วันนี้ (20 ส.ค. 61) เวลา 10.00 น. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข พร้อมด้วยนายไสว ทองอ้ม ผู้ถูกยิงจนพิการที่แขนในการชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปี 2552 เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ขอให้นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการ กสม. ช่วยเจรจากับกองทัพให้ยุติการบังคับคดี จากกรณีศาลฎีกาได้ตัดสินให้ยกฟ้องคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกองทัพ และสั่งให้นายไสวจ่ายค่าธรรมเนียมศาลและจ่ายค่าทนายจำเลย (อัยการ)
นายไสวเล่าว่าได้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 8-13 เมษายน 2552 เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเสียงข้างน้อยในเวลานั้นจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร
โดยช่วง 4.30 น. วันที่ 13 เมษายน 2552 มีการสลายการชุมนุมโดยใช้กำลังทหารบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ตนได้พยายามวิ่งหนีไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ต้นแขนซ้ายจนพิการตลอดชีวิต
นายไสวเล่าต่อว่า ตนมั่นใจว่ากระสุนมาจากฝั่งทหาร จึงตัดสินใจร่วมกับผู้เสียหายอีกคนเป็นโจทก์ฟ้องคดีทางแพ่งกับกองทัพเพื่อเรียกค่าเสียหาย โดยศาลชั้นต้นพิพากษาให้กองทัพจ่ายเงินค่าเสียหาย 1.2 ล้านบาท เพราะเห็นว่าตนได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม
แต่ต่อมากองทัพได้ยื่นอุทธรณ์และศาลได้ยกฟ้องเพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ากระสุนมาจากฝั่งทหาร และร่องรอยกระสุนปืนจากบาดแผลไม่ตรงกับชนิดของกระสุนปืนที่กองทัพใช้ในเวลานั้น ตนจึงตัดสินใจยื่นศาลฎีกาอีกครั้ง โดยที่ผู้เสียหายอีกคนไม่ร่วมสู้คดีด้วย ซึ่งศาลฎีกาได้ตัดสินยกฟ้องยืนตามศาลอุทธรณ์
ขณะที่กองทัพบกและกองทัพไทยทำการบังคับคดีให้ตนต้องจ่ายค่าธรรมเนียมศาลและค่าทนายความระหว่างศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เป็นจำนวนเงิน 212,114 บาท (รวมค่าทนาย 60,000 บาท)
และเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา กรมบังคับคดีได้อายัดทรัพย์สินเป็นเงินในบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. 5,500 บาท พร้อมยึดที่ดินทำกินขนาด 8 ไร่ 3 งาน 42 ตารางวาของตน เพื่อเตรียมขายทอดตลาด โดยสามารถผ่อนผันได้ถึงเดือนกันยายนนี้
ขณะที่นายสมยศกล่าวว่า กรณีนี้ทำให้เห็นว่าต่อไปคนยากจนก็จะไม่กล้ามีปากมีเสียงกับอำนาจรัฐ เพราะการฟ้องคดีหากแพ้ก็จะถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายระหว่างการฟ้องคดี
ส่วนกรณีที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีมติ ครม. จ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองนั้น นายไสวไม่ได้รับเงินชดเชยดังกล่าว เพราะช่วงนั้นคดีความยังไม่สิ้นสุด
ด้านนางอังคณา กล่าวว่า จะรับเรื่องไว้เพื่อส่งหนังสือประสานไปยังกองทัพ เนื่องจากเรื่องนี้จบลงแล้วในชั้นศาล จึงเป็นเรื่องระหว่างโจทก์และจำเลยในการพูดคุยเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน ทั้งนี้รัฐบาลมีนโยบายในการปรองดองสมานฉันท์อยู่แล้ว จึงเชื่อว่าจะสามารถให้นายไสวได้พูดคุยตกลงกับกองทัพได้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
สุจินต์ กฎแห่งกรรมมี หนีไม่พ้น
20 ส.ค. 2561 เวลา 09.27 น.
นิติซัง ตายซะก็ดีนะ
20 ส.ค. 2561 เวลา 09.26 น.
Khunnut ไงล่ะพวกประท้วงให้พวกโกงชาติ สุดท้ายพอลำบากเขายื่นมือมาช่วยมั้ยล่ะ...
20 ส.ค. 2561 เวลา 09.23 น.
พุฒิกุล ปิ่นสกุล ประชาชนก็ต้องโดนขู่ข่มเหงต่อไปจากผู้มีอำนาจพวกปากดีซ้ำเติมเขาวันใหนโดนบ้างคงไม่สำเนียกพวกสมองเน่า
20 ส.ค. 2561 เวลา 08.46 น.
♾tom19🎱5♾ ปล้น (ปชธต.)แล้ว ฆ่า
คนถูกปล้นและจ้องฆ่าดันผิด
@โอมๆจง ก้มหัวคลานเข่าหมอบกราบกันต่อไป กะลาโองลี่
20 ส.ค. 2561 เวลา 08.38 น.
ดูทั้งหมด