โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ถือกำเนิดขึ้นในปี 2509 ทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนานและได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์นั่งขายดีตลอดกาลของญี่ปุ่นและในอีกหลายๆ ประเทศรวมถึงเมืองไทยด้วย โดยมียอดขายสะสมกว่า 800,000 คัน ในปัจจุบัน จนกระทั่งตลาดของไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงไปหลังการมาของรถยนต์ในโครงการอีโคคาร์ ทำให้ โคโรลล่า อัลติส มียอดขายไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนแต่ก่อน
อย่างไรก็ตาม โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ยังถือว่าเป็นรถที่มีความสำคัญที่สุดของโตโยต้า ทั้งในระดับโลกและภูมิภาค ดังนั้นเจเนอเรชันใหม่ของ โคโรลล่า จึงต้องมีความพิเศษที่สุด โดยเมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัว เจเนอเรชันที่ 12 ของ โคโรลล่า อัลติส อย่างเป็นทางการ
โคโรลล่า อัลติส ใหม่ มากับ 6 รุ่นย่อย 3 ทางเลือกเครื่องยนต์หลัก ได้แก่ รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร , รุ่นเครื่องยนต์ปกติ 1.8 ลิตร และ 1.6 ลิตร
ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นการรอช้าเสียเวลาทีมงาน เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ได้ประเดิมทดลองขับในรุ่น 1.8G GR Sport เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมนำเสนอรายละเอียดในทุกแง่มุม เจ้าเจเนอเรชันที่ 12 นี้มีอะไรแตกต่างเพิ่มเติมไปบ้างเชิญติดตามได้
TNGA+ชุดแต่ง
โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ใหม่นั้นมากับ TNGA โครงสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ มีการเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวถังด้วยการเพิ่มจุดเชื่อมมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมการใส่ระบบเสริมความปลอดภัยใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ได้แก่
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา(Blind Spot Moniter) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) ระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Stability Control) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist Control) รวมถึงติดตั้งถุงลมนิรภัยให้ 7 ตำแหน่งอีกด้วย
หัวใจยังคงคบหากับเครื่องยนต์ตัวเดิมรหัส 2ZR-FBE เบนซิน 4 สูบ DOHC ขนาด 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิด 177 นิวตันเมตร รองรับเชื้อเพลิงได้ถึง อี85 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT-i 7สปีด
ด้านการตกแต่งภายนอก จัดเต็มด้วยสปอยเลอร์รอบคัน ดูแล้วแปลกว่ารุ่นย่อยอื่นๆ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะยางจัดมาให้พิเศษสุดด้วยยางมิชลิน ไพร์มาซี 4 ขนาด 225/45 R17 ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นท็อปสุดของยางที่ใส่ในรถประเภทนี้
ส่วนการตกแต่งภายใน ดีไซน์ใหม่ทั้งหมดฉีกจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง แต่ยังคงเอกลักษณ์ของการใช้งานง่าย และเน้นเอาใจผู้ขับขี่มากขึ้น โดยมีกล้องมองหลังติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานอีกด้วย
โตโยต้า เคาะราคารุ่นนี้ไว้ที่ 999,000 บาท เฉพาะสีขาวคันที่เราขับนั้นต้องจ่ายเพิ่ม 10,000 บาท โดยมาพร้อมกับแคมเปญ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ต่อปี หรือ เลือกผ่อนชำระเริ่มต้นเพียงเดือนละ 8,500 บาทได้ตามใจชอบ นับเป็นเรื่องแปลกที่รถเปิดตัวใหม่มาพร้อมแคมเปญด้วยทันที
ขับสนุก เกาะโค้งมั่นใจ
