วายแอลจี แนะกลยุทธเล่น ทองคำ หลังเศรษฐกิจคลายล็อกดาวน์ แนะ”แบ่งขาย” ทำกำไรช่วงขึ้นใกล้จุดพีก1,765 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 26,450 บาท ชี้รอบเข้าซื้อแนวรับ 1,690 ดอลลาร์ หรือ 25,300 บาท ย้ำสูตร”ขึ้นขาย-ลงซื้อ” กำหนดจุดตัดขาดทุน
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า หลังการคลายล็อกดาวน์เฟส 3 ตลาดทองคำในไทยมีแนวโน้มจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่ทั่วโลกยังมีการล็อกดาวน์ ส่งผลให้การขนส่งและการซื้อขาย ทองคำ ได้รับผลกระทบ จึงทำให้ส่วนต่างราคาซื้อ-ขายทองคำในประเทศเพิ่มขึ้นสูงเป็น 300 บาทต่อบาททองคำ จึงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับนักลงทุนระยะสั้น (Day Trade) ที่ต้องรอการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำนานยิ่งขึ้น จึงจะสามารถขายทำกำไรได้
ซึ่งการถือ ทองคำ นานขึ้น ย่อมจะส่งผลต่อการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนไปด้วย ดังนั้นเมื่อส่วนต่างราคาซื้อขายกลับมาเป็นปกติ จึงมีแนวโน้มจะดึงดูดนักลงทุนทองคำประเภท Day Trade ให้กลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง ทำให้คาดว่าปริมาณการซื้อขายทองคำเพื่อการลงทุนอาจเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ทองคำมีกรอบการแกว่งตัวกว้างขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่นักลงทุนสามารถเข้ามาทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้
ในส่วนของปัจจัยพื้นฐาน แม้ยังมีปัจจัยที่หนุนราคาทองคำในระยะยาวยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำ การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินและการคลังทั่วโลก ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ รวมถึงปัจจัยระยะสั้นอย่างเหตุจลาจลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้นายจอร์จ ฟรอยด์
แต่ความต้องการ “สินทรัพย์เสี่ยง” ที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะนี้ ท่ามกลางความหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะพลิกฟื้นหลังจากทั่วโลกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง เป็นปัจจัยกดดันให้ทองคำถูก “แรงขายทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะ จะเห็นได้ว่าเมื่อราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเข้าใกล้บริเวณระดับสูงสุดของปีนี้ มักจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาทุกครั้ง
ดังนั้น YLG จึงยังคงแนะนำให้นักลงทุน “แบ่ง” ทองคำออกขายทำกำไร เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นเข้าใกล้ระดับสูงสุดของปีนี้บริเวณ 1,765-1,739 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 26,450-26,050 บาทต่อบาททองคำ หากผ่านได้ค่อยถือต่อไปรอขายบริเวณแนวต้านโซน 1,788-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 26,800-27,900 บาท ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของช่วงเดือน ก.พ. ,ก.ย. และ ต.ค. 2555
ขณะที่การเข้า“ซื้อ” อาจรอราคาช่วงที่มีการปรับตัวลดลงและไม่หลุดแนวรับเบื้องต้นคาดการณ์แนวรับแรกบริเวณ 1,690-1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 25,300-25,150 บาทต่อบาททองคำ (ราคาไทยคำนวณจากค่าเงินบาท ณ ระดับ 31.60 บาท/ดอลลาร์)
“ที่สำคัญนักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการไล่ซื้อพร้อมกำหนดจุดตัดขาดทุนประกอบการลงทุนทุกครั้ง “นางพวรรณ์ กล่าว
นางพรวรรณ์กล่าวถึงในช่วงการระบาดของโควิด-19 พฤติกรรมคนไทยซื้อทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นและเกิดความต้องการจัดส่งทองแบบดิลิเวอรี่ส่งตรงถึงบ้านก็พุ่งสูงขึ้น ซึ่งถือเป็น New Normal ของวงการทองคำ แต่อย่างไรก็ดี ทองคำเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง คนไทยบางส่วนจึงนิยมไปเลือกซื้อหรือขายทองคำที่ร้านทองด้วยตนเอง ดังนั้นจึงมั่นใจว่าภาพรวมการซื้อ-ขายทองคำ จะคึกคักขึ้นในแง่ของออนไลน์และออฟไลน์ ควบคู่กัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : YLG แนะโกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์สทางเลือกลงทุนทองคำไร้ความเสี่ยงค่าเงิน
วันนี้ทองกำลังลงวูบๆแล้ว ใครมีเยอะเกินรีบขายเอากำไรด่วน
06 มิ.ย. 2563 เวลา 01.56 น.
*dao* 🦠🦋🦠🦋🦠🦋🦠🦋🦠🦋🦠🦋🦠🦋
‼️ด่วน‼️
🙎🏻♂️🙍🏻♀️ตามหาคนอยากทำงานพาสไทม์
เรียนก็ทำได้ อยากทำเป็นรายได้เสริมก็ทำได้ คนทำงานประจำก็ทำได้ ด่วน!!!!!📌📌📌📌📌
- คอนเฟิร์มลูกค้า Facebook/Line (ทำผ่านมือถือ)
- รับอายุ 18-60 ปี
- 💰รายได้ 3,000-5,000 ต่อสัปดาห์ 20,000/เดือน
#รับทุกจังหวัด (ต่างประเทศก็รับค่ะ)
👉สนใจงานแอดไลน์ไอดี @260madvt (มี @ ด้วยค่ะ)
🦠🦋🦠🦋🦠🦋🦠🦋🦠🦋🦠🦋🦠🦋
06 มิ.ย. 2563 เวลา 00.57 น.
Kai เห้นบอกว่ามีแนวโน้มแตะที่30000มาหลายสัปดาห์ละ แม่นจริงๆวะไอ้นักวิเคราะห์ทั้งหลาย
05 มิ.ย. 2563 เวลา 18.36 น.
sakchai ปี 2011 บาท ละ 27,000 ติดดอย กันเพียบ ขึ้นมา อีกนิดน่ะ ขายเท่าทุน ไม่เอา กำไร แล้ว
05 มิ.ย. 2563 เวลา 17.01 น.
วิชล แม่งเม่าชาติข้าฯ กล้าๆ
05 มิ.ย. 2563 เวลา 15.13 น.
ดูทั้งหมด