ทั่วไป

เหตุผลที่มังกรอุ้มผู้นำสาวงาม

สยามรัฐ
อัพเดต 16 ก.ค. 2562 เวลา 23.00 น. • เผยแพร่ 16 ก.ค. 2562 เวลา 23.00 น. • สยามรัฐออนไลน์

ยืดเยื้อมานานกว่าครึ่งปี แต่ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเมื่อใด

สำหรับ สถานการณ์วิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองใน “เวเนซุเอลา” เจ้าของฉายา ถิ่น “สาวงาม” แห่ง “ลาตินอเมริกา” หรือ “ทวีปอเมริกาใต้” หลังเผชิญหน้ามาตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. ระหว่างผู้ที่ระบุว่า เป็น “ประธานาธิบดีตัวจริงเสียงจริง” อย่าง “นายนิโคลัส มาดูโร” กับผู้ที่อ้างว่า เป็น “ประธานาธิบดีเฉพาะกาล” อย่าง “นายฆวน กัวอิโด”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายฆวน กัวอิโด (ซ้าย) ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา เมื่อครั้งเดินทางไปพบปะกับนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ขวาสุด)

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยวิกฤติความขัดแย้งปะทุขึ้น ภายหลังจาก นายฆวน กัวอิโด ผู้นำฝ่ายค้าน และดำรงตำแหน่ง “ประธานสภานิติบัญญัติแห่งเวเนซุเอลา” ออกมาประกาศตนเป็น “ประธานาธิบดีเฉพาะกาล” หรือ “รักษาการประธานาธิบดี” ของเวเนซุเอลา เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ก็ส่งผลให้การเมืองของแดนสาวงาม ลุกเป็นไฟวิกฤติ ขึ้นมานับแต่บัดนั้น ด้วยมีประชาชนจำนวนหนึ่ง เข้าร่วมผสมโรงด้วย เช่นเดียวกับ ฝ่ายรัฐบาลของประธานาธิบดีมาดูโร ก็มีประชาชนสนับสนุนไม่แพ้กัน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เปิดมหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง ให้การต้อนรับการเดินทางมาเยือนของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

และมิใช่แต่เฉพาะประชาชนภายในประเทศที่ถือหาง แม้แต่นานาชาติระดับมหาอำนาจ ต่างก็เลือกขั้ว แบ่งข้าง ระหว่างนายมาดูโร กับนายกัวอิโด อีกต่างหากด้วยเหมือนกัน โดยมหาอำนาจตะวันตกที่นำโดยสหรัฐอเมริกา ก็ให้ความสนับสนุนต่อนายกัวอิโด ขณะที่ นายมาดูโร ก็ได้แรงหนุนจากมหาอำนาจของอีกฟาก คือ รัสเซีย และจีนแผ่นดินใหญ่

ทั้งนี้ การเข้ามามีส่วนส่งเสริมสนับสนุนจากจีนแผ่นดินใหญ่ เจ้าของฉายา พญามังกร นั้น บรรดานักวิเคราะห์ ได้ให้การจับตามากเป็นพิเศษ ในฐานะชาติที่จะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจหมายเลขหนึ่งแห่งยุคในอนาคตอันใกล้

ท่ามกลางเหตุผลของปัจจัยที่เข้ามาแทรกแซงเหมือนๆ กัน คือ “ผลประโยชน์” แต่ทว่า ผลประโยชน์ของจีนแผ่นดินใหญ่ ได้รับการจับจ้องมองยิ่งกว่ามหาอำนาจชาติไหนๆ แม้กระทั่งสหรัฐฯ พี่เบิ้มเบอร์หนึ่งแห่งยุคนี้ก็ตาม

โดยเมื่อกล่าวถึงความสัมพันธ์ของจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีต่อเวเนซุเอลา เริ่มฟูมฟักมาตั้งแต่ 2 ทศวรรษที่ผ่านมาแล้ว เมื่อปี 2542 หรือตั้งแต่ครั้งที่ “ฮูโก ชาเวซ” เป็นประธานาธิบดีของเวเนซุเอลาเลยด้วยซ้ำ ด้วยความสัมพันธ์ทั้งทางเศรษฐกิจและการค้า แต่มาเข้มข้นในยุคที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นผู้นำรัฐบาลแดนมังกร เมื่อเปิดฉากรุกใหญ่ขยายอิทธิพลเข้ามายังแดนสาวงามแห่งนี้ จนส่งผลให้ความผูกพันทางเศรษฐกิจและการค้าที่มีต่อกัน ทะยานเพิ่มขึ้นถึงกว่า 20 เท่าตัว ตามสถานการณ์ที่ถูกระบุไว้เมื่อปี 2561 ตลอดช่วงการทำมาค้าขายร่วมกันตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา

ประมวลภาพความสัมพันธ์ของผู้นำจีนกับผู้นำของเวเนซุเอลาในยุคต่างๆ

รวมไปถึงด้านการลงทุน ที่ปรากฏว่า รัฐบาลปักกิ่ง ทางการจีน ในฐานะ เสี่ยใหญ่กระเป๋าหนัก ก็ควักเงินไปลงทุนในเวเนซุเอลา ตลอดช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา นับถึงวันนี้ก็มีมูลค่ามากถึง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยกัน

ใช่แต่เท่านั้น พญามังกร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุค “สี จิ้นผิง ครองเมือง” เยี่ยงนี้ ก็ลุยหนักในมาตรการ “การทูตเงินตรา” ซึ่งมาพร้อม “กับดักหนี้” ที่จีนแผ่นดินใหญ่ ปล่อยกู้กันอย่างขนานใหญ่ ในฐานะเงินถุง เงินถัง มีเงินในคลังจำนวนมหาศาล ก็ปล่อยกู้ให้แก่เวเนซุเอลา จนถึง ณ ปัจจุบันนี้ “สาวงาม” ก็เป็นหนี้ต่อพญามังกร ด้วยมูลค่าเม็ดเงินที่มากถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยกัน ผ่าน “กองทุนร่วมจีน-เวเนซุเอลา” ด้วยการผูกพันภาระหนี้ไว้กับพลังงานน้ำมัน ที่เวเนซุเอลา มีเป็นจำนวนมาก เช่น ที่แหล่งน้ำมัน “โอริโนโค ออยล์ เบลท์” ต้องส่งให้จีนแบบเป็นงวดๆ ทั้งนี้ ภาระผูกพันหนี้กันเยี่ยงนี้ ทางจีน ทำกับเวเนฯ ก็เพื่อสร้างความมั่นใจในความมั่นคงทางพลังงานว่า อย่างไรเสียจีนก็ไม่ขาดแคลนพลังงานน้ำมันไว้บริโภค และเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เศรษฐกิจของจีนขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ด้วยเหตุประการฉะนี้ ก็ทำให้จีนแผ่นดินใหญ่ ต้องเพิ่มเครือข่ายทางความสัมพันธ์กับเวเนซุเอลาในทางทหารเพื่อความมั่นคงเวเนซุเอลา อันกระทบถึงจีนแผ่นดินใหญ่ไปด้วย ถึงขนาดจัดโครงการแลกเปลี่ยนทหารพลรบพิเศษไปแลกเปลี่ยนประจำการในเวเนซุเอลาเลยทีเดียว เช่น การส่งทหารรบพิเศษไปประจำการที่ “ป้อมติอูนา” เป็นอาทิ

ทหารหน่วยรบพิเศษของจีน ซึ่งประจำการที่ป้อมติอูนา ของเวเนซุเอลา

เพราะความที่ผูกพันกันมากมายเยี่ยงนี้ ก็ทำให้พญามังกรเห็นว่า มิอาจปราชัยได้ในเกมวิกฤติการเมืองแห่งแดนสาวงาม ต้องยื่นมือเข้าช่วยนายมาดูโร ให้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีของเวเนซุเอลาได้ต่อไป พร้อมๆ กับทำให้นายกัวอิโด ไม่สามารถเฉียดกรายใกล้ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคารากัส แม้จะมีมหาอำนาจตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ หนุนหลังอยู่ก็ตาม

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 4
  • thanakon
    ประเทศไทยถ้ามัวแต่ทะเล่ะกันแบ่งขั้วแบ่งข้าง ไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไข อนาคตอันใกล้ได้เป็นแบบเวเนซุเอล่าแน่ๆ
    17 ก.ค. 2562 เวลา 03.29 น.
  • อยากรู้ว่าภาคเอกชนของจีนเข้าไปอยู่เข้าไปลงทุนในประเทศนี้เพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน หรือแค่ภาครัฐเข้าไปเท่านั้น
    17 ก.ค. 2562 เวลา 00.57 น.
  • Vanida
    ผลประโยชน์ล้วนๆ ชาวถิ่นหลงกลก็แตกแยกกันต่อไป ใครก็ช่วยไม่ได้
    17 ก.ค. 2562 เวลา 00.40 น.
  • bP
    สมองมึงคิดได้เนาะ โพสหัวข้อข่าวซ่ะ
    17 ก.ค. 2562 เวลา 00.11 น.
ดูทั้งหมด