ไลฟ์สไตล์

เพราะเป็น #เอเชียน จึงผิด? สำรวจอาชญากรรมจาก 'ความเกลียดชังชาวเอเชีย' ที่ลุกลามจนน่ากลัว

LINE TODAY ORIGINAL
เผยแพร่ 17 มี.ค. 2564 เวลา 18.07 น. • AJ.

ผู้สูงอายุชาวไทยถูกผลักล้มจนเสียชีวิต ลูกครึ่งชาวอเมริกันเชื้อสายฟิลิปปินส์ถูกมีดกรีดหน้าจนเป็นแผลบนรถไฟใต้ดิน หญิงชาวจีนถูกตบและจุดไฟเผา

เหล่านี้เป็นเพียงเหตุการณ์ส่วนหนึ่งของความรุนแรงที่เกิดกับชาวเอเชีย และชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียในประเทศสหรัฐอเมริกา ยังไม่ร่วมเหตุการณ์กราดยิงล่าสุด (วันที่ 17 มี.ค. 64) ที่เกิดขึ้นในร้านสปาในเมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย ส่งผลให้พนักงานหญิงชาวเอเชียจำนวน 6 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คดีที่ชาวเอเชียตกเป็นเหยื่อความรุนแรงยังมีจำนวนพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด19 นักวิชาการหลายคนแสดงความเห็นว่าเหตุการณ์เหล่านี้คือ "อาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง" อันถูกเชื่อมโยงมาจากต้นตอของไวรัสตัวร้าย ที่ทำให้ชาวเอเชียตกเป็น "เป้า" ให้ผู้มีอคติโจมตีเสมอมา ไม่ว่าจะทางวาจา หรือทางร่างกาย

สถิติพุ่ง คนเอเชียเป็นเหยื่อ Hate Crime เพิ่มขึ้น 150% จากปีที่ผ่านมา

ในประเทศสหรัฐอเมริกา สถานการณ์ของชาวเอเชียทวีความน่าเป็นห่วงขึ้นทุกวัน สถิติล่าสุดจาก Center of the Study of Hate and Extremism จาก California State university เผยว่า จากการสำรวจคดีที่เกิดจากการเกลียดชังคนเอเชียในเมืองใหญ่ในสหรัฐอเมริกา พบว่าคดีที่มีเหยื่อเป็นคนเอเชียมีจำนวนมากขึ้นกว่า 150 เปอร์เซ็นต์ในปี 2020

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ผู้เชี่ยวชาญ Karthick Ramakrishnan ผู้ก่อตั้ง AAPI Data ยังเชื่อว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังมีส่วนทำให้การเหยียดเชื้อชาติในอเมริกาทวีความรุนแรง ด้วยทัศนคติของเจ้าตัวที่เคยออกมาพูดว่าโควิด19 คือ "ไวรัสจีน" หรือ "Kung flu"

โดยประเภทของการเหยียดที่เกิดขึ้นมากที่สุดได้แก่ การทำร้ายด้วยคำพูด อย่าง การก่นด่าหรือพ่นคำหยาบคายใส่ รองลงมาคือการผลักไส ถัดมาคือการทำร้ายร่างกาย ต่อด้วยการทำเป็นไอใส่ หรือทำเหมือนชาวเอเชียคือเชื้อโรค และลำดับสุดท้ายได้แก่การเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน หรือการปฏิเสธไม่รับการบริการจากพนักงานบริการที่เป็นชาวเอเชีย

ดาราชาวเอเชียร่วมเป็นกระบอกเสียง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ศิลปินและนักแสดงชาวเอเชียจำนวนมากออกมาแสดงความเห็นต่อเหตุการณ์นี้ เกิดแฮชแท็ก #StopAsianHate และ #AsiansArehuman ติดเทรนด์โลกในทวิตเตอร์ โดยเหตุการณ์กราดยิงล่าสุด Simu Liu นักแสดงจากจักรวาลMarvel ซึ่งเป็นชาวแคนาดาเชื้อสายจีนที่มักร่วมเคลื่อนไหวต่อต้านการเหยียดชาวเอเชียเสมอ ก็ออกมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ด้านLana Condor นักแสดงสาวขวัญใจวัยรุ่นจากภาพยนตร์เรื่อง To All the Boys I've Loved Before ก็ได้ทวีตข้อความแสดงความเป็นห่วงต่อครอบครัวและเพื่อนชาวเอเชียเช่นกัน

ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทผลิตเกมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างBandai Namco ยังออกแถลงการณ์เรียกร้องให้แฟนๆ ร่วมต่อต้านการเหยียดชาวเอเชียอย่างจริงจัง

ก่อนหน้านั้นยังมี Chissy Teigan, Awkwafina และคนดังฮอลลีวู้ดเชื้อสายเอเชียมากมายที่ร่วมรณรงค์ยุติความรุนแรงผ่านแฮชแท็กเดียวกันนี้ หลังเกิดเหตุการณ์รุนแรงต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมากมายในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ความเกลียดชังที่เกิดจาก "อคติ"

กลุ่มคนเอเชียในสหรัฐอเมริกามักมีภาพจำเป็น "อีลีท" หรือชนชั้นสูงในภาพยนตร์หรือสื่อตะวันตก เรามักเห็นมีมคนเอเชียคิดเลขเก่ง คนเอเชียเป็นหมอ หรือภาพมหาเศรษฐีชาวเอเชีย อย่างในภาพยนตร์เรื่องCrazy Rich Asians หรือซีรีส์ Bling Empire ที่แม้แต่คนเอเชียอย่างเราดูก็ยังอดนึกอิจฉาไม่ได้ว่า "มันมีคนเอเชียที่รวยเบอร์นั้นจริงๆ เหรอ?"

