‘วิลาศ’จ่อยื่นสอบ‘สรศักดิ์’ ส่อทุจริตยืดสร้างสภาใหม่

นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงกรณีที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะเป็นผู้ว่าจ้างการก่อสร้างรัฐสภาใหม่ ขยายเวลาการก่อสร้างรอบที่ 4 ให้กับ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์
คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) จากเดิมซึ่งจะครบกำหนดระยะเวลาก่อสร้างในวันที่ 15 ธันวาคม 2562 ออกไปเป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ว่า

ขณะนี้เตรียมรวบรวมข้อมูลหลักฐานและเอกสารเพื่อยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ไต่ สวนตรวจสอบนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสนง.เลขาธิการสภาฯ และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อาจเข้าข่ายส่อว่าจะกระทำการทุจริตต่อหน้าที่โดยอ้างเอกสารหลักฐานเท็จหรือไม่

“กรณีอ้างเหตุผลการต่อสัญญารอบที่ 3 ว่า เกิดจากการส่งมอบพื้นที่โรงเรียนโยธินบูรณะมีความล่าช้าอาจเป็นไปโดยมิชอบ มองว่าการอ้างเหตุผลดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะได้ส่งมอบพื้นที่ทั้งหมดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559 แล้ว ขณะที่การขอขยายเวลารอบที่ 4 ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 15 ธันวาคม 2562 นี้ เตรียมขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ เพื่อขอข้อมูลมาประกอบการยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. และสตง.ด้วย” นายวิลาศ ระบุ พร้อมตั้งข้อสังเกตการขอขยายเวลารอบที่ 4 ที่อ้างเหตุว่าเกิดจากการเข้าใช้พื้นที่ซึ่งเป็นอุปสรรคในการทำงานว่า

ในสัญญาข้อ 34 ระบุว่า ผู้ว่าจ้างมีสิทธิสามารถเข้าใช้พื้นที่ในส่วนที่แล้วเสร็จโดยการเข้าใช้งานจะไม่ถือว่าการรับมอบงานตามสัญญา และจะนำมาเป็นเหตุผลในการขยายสัญญาไม่ได้ และในข้อ 24.1 ยังระบุไว้ด้วยว่า กรณีสัญญาจ้างดำเนินอยู่ หากมีอุปสรรคในการทำงาน ผู้รับว่าจ้างต้องแจ้งภายใน 15 วัน หากไม่แจ้งถือว่า สละสิทธิ์ในการอ้างการขอขยายสัญญาดังกล่าว

ด้าน ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ระบุว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่า สภาพปัจจุบันทางราชการอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่า “ผีเข้าป่าช้า” เพียงแต่ว่าการขยายเวลานั้นควรมีข้อสรุป มีคำตอบที่ชัดเจนให้กับสังคมในเรื่องนี้ว่าที่เกิดความล่าช้าเพราะอะไร สาเหตุเกิดจากฝ่ายไหนกันแน่ และใครต้องรับผิดชอบต่อความเสียหาย

“ไม่ใช่ต่อสัญญาออกไปเรื่อยๆ โดยเชิญองค์กรที่ได้รับการยอมรับมาทำความคิดเห็นอย่างเป็นทางการ อาทิ สภาวิศวกร สภาสถาปนิก และสมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย เข้ามาทำ ความคิดเห็นอย่างเป็นทางการเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือในเรื่องนี้ โดยต้องตรวจสอบตั้งแต่ต้นจนถึงวันที่มีการขยาย เวลาครั้งที่ 3 อีกช่วงคือ การให้ขยายเวลาครั้งที่ 4 ว่า มีเหตุผลใด แล้วเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนได้รับทราบ”

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา บริษัท ซิโน-ไทยฯ ได้แจ้งตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้ว่าจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ได้ขยายเวลาการก่อ สร้างรัฐสภาใหม่ให้อีก 382 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2562-31 ธันวาคม 2563 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3530 หน้า 16วันที่ 12 -14 ธันวาคม 2562