24 กันยายน 2561 "อธ.อัยการคดียาเสพติด"ยันดูภาพหลักฐานไม่ใช่คณะทำงานคดีเอมี่ หลักฐานปมสอบย้อนรอยช่วยเหลือคดีเอมี่ ถึงมืออธิบดีอัยการ"อัจฉริยะ"เตรียมแฉกุ้งมังกรตัวละ 5 หมื่นอีก ย้ำเปิดโปงเพื่อชาติไม่ใช่ส่วนตัว
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ "นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์"ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหามีตำรวจ , อัยการและผู้ที่อ้างว่าเป็นอัยการช่วยเหลือคดียาเสพติดซึ่งอ้างถึงคดีอดีตดาราสาว เอมี่ อาเมเรีย จาค็อบ มามอบให้กับ "นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง" รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และ "นางชนิญญา ชัยสุวรรณ" อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการกับผู้กระทำความผิดหลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายอัจฉริยะได้รวบรวมหลักฐานส่งให้ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.ไปแล้วเช่นกัน
โดย "นายอัจฉริยะ" ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า คดีของดาราสาวเอมี่ตนก็ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนที่แจ้งเบาะแสมา และเราก็ได้นำหลักฐานมาให้อัยการ เรียกว่าทำกันเป็นขบวนการมีตำรวจอย่างน้อง 2 นาย มีทนายความ , อัยการ 1 คน บุคคลที่อ้างว่าเป็นอัยการอีก 1 คน ซึ่งหลักฐานค่อยข้างชัดเจน โดยจำนวนเงินที่เกี่ยวข้องที่มีการจ่ายก็เป็นเงินสดหลายล้านบาทแต่ยังบอกรายละเอียดชัดๆกับสื่อไม่ได้วันนี้หรือใครเป็นหัวหน้าขบวนก็ยังบอกไม่ได้เพราะตนจะโดนฟ้องเอาแต่มีหลักฐานมาเสนอให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติดเมื่อท่านเห็นเอกสารก็จะเข้าใจเอง ส่วนตัวละครเรื่องกุ้งมังกรจะเปิดเผยภายในสัปดาห์นี้
"เรายินดีมอบทั้งหมดให้อธิบดีอัยการคดียาเสพติดดูได้ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ บช.น.เองก็ตั้งกรรมการฯ แล้วและกำลังทำงานอยู่ โดยเชื่อว่าภายใน 3 วันนี้น่าจะมีการถูกดำเนินคดีบ้าง ซึ่งหลักฐานก็มีพยานบุคคลที่รู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำผิด และการรับเงินอย่างที่เคยบอกมีการจ่ายเงินให้กุ้งมังกรตัวละ 50,000 บาท และมีเอกสารลับของทางราชการที่ไปอยู่ในมือของจำเลยได้อย่างไร ซึ่งเรามีคลิปวีดีโอมีหลักฐาน โดยพยานปากนี้ฝ่ายจำเลยก็ตามหาอยู่" นายอัจฉริยะ ระบุ
ต่อข้อถามว่า เรื่องนี้ที่ออกมาเปิดเผยถึงความไม่โปร่งใสนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เคยมีปัญหาขัดกับทนายตั้มหรือไม่ "นายอัจฉริยะ" กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ ตนทำงานที่ผ่านมาก็ต้องเสี่ยงชีวิต เรื่องของทนายนั้นไม่ใช่สาระสำคัญสำหรับตน วันนี้ตนทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองไม่ต้องการเห็นพ่อค้ายาเสพติดบ่อนทำลายชาติพอมีเงินแล้วก็เอามาวิ่งเต้นในกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้พ้นความผิดและก็มีพวกทนายโจรบางคนมาร่วมขบวนการทำให้พ้นความผิดการลงโทษตามกฎหมาย ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
"วันนี้ที่ผมร้อง ผมไม่ได้ร้องทนายความ ผมไม่ได้ร้องเอมี่ แต่ผมร้องว่ามีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบให้การช่วยเหลือให้พ้นผิด ถึงกระบวนของศาลชั้นอุทธรณ์อัยการจะอุทธรณ์คดีเอมี่หรือไม่ผมก็ไม่รู้ เอมี่จะพ้นผิดหรือไม่ผมไม่สน แต่ผมต้องการให้เห็นกระบวนการต้นทางของตำรวจมีการช่วยเหลือกัน" ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าว
