ทั่วไป

กรมควบคุมโรค ชี้แจงการดำเนินงานด้านข้อมูล COVID-19 มีความโปร่งใสตามมาตรฐาน ไม่มีการปกปิดข้อมูล

สวพ.FM91
อัพเดต 04 เม.ย. 2563 เวลา 05.17 น. • เผยแพร่ 04 เม.ย. 2563 เวลา 05.17 น.

กรมควบคุมโรค ชี้แจงการดำเนินงานด้านข้อมูล COVID-19 มีความโปร่งใสตามมาตรฐาน ไม่มีการปกปิดข้อมูล
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะผู้บัญชาการของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อโซเชียลโพสต์ข้อความว่า กรมควบคุมโรคมีการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขที่รอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตามรายงานในเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค นั้น กรมควบคุมโรค ขอชี้แจงว่า การดำเนินงานด้านข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือโควิด-19 มีความโปร่งใสตามมาตรฐานวิชาชีพ ไม่มีการปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด แต่เนื่องจากสถานการณ์ของโรคในปัจจุบัน ไม่ได้อยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น มีการแพร่กระจายของโรคไปในหลายพื้นที่ในประเทศไทย จึงมีการขยายเครือข่ายห้องปฏิบัติการตรวจยืนยันเชื้อโควิด-19 ไปในทุกภูมิภาค
นายแพทย์โสภณ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีห้องปฏิบัติการที่มีความพร้อมในการตรวจเชื้อโควิด-19 จำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าที่มีในเดือนมกราคม 2563 ทำให้มีการส่งตรวจหาเชื้อในผู้ที่เข้าข่ายผู้ป่วยเข้าเกณฑ์การสอบสวน (PUI) เพิ่มขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค จะได้รับรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทุกรายที่มีการออกรหัสการตรวจ ทั้งที่มีผลการตรวจพบเชื้อและไม่พบเชื้อ โดยตัวอย่างที่มีผลบวกพบเชื้อโควิด-19 จะได้รับการรายงานเข้ามาทันที เพื่อใช้ประโยชน์ในการสอบสวนควบคุมโรค ส่วนผลการตรวจที่เป็นลบมีเป็นจำนวนมาก ห้องปฏิบัติการจะทยอยรายงานเข้ามาในระบบโปรแกรมอิเลกโทรนิกส์จึงอาจล่าช้าและยังไม่ครบถ้วนทันที ทำให้มียอดค้างว่ารอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งปัจจุบันมีการปรับปรุงยอดการรายงานแล้ว เพื่อลดความสับสนในการนำข้อมูลไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าข้อมูลผู้ป่วยจะไม่ตกหล่น เพราะตามกฎหมายพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ.2558 หากผู้ป่วยรายใดมีผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ โรงพยาบาลจะทำการแจ้งข้อมูลผู้ป่วยทุกรายมายังศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรคภายใน 3 ชั่วโมงอยู่แล้ว เพื่อเริ่มทำการสอบสวนและควบคุมโรคตามขั้นตอนทันที และใช้สรุปเผยแพร่สถานการณ์ให้ประชาชนทราบเป็นประจำทุกวัน

ดูข่าวต้นฉบับ

ดูบทความอื่นๆ จาก สวพ.FM91

หน้าหลัก
สวพ.FM91
ความเห็น 8
  • Siripunya Indaditta
    ยอดรวมผู้ติดเชื้อที่ ศบค.แถลงรายวัน ตอนนี้สูงกว่าความเป็นจริงอยู่ประมาณ 360 คน (ณ 4 มี.ค.) เค้าจะ discredit ทีมคุณหมอสธ.อยู่เรื่อย ตอนเปิดศูนย์ที่ทำเนียบแรกๆ เค้าปั่นยอดสูงกว่าจริงประมาณ 420 คนตามคำสั่งลับของนายก เพื่อให้นายกประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินให้ได้ บักตู่อยากรวบอำนาจมารวมไว้ที่ตัวเอง ดิ้นรนทุรนทุรายจะประกาศใช้พรก.ให้ได้ พอประกาศใช้ คนตกงานและแรงงานก็แห่กลับตจว.เพราะอยู่กทม.เค้าไม่มีงานไม่มีรายได้ไม่มีจะกิน ต้องรีบกลับบ้านเกิดก่อนที่เงินจะหมด เลยไปแพร่เชื้อที่ตจว.เต็มเลย เป็นความผิดของรัฐบาล!
    04 เม.ย. 2563 เวลา 11.04 น.
  • สดใส นามโยธา
    ดีแล้วที่ตํารวจดําเนินคดีไม่ตอ้งให้มาถึงพวกกะผมพวกหยู่ชนบทใครมาจากตา่งประเทศหรือวา่กรุงเทพหรือตา่งจังหวัดตอ้งไปตักเตี่ยนุกวัน๑๔วันหา้มไปใหนบางคนก็ไม่พอใจพวกผมผมทาํตามหน้าที่ระครับผม
    04 เม.ย. 2563 เวลา 08.44 น.
  • สาว
    โรคโควิด19มาจากต่างประเทศถ้าไม่ให้คนต่างชาติเข้ามาและคนไทยไปต่างประเทศพาโรคมากันก็ไม่เถิดโรคแน่นอนทำให้เดือดร้อนไปทั่ว
    04 เม.ย. 2563 เวลา 06.14 น.
  • ปชช.คนไทยส่วนใหญ่​ไม่มีโรค​ตายด้วยโรคปกติและโรคนี้มันมาจาก ปชช.ที่ไปเที่ยวต่างประเทศ​และชาวต่างชาติ​เอามาระบาด​ในรวามคิดส่วนตัว​
    04 เม.ย. 2563 เวลา 06.03 น.
  • บ่อยครั้งที่สื่อไม่กรองข่าว ปั่นหัวข้อข่าว มีข่าวปลอม ข่าวผิด คาบข่าว หรือแค่ความเห็นใครสักคน ก็เอามาเป็นข่าว หวังยอดวิว เมื่อข่าวมีคนแสดงความเห็นเม้นท์ถล่มกันเละ แชร์ข่าวไปเยอะ แต่ไม่ทันครึ่งวัน ก็มาแก้ข่าว/ข่าวแก้ แม้ต่อมาจะมีคนขอโทษ แต่ไม่ยอมรับผิดชอบ และสื่อก็ไม่ยอมโหมออกข่าวแก้ ถึงเวลาหรือยัง ที่สังคมออนไลน์จะรณรงค์ชะลอการแสดงความคิดเห็นคนแรก คือ ในแต่ละข่าวที่โพสต์ทุกเว็บ ให้ตั้งระบบอนุญาตให้เริ่มแสดงความคิดเห็นคนแรกได้ ก็ต่อเมื่อข่าวออนไลน์ไปแล้ว 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันสังคมเข้าใจผิด.
    04 เม.ย. 2563 เวลา 05.58 น.
ดูทั้งหมด