ปฏิบัติการจีนเดินเกมการค้าทำเอาเกษตรกรไทยหัวใจพองโตเพราะขายสินค้าได้ราคาดี ยกตัวอย่าง “ทุเรียน” ที่จีนเข้ามาเดินกลยุทธ์ปั่นราคาเพื่อสร้างซัพพลาย(ผลผลิต) พอซัพพลายเยอะ ทำให้ราคาลง ราคาจะลงต่อเนื่องจนเกษตรกรถอดใจ จากนั้นจีนจะปฏิบัติการต่อด้วยการเทกโอเวอร์ทั้งระบบเรียกว่ากินรวบตั้งแต่หัวจรดหาง!
น่าเป็นห่วงเกษตรกรที่ปลูกทุเรียน เพราะเกมนี้กำลังจะซ้ำรอย ยางพาราที่ราคาเคยขึ้นไปถึง 180 บาทต่อกิโลกรัม ตอนนั้นราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 เริ่มปรับตัวสูงขึ้นจาก 50 บาทต่อกิโลกรัม ในช่วงปลายปี 2551 และขึ้นไปสูงสุดประมาณ 180 บาท ต่อกิโลกรัมในปี 2554 หลังจากนั้น ราคาก็ได้ปรับตัวลดลงเรื่อยมา (กราฟิกประกอบ)
เนื่องจากประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกยางพาราอันดับ1 ของโลก มีการขยายพื้นที่การปลูกยาง จากเดิมที่ปลูกทางภาคใต้ และภาคตะวันออก เป็นหลัก (รวมกันประมาณ 15 ล้านไร่) ก็ไปปลูกเพิ่มขึ้นในพื้นที่ภาคอีสานเป็นส่วนใหญ่ (ประมาณ 5 ล้านไร่) และภาคกลางกับเหนือในบางส่วน ต้องใช้เวลาในการปลูกประมาณ 6-7 ปี จึงจะกรีดยางได้ รวมถึงการขยายพื้นที่ปลูกยางในประเทศลาว กัมพูชา เมียนมา และอีกหลายๆ ประเทศ ส่งผลให้เกิดภาวะยางล้นตลาดโลก ราคาจึงอยู่ในแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องนับจากปี 2554 จนถึงปัจจุบันที่ราคาร่วงลงมาอยู่ที่ประมาณ 40 บาทต่อกิโลกรัม (ยางแผ่นรมควัน)
-พ่อค้าจีนคุมทั้งปริมาณและราคา
ในช่วงที่ราคาปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งข้อสังเกตว่าพ่อค้าชาวจีน เดินสาย เข้ามาในอุตสาหกรรมยางพาราของไทย ไม่ว่าจะเข้ามาเป็นเจ้าของโรงงานผลิตยางแท่งหรือยางแผ่นรมควัน พ่อค้ายาง และอุตสาหกรรมต่อเนื่องในปลายน้ำ อย่างตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ พอจะอนุมานได้ว่า มีการสร้างราคาให้สูงขึ้น จนมีสินค้าล้นตลาด และราคาก็ปรับลดลง พร้อมๆกับมีสินค้าที่ให้ซื้ออย่างมากมาย เป็นการเข้ามาเพื่อรักษาอำนาจในการควบคุมปริมาณและราคาในการซื้อขายยางพารา เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้ายางพารามากกว่า 40 % ของความต้องการของทั้งโลก
ในยุคบูมราคายางดี มีการส่งออกไปผลิตยางรถยนต์ในจีน หรือทุนจีนพากันเดินสายเข้ามาตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ในประเทศไทย เห็นได้ชัดเจนเมื่อ 2-3 ปีก่อน กลุ่มทุนจีนเดินสายเข้ามายื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ แต่สถานภาพตอนนี้กลับตรงกันข้าม ราคายางร่วง เศรษฐกิจโลกไม่ดี การใช้ยางลดลง ยิ่งในยามนี้ยอดส่งออกรถยนต์ร่วง เกษตรกรผู้ปลูกยางเลี้ยงชีพบางรายต้องถอดใจ!