"นายโกศลวัฒน์" รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เรื่องนี้เมื่อเห็นเป็นข่าวตนก็ได้แจ้งนางชนิญญา อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติดทราบ ซึ่งได้แจ้งให้อัยการเจ้าของสำนวนที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจง พร้อมกับประสานข้อมูลกับฝั่ง บช.น.ที่ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงไปแล้วว่าจะมีข้อเท็จจริงมูลใดที่นำมาใช้เป็นประโยชน์ในการตรวจสอบส่วนของอัยการบ้าง ที่ตามข่าวระบุว่ามีบุคคลซึ่งอ้างเป็นอัยการ ก็ถ้ามีคลิปเสียง หรือเอกสารหลักฐานใดก็ขอให้ส่งมาอัยการจะเร่งตรวจสอบ
ขณะที่การตรวจสอบของอัยการก็เป็นไปได้ที่อาจจะรอผลจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ บช.น.ด้วย โดยหลังจากนี้ก็จะเสนอเรื่องให้นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุดทราบต่อไปเนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจ โดยหากพบอัยการหรือผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นอัยการร่วมกระทำความผิด ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยพบหลายกรณีที่มีการแอบอ้างว่าเป็นอัยการ แต่ทั้งนี้การร้องตรวจสอบคดีดังกล่าว จะไม่กระทบต่อผู้ต้องหาหรือจำเลยซึ่งเป็นตัวความในคดีนี้
ขณะที่ "นางชนิญญา" อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด กล่าวยืนยันว่า ในการทำสำนวนคดียาเสพติดนั้น มีการตั้งคณะทำงาน 5 คน ไม่ใช่การสั่งคดีของอัยการเพียงคนเดียว ซึ่งทั้ง 5 คนจะช่วยกันดูสำนวนและพิจารณา และที่ผ่านมาทั้งหมดมีความประพฤติที่ดีและไม่เคยมีพฤติการณ์ที่ถูกร้องเรียน โดยสำนวนที่ได้รับจากพนักงานสอบสวนนั้นคณะทำงานก็ได้มาในวันที่ครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายพอดีทำให้เราไม่สามารถทำอะไรได้ทันอัยการก็ได้ยื่นฟ้องจำเลยตามสำนวนที่พนักงานสอบสวนส่งมา
ส่วนเรื่องคดีของนักแสดงสาวและแฟนหนุ่มที่ศาลจังหวัดมีนบุรีได้มีคำพิพากษาลงโทษไว้นั้น จะมีการอุทธรณ์คดีหรือไม่ "นางชนิญญา" อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด กล่าวว่า ขณะนี้อัยการก็เพิ่งจะได้รับคำพิพากษาฉบับเต็มมา โดยอัยการเจ้าของสำนวนจะต้องพิจารณาและมีความเห็นเสนอตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะต้องมีการขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังที่ "อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด" ได้พูดคุยและดูเอกสารหลักฐานจาก"นายอัจฉริยะ" ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมแล้ว เป็นเวลาชั่วโมงเศษ "นางชนิญญา" อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด เปิดเผยว่า หลักฐานที่ได้รับมาวันนี้เป็นภาพบุคคลถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เบื้องต้นจากที่ตนได้ดูภาพถ่ายบุคคลแล้วยืนยันว่าไม่ใช่คณะทำงานอัยการ 5 คนที่เป็นชุดทำคดีของเอมีแน่นอน
จากนี้ไปตนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบภาพบุคคลที่นายอัจฉริยะให้มา ไปเปรียบเทียบกับบุคคลว่าเป็นอัยการจริงหรือไม่ ซึ่งอัยการทั้งประเทศ ก็มีอยู่เพียง 3,000 คน เท่านั้น โดยจะมีการจับมือบชน.ในการประสานข้อมูลการทำงานร่วมกันต่อไป ซึ่งอัยการจะดำเนินการให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ดีหากภายหลังตรวจสอบจะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับอัยการแล้วถึงขั้นจะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ก็เป็นเรื่องอัยการสูงสุดจะเป็นผู้พิจารณาสั่งการ
