลคาดว่านายสมบัติ มีพฤติกรรมเกี่ยวกับยาเสพติดมาตั้งแต่นักการเมืองท้องถิ่น ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ในการขนยาเสพติด โดยนายสมบัติมีบทบาทสำคัญเป็นคนประสานงานกับพ่อค้ายาเสพติดทั้งชาวไทย ลาว มาเลเซีย และเมียนมา ลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศ ซึ่งที่ผ่านมายาเสพติดที่เข้ามาในไทย จะมาจากชายแดนภาคเหนือ และภาคอีสาน และมารวมกันอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ก่อน เนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างทั้งสองภาค

โดยแต่ละครั้ง ผู้ต้องหากลุ่มนี้จะจัดหาคนลำเลียงยาเสพติด ประมาณ 1-3 ชุด ลักลอบขนยาผ่านภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และลงสู่ภาคใต้ โดยการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่ขยายผลมาจากการจับกุมยาเสพติดอย่างน้อย 7 คดีตั้งแต่ต้นปี 2561 ยึดของกลางได้ทั้งยาไอซ์ ยาบ้าและกัญชา ที่มาจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทุกคดีมีความเชื่อมโยงกับนายสมบัติทั้งสิ้น

ส่วนที่จ.สงขลา ตำรวจและทหาร จับกุม นาย วิรัตน์ หนีเส็นเบ็ญละ หรือ บังเล็ค พร้อมของกลางเป็นไอซ์ จำนวน 52.72 กรัม ที่ขุดหลุมฝังไว้ใต้ต้นมังคุด โดยนาย วิรัตน์ สารภาพว่าไอซ์ที่นำมาขายจะใช้สารส้มผสมปะปนเข้าไป เพื่อเพิ่มปริมาณ นำไปหลอกขายลูกค้าวัยรุ่น ได้กำไรอีกเท่าตัว โดยลูกค้าส่วนใหญ่ไม่รู้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพักและพบไอซ์อีก1 ถุงหนัก 2 กรัม ซุกซ่อนไว้ในลิ้นชักในห้องนอนของพี่ชายจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลสาวไปถึงแหล่งที่มาของไอซ์

ส่วนที่ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น มีการแถลงข่าวจับกุม นายภัทรพงษ์ สิงห์แก้ว และนายทัศนัย จันทร์ศรี พร้อมของกลางรถยนต์ และยาบ้า 5,731 เม็ด จากการสอบสวนผู้ต้องหา ทั้ง 2 สารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดรับมาจาก นายต่อ แต่ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ที่จ.สระแก้ว ซึ่งรู้จักกันระหว่างถูกคุมขังที่เรือนจำเขาพริก อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

ก่อนจะนำมาขายให้วัยรุ่นในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ และ อ.ชนบท โดยยาบ้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้ เป็นยาบ้าแบบใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ปกติยาบ้าจะมีสีชมพูและสีเขียว ประเภทนี้จะเข้ามาทางจ.สระแก้ว หรือทางฝั่ง สปป.ลาว แต่ยาบ้าแบบใหม่จะเป็นสีออกแดงเข้มกว่าและมียาบ้าสีเหลืองด้วย ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะเข้ามาทางตอนไหนของประเทศไทย เพราะเพิ่งพบครั้งนี้ครั้งแรก

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 7
  • Banchong
    เห็นไหม ใช่ว่าจะมีแต่กุ๊ย หรือดารา ตัวเอ้ๆคือหน่วยงานที่เป็นขี้ข้า ปชช. ทั้งนั้น , จับได้ แบ่งกันคนละครึ่ง อีกครึ่งทำคดี อีกครึ่งจัดให้ลิ่วล้อขาย ได้เวลาก็มาเก็บส่วนแบ่ง มีเยอะแยะไป
    19 มิ.ย. 2562 เวลา 01.33 น.
  • นี่ถ้ายุคนักการเมือง​หน้าสี่เหลี่ยม​ ไม่มีทางจับคนระดับนี้ได้ ที่ 2000 กว่าศพ พวกขยะค้ายาทั้งนั้น
    19 มิ.ย. 2562 เวลา 01.39 น.
  • ถ้าไอ้เปรตนี้ไม่โดนจับหน้าตาทางสังคม เขาเรียกเสี่ย
    19 มิ.ย. 2562 เวลา 01.53 น.
  • chumporn
    ท่านนายยกต่อไปท่านจะสบายแล้ว ไม่เหนื่อยอีกแล้ว นั่งๆนอนๆ มีอาหารฟรี ตลอดเวลา ทำบุญมาดีก็อย่างนี้
    19 มิ.ย. 2562 เวลา 01.23 น.
  • €¥£
    ใครค้ายา ขอให้มันโดนจับได้ ไม่งั้นก็โดนวิสามัญ ตายคาคุก โดนยึดทรัพย์ มีแต่ความวิบัติบรรลัยชั่วชีวิต
    19 มิ.ย. 2562 เวลา 02.16 น.
ดูทั้งหมด