ด้วยภาพจำเหล่านี้เอง ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากมองว่าชาวเอเชียมีชีวิตที่ดี และมีเส้นทางชีวิตสุขสบายในประเทศของพวกเขา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นชุดความคิดที่ผิดจากความจริงไปมากโข เพราะในทางกลับกันยังมีชาวเอเชียที่อพยพไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกาจำนวนมากมีสภาพเป็นคนไร้บ้าน ซ้ำร้ายผู้อพยพเหล่านี้ยังเป็นกลุ่มคนที่มีคุณภาพชีวิตต่ำที่สุดในมหานครนิวยอร์ก

"การเหยียดเชื้อชาติ" จึงเกิดขึ้นจากชุดความคิดผิดๆ เหล่านี้ และทำให้ผู้มีอคติหลายคนคิดว่าการเหยียด การกลั่นแกล้ง หรือการทำร้ายชาวเอเชียไม่ใช่เรื่องผิด เหตุเพราะพวกเขาส่วนหนึ่งเข้าใจว่าเป็นเพียงการกระทำของผู้น้อย ต่อชนชั้นสูงที่มากอบโกยผลประโยชน์จากประเทศของพวกเขานั่นเอง

แม้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยกล่าวประณามการเหยียดเชื้อชาติไว้ว่า การเกลียดชังคนเอเชียนั้นเป็นสิ่งที่ "ไม่อเมริกัน" (Un-American) เอาเสียเลยและจำเป็นต้องหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ให้เร็วที่สุด แต่ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียหลายคนก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย ในขณะที่ "ชาวเน็ต" ทั่วโลกรวมถึงนักเคลื่อนไหวและองค์กรต่อต้านความเกลียดชัง ต่างก็รวมใจกันสุดแรงเพื่อรณรงค์ให้ทุกคนเข้าใจว่าการเหยียดคนเอเชียไม่ใช่เรื่องเล็กๆ และพวกเขาไม่ควรตกอยู่สถานะ "แพะรับบาป" ในอคติของคนบางกลุ่มอีกต่อไป

-

อ้างอิง

abcnews.go.com

bbc.com

nbcnews.com

thestandard.co

voanews.com

ความเห็น 82
  • Arms Vc
    องค์กรสิทธิมนุษยชน ทนายสิทธิมนุษย์ชน,human right watch,แอมเนสตี้.....แสดงตัวและจุดยืนหน่อยเร็ว หายไปไหนหมด😂
    17 มี.ค. 2564 เวลา 23.29 น.
  • เป้
    การเหยียดผิวเป็นที่มาของวัฒนธรรมล่าอาณานิคม ที่อ้างความแตกต่างข้อด้อยล้าหลังแล้วเข้าข่มขู่รุกรานเข่นฆ่าแย่งชิงเอาทรัพยากรของชนชาติอื่นอย่างชอบธรรมในแบบของเขา อาจดูเหมือนหมดไปแล้วแต่มันยังแฝงอยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า ปชต.ซึ่งแท้จริงแล้วคือมีเสรีภาพเสมอภาคในกลุ่มคนของตนเองประเทศตนเองแต่ปฏิบัติกับกลุ่มคนอื่นประเทศอื่นแบบล่าอาณานิคม
    18 มี.ค. 2564 เวลา 05.25 น.
  • ปุ่น เมืองชล
    สมกับเป็นประเทศแม่แบบแห่งประชาธิปไตยจริงๆ จะเกลียดจะทำร้ายใครก็ได้เท่าที่ตัวเองต้องการ สามกีบน่าจะย้ายไปอยู่กันให้หมดนะ 🐃🐃🐃🤣
    17 มี.ค. 2564 เวลา 22.49 น.
  • GяέέηÇţŽёη..¸.•´ɱc
    . ความอิจฉาริษยา นั่นแหละ คือ ต้นเหตุ กลับถิ่นกำเนิดของตนเถิด จะอยู่เป็น ปชช ชั้น 2 อยู่ทำไม
    17 มี.ค. 2564 เวลา 23.13 น.
  • aday
    แล้วทำไมเราไม่ตีกลับความเกลียดชังกลับสู่ฝั่งโน้นบ้าง. #ให้มันรู้บ้างไงว่าเราก็เกลียดมันไม่ต่างกัน.
    17 มี.ค. 2564 เวลา 23.50 น.
ดูทั้งหมด