"ดูจากคลิปแล้วไม่ใช่ 5 คนที่เป็นคณะทำงานอัยการแน่นอน ในการดูภาพเบื้องต้นสำหรับคนที่อ้างเป็นอัยการในรูปภาพข่าวของช่อง 3 ดูแล้วเราไม่รู้จัก ส่วนที่อ้างว่าเป็นอัยการนั้นเรายังไม่ได้ตรวจว่าเขาเป็นหรือไม่เป็นอัยการเราต้องไปเปรียบเทียบกับแฟ้มทะเบียนประวัติของแต่ละท่านก่อน ซึ่งเราได้รายละเอียดจากเอกสารหลักฐานที่นำมายื่นแล้ว ก็จะไปตรวจสอบต่อไป" อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด กล่าวและว่า จริงๆ อัยการทั่วประเทศก็มีไม่เยอะหรอก 3,000 กว่าคน เพราะฉะนั้นตรงนี้เราก็จะเอาภาพไปเทียบเคียงดู ตอนนี้เรายังไม่รู้ชื่ โดยต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปรียบเทียบประวัติต่อไปซึ่งเราก็จะเร่งดำเนินการ"
ขณะที่ "นายอัจฉริยะ" ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า เราให้ข้อมูลกับอธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติดไปแล้วให้ตรวจสอบ เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับบุคคลที่เรากล่าวหา และให้อธิบดีอัยการฯ ตั้งคณะกรรมการและให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาชี้แจงมา
ต่อข้อถามที่ว่าทั้ง 2 รายในคลิปที่อ้างเป็นอัยการไม่ใช่คณะทำงานในคดีนี้ใช่หรือไม่ "นายอัจฉริยะ" กล่าวว่า ไม่ขอลงรายละเอียด เพราะจะมีผลต่อรูปคดี อยู่ระหว่างการตรวจสอบยืนยันว่าสิ่งที่เรานำเสนอไปเป็นข้อเท็จจริงและมีหลักฐาน ซึ่งเป็นการหาข้อมูลร่วมกัน
ทั้งนี้ฝั่งทนายความ วันนี้ (24 ก.ย.) "นายสรัลชา ศรีชลวัฒนา" เลขาธิการสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่การร้องเรียนที่เป็นข่าวทนายความคนหนึ่ง เข้าไปเกี่ยวข้องกับการวิ่งเต้นคดีว่า สภาทนายความฯ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยจะมีการนัดประชุมเรื่องนี้ ในวันที่ 27 - 28 ก.ย.นี้ก่อน ที่จะเรียกทนายคนดังกล่าวที่ถูกกล่าวอ้างมาให้ข้อมูล ซึ่งหากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ามีการกระทำผิดตามมรรยาททนายความจริง ก็จะดำเนินการลบชื่อออกจากสารบบการเป็นทนายความซึ่งก็จะมีผลทำให้ทนายความคนดังกล่าวไม่สามารถว่า ความได้อีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่มีการยื่นฟ้อง "เอมี่ อามาเรีย จาค็อป" อดีตนางเอกลูกครึ่งชื่อดังไทย- เนเธอร์แลนด์ จากละครดังเรื่องธิดาวานร เป็นจำเลยในศาลจังหวัดมีนบุรี ก็ระบุข้อหามียาไอซ์ ยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และเพื่อเสพ ซึ่งศาลจังหวัดมีนบุรีมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 28 ส.ค.61 ที่ผ่านมา ให้จำคุก 3 เดือนและปรับ 5,000 บาท ข้อหาเสพยาฯ ที่จำเลยให้การรับสารภาพ โดยโทษจำคุกนั้นให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี แล้วให้ยกฟ้องความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดไว้จำหน่าย เนื่องจากพยานหลักฐานที่นำสืบในชั้นศาลข้อหานี้ยังไม่เพียงพอ
เรื่องมาจาก..โชว์พาว ว่าตัวเองเก่งทำได้จัดแถลงข่าว จะเรียกค่าเสียหายจากการ..ถูกจำคุกเกินเวลาอีกต่างหาก...คดียาเสพติดนะไม่ใช่คดี ...มโน
24 ก.ย 2561 เวลา 13.11 น.
สุจินต์ รอดูคนทำผิด. ข่าวใหญ
24 ก.ย 2561 เวลา 13.16 น.
eka เอิ่ม ใครเขาก็รู้ว่าอัยการจังหวัดนี้ มีเงินถึงทุกเดือน (จังหวัดไหน) คนในรู้ดี
24 ก.ย 2561 เวลา 14.44 น.
สุกิติ์ สุดท้ายกูว่าได้แค่กาก
24 ก.ย 2561 เวลา 15.09 น.
ไชยภพ เอาเลยคร๊าบ มีอะไรก็แฉแฉออกมาเลย กุ้งตัวละเท่าไหร่ก็แล้วแต่ปัญญาคน จะโง่จนไม่รู้ว่าเขาเปรียบเปรยก็ช่างหัวคนบื้อ นึกว่าคนอื่นรู้ไม่เท่าทัน ใครทำกรรมใดไว้ ก็คงไม่พ้นผลกรรมนั้นนั้นล่ะ...
24 ก.ย 2561 เวลา 23.08 น.
ดูทั้งหมด