แรกรับรถมา เข้าไปนั่งภายในห้องโดยสาร สิ่งแรกที่สะดุดใจผู้เขียนมากที่สุดคือ เกียร์ ที่เปลี่ยนมาเป็นแบบแนวตรง ต่างจากเดิมที่ใช้แบบขั้นบันได และการมีคอนโซลกลางสูงใหญ่ ให้ความรู้สึกว่า แน่น ต่างจากโฉมก่อนที่เน้นพื้นที่ว่างทางด้านหน้าค่อนข้างมาก
ขณะที่หน้าปัดยังเป็นแบบเข็มไมล์ มีจอสีแสดงผลขนาด 4.2 นิ้วอยู่ทางด้านข้าง ควบคุมผ่านปุ่มมัลติฟังก์ชันบนพวงมาลัยซึ่งมีขนาดใหญ่จับถนัดมือดี ใช้งานง่ายสะดวก พร้อมแพดเดิลชิฟ แต่ปุ่มมัลติฟังก์ชันที่มีเพียงฝั่งเดียว อีกฝั่งหนึ่งนั้นโล่ง ทำให้รู้สึกแปลกๆ อยู่พอสมควร โดยสิ่งที่หายไปคือ ระบบครุยซ์ คอนโทรล
หน้าจอที่คอนโซลกลางมีขนาด 8 นิ้ว ซึ่งมีทั้งระบบปุ่มกดและสั่งการด้วยการสัมผัสได้ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เบรกมือไฟฟ้า อยู่ในตำแหน่งใช้งานสะดวก
สำหรับการทดลองขับครั้งนี้ เริ่มต้นด้วยการวิ่งแบบทางยาวๆ เพื่อลองขับด้วยความเร็วสูง โดยเราขับแตะถึงความเร็วกว่า 170 กม./ชม. พบว่า การทรงตัวของรถนั้นค่อนข้างนิ่งดีทีเดียว รู้สึกมั่นใจ แตกต่างจากโฉมก่อนหน้าแบบชัดเจน ส่วนการขับขี่แบบทั่วไปที่ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. นั้นสารภาพตามตรง ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากรุ่นก่อนแต่อย่างใด
การเร่งแซงถือว่าทำได้ประทับใจมาก กดคันเร่งรอบมาอย่างต่อเนื่องทันใจในทุกย่านความเร็ว ผิดนิสัยของเกียร์แบบซีวีทีที่มักจะมีการรอรอบ แต่เกียร์ซีวีที ชุดนี้ของโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ทำได้ดีงามเกินกว่าที่คาดเอาไว้ ได้อารมณ์ขับสนุก ยิ่งเมื่อลองใช้งานแพดเดิลชิฟด้วยแล้ว บันเทิงอย่าบอกใครเชียว
ด้านวัสตุต่างๆ ดูดีขึ้น ผิวสัมผัสให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล การตัดเย็บ ประกอบเข้ารูปเนียนดี เก็บงานได้ประณีตดีขึ้นกว่าเดิมแบบจับต้องได้ เบาะนั่งหนังสีดำตัดแดงบางส่วนรูปทรงสปอร์ตนั่งสบายตัว เบาะหลังเป็นสีดำล้วนถามคนที่นั่งไปด้วยกันว่าเป็นอย่างไร คำตอบคือ “สบายดีนะ” ส่วนจะดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ ยังไม่กล้ายืนยันคำตอบ
การควบคุมพวงมาลัยนั้นค่อนข้างเบามือมาก เหมาะกับการใช้งานเมือง ได้ทั้งความคล่องตัวและการตอบสนองที่ดี รัศมีวงเลี้ยวแคบมากเพียง 5.4 เมตร คันเร่งเบาแตะเพียงนิดเดียวรถก็พุ่งแล้ว เบรกน้ำหนักค่อนมาทางเบา แต่ไม่ถึงกับหัวทิ่ม ยังอยู่ในจุดที่เบรกอยู่และพอดีกับการเบรกแบบสบายไม่เวียนหัว
การเข้าโค้งเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของ โฉมใหม่และตัวเก่า ด้วยการบิดตัวของรถที่น้อยลง เสียงรบกวนที่น้อยลง ต้องขอบคุณการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียงและลดการสั่นสะเทือนตามจุดต่างๆ ที่โตโยต้า ใส่เพิ่มเติมให้
ส่วนอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง ตามมาตรฐานอีโคสติกเกอร์นั้นระบุตัวเลข 15.6 กม./ลิตร ส่วนการลองขับจริงของเรา ด้วยสไตล์การขับแบบสนุกสนาน ดังที่กล่าวมา หน้าจอแสดงผลลัพธ์เป็นตัวเลข 10.6 กม./ลิตร ถือว่า ยอมรับได้
เหมาะกับใคร
คนที่กำลังต้องการรถสักคันที่ใหญ่กว่าตระกูลบีเซกเมนท์ ขับสนุก มั่นใจขับไปที่ไหน ช่างก็ซ่อมได้ และไม่อยากได้ไฮบริด รวมถึงไม่อยากใช้รถเครื่องเล็กขนาด 1.6 ลิตร อัลติส 1.8G GR Sport คือคำตอบของคนที่ต้องการสิ่งนี้ อย่างไรก็ตามทีมผู้บริหาร โตโยต้า ตั้งเป้าหมายการขายเอาไว้ที่ 2,300 คันต่อเดือน สัดส่วนของ 1.8G GR Sport ราว 25% ไม่น้อยเลยทีเดียว
Another Dimension คันสีแดง เห็นกระจังหน้า ชวนให้นึกถึง sinan Ju
คันสีขาวมุก ชวนให้นึกถึง unicorn titanium finished ใน unicorn mode เลย
เป็นสาวก neo zeon ซะด้วย ตั้งแต่ camry ใหม่แล้ว มันมีกลิ่นอายในการออกแบบมา
10 ก.ย 2562 เวลา 16.58 น.
AL€K🅿️K🎭 ราคานี้ ไปซีวิค 1800 ดีกว่า
10 ก.ย 2562 เวลา 15.15 น.
แพงไป
10 ก.ย 2562 เวลา 04.50 น.
ดูทั้งหมด