*-ต้นยางตายคาที่ยิ่งตอกย้ำ *
เวลานี้ในภาคอีสานมีต้นยางตายคาพื้นที่ไว้ดูต่างหน้าเกิดขึ้นแล้ว เพราะลงทุนปลูกยางไปจำนวนมาก สูญเงินเกษตรกรไปก็ไม่รู้เท่าไหร่ ปัญหานี้ทั้งภาครัฐหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ร่วมกับชาวบ้านวิเคราะห์ให้ดีก่อนว่ายางเหมาะสมกับสภาพอากาศแบบไหน ควรจะปลูกยางในจังหวัดใดบ้าง เห็นราคายางดีเร่งส่งเสริมสนับสนุนโดยไม่วิเคราะห์ให้ดีก่อน วันนี้ราคายางร่วงดิ่งลง และแว่วว่า ทุนจีนบางรายก็จ้องเทกโอเวอร์หรือสนใจร่วมทุนกับบริษัทผลิตยางในประเทศไทยแล้ว
วกกลับมาที่ “ทุเรียน” เมื่อเห็นตัวอย่างจากยางพาราในประเทศไทย ก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองทุเรียนในบ้านเรา เมื่อ 5-6 ปีก่อนราคาขายปลีกทุเรียน กิโลกรัมละ 50 บาท แต่ใน 2-3 ปีที่ผ่านมา มีราคาขายปลีกมากกว่า 100 บาท เหมือนประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่? ต้องตั้งคำถามไว้ก่อน!
จากราคาหน้าสวนที่พุ่งสูงตั้งแต่ 80-100 บาทต่อกิโลกรัมแบบนี้ มีหรือชาวสวนจะนั่งตบยุง ต่างพากันตบเท้าปลูกทุเรียนมากขึ้นอย่างเด่นชัดในทั่วทุกภาคของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการโค่นสวนยางพารา หรือหาแหล่งเพาะปลูกใหม่ๆ ซึ่งทุเรียนจะให้ผลผลิตหลังจากปลูกไปแล้ว 3-5 ปี ตอนนี้ไปพื้นที่ไหนก็มีการปลูกทุเรียน ไปภาคอีสานก็มีทุเรียนรับประทาน ไม่ใช่เฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ นนทบุรี ระยอง จันทบุรี เท่านั้น
-จีนคุมเบ็ดเสร็จทั้งระบบ
ทุกวันนี้ที่เห็นเปลี่ยนแปลงไปมากในพื้นที่ภาคตะวันออก ที่นับวันพ่อค้าชาวจีนเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น มีการซื้อทุเรียนในราคาที่แพงขึ้นอย่างเด่นชัด รวมถึงการเข้ามาเป็นพ่อค้าคนกลางในการรับซื้อทุเรียน (ล้งทุเรียน) และจีนก็เป็นผู้บริโภคทุเรียนของไทยรายใหญ่
“วันนี้ล้งทุเรียนในประเทศไทยกว่า 50% เป็นของจีน พอผลผลิตล้น ก็ต้องขายเข้าล้งจีน โดยที่จีนมีอำนาจเหนือตลาด กำหนดราคาเองเบ็ดเสร็จ จีนให้คนปลูกทุเรียน และจีนอยู่ในบทบาทคนคุมราคา คุมการขาย มีคำถามว่าล้งผลไม้ควรเป็นอาชีพสงวนหรือไม่” นี่คือเสียงจากเกษตรกรรายหนึ่งที่เป็นทั้งเจ้าของสวนทุเรียนและเป็นผู้ค้าทุเรียน
-10 เดือนแรกส่งออกทุเรียนพุ่ง
ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร ช่วง 10 เดือนแรกปี 2562 ไทยส่งออกทุเรียนสดมูลค่า 43,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.42% เมื่อเทียบกับปีก่อนช่วงเดียวกัน ในจำนวนนี้ส่งออกไปจีน มีมูลค่าสูงสุดถึง 25,092.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.55%
