ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ควบคุมตัวนายสมบัติ เลือดทหาร อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลระวิง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าตรวจค้นบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ระวิง อ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาบ้าและไอซ์ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองกัญชาไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจค้นพบปืนมีทะเบียนพร้อมกระสุน 1 กระบอก ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่ามีคนมาจำนำปืนกระบอกนี้ไว้ และไม่รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด อ้างว่าทำอาชีพรับเหมาขุดดิน ไม่มีรายได้ที่แน่นอน
โดยจากเป้าหมายรวม 7 จุด เจ้าหน้าที่ยึดทรัพย์ ทั้งบ้าน ที่ดิน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถแบ็คโฮ ที่คาดว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดมูลค่ากว่า 56 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบทรัพย์ของผู้ต้องหา ซึ่งคาดว่ามีจำนวนมากที่ให้ผู้อื่น อย่างญาติและบุคคลถือครอง รวมถึงจะต้องเร่งติดตามตัวนายไพรรัตน์ เลือดทหาร น้องชายของนายสมบัติที่ยังหลบหนี
ด้านพลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งลงพื้นที่ไปติดตามคดีด้วย ระบุว่า จากข้อมูลคาดว่านายสมบัติ มีพฤติกรรมเกี่ยวกับยาเสพติดมาตั้งแต่นักการเมืองท้องถิ่น ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ในการขนยาเสพติด โดยนายสมบัติมีบทบาทสำคัญเป็นคนประสานงานกับพ่อค้ายาเสพติดทั้งชาวไทย ลาว มาเลเซีย และเมียนมา ลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศ ซึ่งที่ผ่านมายาเสพติดที่เข้ามาในไทย จะมาจากชายแดนภาคเหนือ และภาคอีสาน และมารวมกันอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ก่อน เนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างทั้งสองภาค
โดยแต่ละครั้ง ผู้ต้องหากลุ่มนี้จะจัดหาคนลำเลียงยาเสพติด ประมาณ 1-3 ชุด ลักลอบขนยาผ่านภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และลงสู่ภาคใต้ โดยการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่ขยายผลมาจากการจับกุมยาเสพติดอย่างน้อย 7 คดีตั้งแต่ต้นปี 2561 ยึดของกลางได้ทั้งยาไอซ์ ยาบ้าและกัญชา ที่มาจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทุกคดีมีความเชื่อมโยงกับนายสมบัติทั้งสิ้น
ส่วนที่จ.สงขลา ตำรวจและทหาร จับกุม นาย วิรัตน์ หนีเส็นเบ็ญละ หรือ บังเล็ค พร้อมของกลางเป็นไอซ์ จำนวน 52.72 กรัม ที่ขุดหลุมฝังไว้ใต้ต้นมังคุด โดยนาย วิรัตน์ สารภาพว่าไอซ์ที่นำมาขายจะใช้สารส้มผสมปะปนเข้าไป เพื่อเพิ่มปริมาณ นำไปหลอกขายลูกค้าวัยรุ่น ได้กำไรอีกเท่าตัว โดยลูกค้าส่วนใหญ่ไม่รู้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพักและพบไอซ์อีก1 ถุงหนัก 2 กรัม ซุกซ่อนไว้ในลิ้นชักในห้องนอนของพี่ชายจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลสาวไปถึงแหล่งที่มาของไอซ์
ส่วนที่ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น มีการแถลงข่าวจับกุม นายภัทรพงษ์ สิงห์แก้ว และนายทัศนัย จันทร์ศรี พร้อมของกลางรถยนต์ และยาบ้า 5,731 เม็ด จากการสอบสวนผู้ต้องหา ทั้ง 2 สารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดรับมาจาก นายต่อ แต่ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ที่จ.สระแก้ว ซึ่งรู้จักกันระหว่างถูกคุมขังที่เรือนจำเขาพริก อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
ก่อนจะนำมาขายให้วัยรุ่นในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ และ อ.ชนบท โดยยาบ้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้ เป็นยาบ้าแบบใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ปกติยาบ้าจะมีสีชมพูและสีเขียว ประเภทนี้จะเข้ามาทางจ.สระแก้ว หรือทางฝั่ง สปป.ลาว แต่ยาบ้าแบบใหม่จะเป็นสีออกแดงเข้มกว่าและมียาบ้าสีเหลืองด้วย ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะเข้ามาทางตอนไหนของประเทศไทย เพราะเพิ่งพบครั้งนี้ครั้งแรก
Banchong เห็นไหม ใช่ว่าจะมีแต่กุ๊ย หรือดารา ตัวเอ้ๆคือหน่วยงานที่เป็นขี้ข้า ปชช. ทั้งนั้น , จับได้ แบ่งกันคนละครึ่ง อีกครึ่งทำคดี อีกครึ่งจัดให้ลิ่วล้อขาย ได้เวลาก็มาเก็บส่วนแบ่ง มีเยอะแยะไป
19 มิ.ย. 2562 เวลา 01.33 น.
นี่ถ้ายุคนักการเมืองหน้าสี่เหลี่ยม ไม่มีทางจับคนระดับนี้ได้
ที่ 2000 กว่าศพ พวกขยะค้ายาทั้งนั้น
19 มิ.ย. 2562 เวลา 01.39 น.
ถ้าไอ้เปรตนี้ไม่โดนจับหน้าตาทางสังคม เขาเรียกเสี่ย
19 มิ.ย. 2562 เวลา 01.53 น.
chumporn ท่านนายยกต่อไปท่านจะสบายแล้ว ไม่เหนื่อยอีกแล้ว นั่งๆนอนๆ มีอาหารฟรี ตลอดเวลา ทำบุญมาดีก็อย่างนี้
19 มิ.ย. 2562 เวลา 01.23 น.
€¥£ ใครค้ายา ขอให้มันโดนจับได้ ไม่งั้นก็โดนวิสามัญ ตายคาคุก โดนยึดทรัพย์ มีแต่ความวิบัติบรรลัยชั่วชีวิต
19 มิ.ย. 2562 เวลา 02.16 น.
ดูทั้งหมด