ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราคงเลือกกด Skip ตอนเจอคลิปโฆษณาโผล่มาคั่นจังหวะ ไม่ว่าจะระหว่างฟังเพลง ดูคลิป ดูละครย้อนหลัง หรือแม้แต่ระหว่างเล่นเกม แต่เดี๋ยวนี้…หลายๆ ครั้งเรากลับต้องดูโฆษณาเหล่านั้นจนจบ เพื่อแลกกับการฟัง ดู หรือใช้ฟรี
และดูเหมือนเทรนด์นี้จะกลายเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับการทำตลาดไปแล้ว เพราะปัจจุบันมีแบรนด์จำนวนไม่น้อยเลือกใช้วิธีดังกล่าว แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุด คือ ผู้บริโภคก็ไม่ได้รังเกียจหรือปฏิเสธบรรดาโฆษณาที่โผล่มาคั่นเวลาชมความบันเทิงออนไลน์ด้วย โดยเรื่องนี้มีเหล่าเกมเมอร์ยืนยันมาแล้ว!
สถิติดังกล่าวถูกอ้างอิงมาจาก Mobile Games Research 2017 ที่สำรวจเหล่าเกมเมอร์กลุ่มตัวอย่างกว่า 6,000 คน ในเยอรมนี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ รวมถึงกลุ่มนักพัฒนาซอฟต์แวร์และนักโฆษณาในประเทศที่กล่าวข้างต้นรวมถึงในประเทศจีน โดยเกมเมอร์ราวๆ 3 ใน 4 ยอมรับการชมโฆษณาในรูปแบบดังกล่าวหากว่าโฆษณาเหล่านั้นทำให้พวกเขามีความสุขในการเล่นเกมได้ฟรี
อย่างไรก็ตาม สถิติดังกล่าวยังมีการเปิดเผยข้อมูลว่า “71% ยินดีรับชม VDO โฆษณาเหล่านั้นและนั่นกลายเป็นหนึ่งในช่องทางการซื้อ” และ “23% ยอมรับว่าเกิดการตัดสินใจซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์หลังจากได้ชม VDO โฆษณาผ่านช่องทางดังกล่าว ขณะที่การรับชมจาก TV มีสถิติอยู่ที่ 24%”
หากคุณ คือ นักการตลาด คุณจำเป็นต้องเข้าใจนัยยะสำคัญของสถิติเหล่านี้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่…?
มูลค่าการทำโฆษณาผ่านแอป มหาศาล!
เพราะการเล่นเกมเป็นหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมที่เกิดขึ้นบนมือถือ จากฐานข้อมูลของ Facebook มีตัวเลขระบุว่า มีผู้เล่นมากกว่า 800 ล้านคนที่เชื่อมต่อการเล่นเกมผ่าน Facebook เป็นประจำทุกเดือน อย่างไรก็ตาม ยังมีการคาดการณ์ถึงมูลค่าโฆษณาแอปพลิเคชั่นเกมบนมือถือในปี 2020 ว่าอาจจะสูงถึง 51,400 ล้านเหรียญสหรัฐทีเดียว
คนทนดูโฆษณา เพรา…?
เกมฟรียังคงเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน ทำให้เกมเมอร์และคนใช้มือถือเลือกดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นฟรีแม้ว่าจะมีโฆษณาแทรกระหว่างการใช้งาน ซึ่งกว่า 57% เลือกดาวน์โหลดแอปฟรีทั้งที่รู้ว่าจะต้องมีโฆษณาคอยโผล่มาคั่นจังหวะอยู่เสมอก็ตาม แถมพวกเขายังรู้สึกสบายๆ กับการดูโฆษณาเหล่านั้นเพื่อแลกกับการเล่นเกมฟรีได้ตามปกติ
ต้องมีรางวัลพิเศษ
เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผู้คนยอมเสียเวลาความบันเทิงและรอชมโฆษณาบนแอปจนจบ เพื่อแลกกับรางวัลพิเศษที่จะได้รับจากการรับชม ไม่ว่าจะรางวัลพิเศษในเกมหรือแม้แต่สิทธิ์การเข้าถึงคอนเทนต์พิเศษในเกมหรือแอปเหล่านั้นเพิ่มขึ้น
สิ่งสำคัญ คือ ถูกจังหวะ
ไม่ใช่ว่ารู้เช่นนี้แล้วจะใส่โฆษณาถี่ๆ และยาวๆ เพื่อยัดเยียดให้ผู้ใช้งานต้องทนดูอยู่เสมอไป เพราะพวกเขายังคง “ยินดี” และ “รู้สึกดี” กับโฆษณาและแน่นอนว่ารู้สึกดีต่อแบรนด์นั้นๆ หากว่าโฆษณายังคงมีความเกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ ความชื่นชอบ หรือสามารถทำให้พวกเขารู้สึกมีประสบการณ์พิเศษขึ้นกว่าเดิม
รู้แบบนี้แล้ว คุณอาจจะได้ช่องทางทำโฆษณาเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและมากขึ้น แต่อย่าลืมว่าต้องทำด้วยความพอเหมาะพอดีด้วยนะ เพราะถ้ามากไป ถี่ไป แถมไม่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกประทับใจในการใช้งาน อาจกลายเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี.
ที่มา : Facebook IQ
อ่านบทความทั้งหมด ที่ MarketingOops.com
Oath ใครไม่เกลียดแต่ผมโคตรเกลียดเลย
14 ม.ค. 2561 เวลา 13.50 น.
Pakasit ไม่คิดจะดู แต่โดนบังคับให้ดู
กลายเป็น "เกลียดสินค้า" ตัวนั้น
15 ม.ค. 2561 เวลา 02.55 น.
ผมคนหนึ่งละไม่อย่าดู
และไม่ต้องการดูท้าอย่ากดูเดียวกดเองได้ปะวะ
15 ม.ค. 2561 เวลา 02.02 น.
ดูทั้งหมด