ด้านสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุเนื้อที่ปลูกทุเรียนทั่วประเทศของไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากปลูกทดแทนยางพาราที่ราคาตกตํ่าจากในปี 2560 มีเนื้อที่ปลูกทุเรียนให้ผลผลิตทั่วประเทศ 6.21 แสนไร่ให้ผลผลิต 6.49 แสนตัน ในปี 2562 คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.24 แสนไร่ และมีผลผลิตกว่า 9.77 แสนตัน
หากมองในแง่นโยบายพืชเกษตรต้องโทษการทำงานของรัฐบาล เพราะไปสนับสนุนโดยไม่วิเคราะห์ให้ดีก่อน พอข้าวราคาถูกผลผลิตเยอะก็เปลี่ยนนาข้าวไปเป็นปลูกอ้อย พอราคายางดีก็เอานาข้าวไปปลูกยาง วันนี้ที่อีสานบางพื้นที่ที่ปลูกยางพารา มีผลผลิตต่อไร่ไม่ดี บางพื้นที่ยืนต้นตาย การปลูกยางชอบอากาศร้อนชื้น ไม่เหมาะกับภาคอีสาน ยกเว้นว่าพื้นที่นั้นติดแม่น้ำโขง ติดภูเขา มีความชื้น พอคนแห่ปลูกในหลายพื้นที่ก็ไม่เหมาะ รัฐสนับสนุนได้แต่ต้องวิเคราะห์ว่าพื้นที่ไหนควรปลูก และไม่ควรปลูก ถ้าแล้งจัดก็ยืนต้นตายหมด
คงต้องตั้งคำถามทิ้งไว้ว่า อนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้า ราคาทุเรียนไทยจะเป็นอย่างไร ? และการเข้ามาควบคุมระบบการซื้อขายทุเรียนของพ่อค้าชาวจีนแผ่นดินใหญ่จะเกิดอะไรขึ้นกับเกษตรกรคนไทย? เมื่อราคาถูกจีนควบคุมเบ็ดเสร็จ! เหล่านี้ล้วนเป็นคำถามที่ยังต้องรอคำตอบ
คาดการณ์ว่าทุเรียนไทยอีกไม่เกิน 5 ปีข้างหน้าจะซ้ำรอยยางพาราคือราคาหน้าสวนจาก 60-80 บาทต่อกิโลกรัม จะเหลือไม่เกิน 40 บาทต่อกิโลกรัม คนบริโภคซื้อทุเรียนราคาถูก แต่คนปลูกตาย ใครรับผิดชอบ…..ตอบทีนักการเมืองไทย!!!
คอลัมน์ : Let Me Think
โดย : TATA007
………………
อภิญญา มารีสซ์ ตราบใดที่ไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการระบบเกษตรกรรมอย่างเป็นระเบียบเกษตรกรไทยก็จะไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้อย่าโทษจีนเลยเขาชอบกิน เขาหากำไรได้เขาก็ทำ
15 ธ.ค. 2562 เวลา 01.55 น.
Booranin ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโลภกันเองด้วยหรือเปล่า เห็นผลประโยชน์ก็ตาโตกระโดดเข้าใส่ เรื่องแบบนี้จีนตบมือข้างเดียวจะดังไหม
15 ธ.ค. 2562 เวลา 01.58 น.
yui รู้จักเจ๊กน้อยไป ค้าขายกันซื่อตรง ไม่คดไม่โกง เจ็กทำไม่เป็น นอกจากขยันทำมาหากินแล้ว ขยันโกงด้วย
15 ธ.ค. 2562 เวลา 00.09 น.
joe เจ็กบ้าคบได้เหรอ เอาเปรียบได้มันทำทันที ทำแบบด้านๆด้วย นี่แค่ผลไม้ อย่างอื่นอีกเยอะ การศึกษา ท่องเที่ยวทัวร์0เหรียญยังเหมือนเดิม
15 ธ.ค. 2562 เวลา 02.30 น.
คอกาแฟ คนอยากกินณตอนนั้นเท่าไรก็ได้ มีผลผลิตเยอะราคาต่ำเรื่องปกติไม่ใช่เค้าทำ แต่ภาครัฐควรลงมาดูแลการผลิตต้นทางตัดปัญหา ข้าราชการไทยไม่อยากต้องรับผิดชอบมากขึ้นเงินเดือนเท่าเดิม ปท.วนเหยียบย่ำอยุ่แต่วงจรนี้
15 ธ.ค. 2562 เวลา 02.28 น.
ดูทั้งหมด