ต่างชาติโอด!! ระบบราชการไทยอืดฉุดโครงการลงทุนล่าช้า

นักลงทุนต่างชาติโอด!! ระบบราชการไทยอืด ทำโครงการลงทุนล่าช้า ไม่สนมี “เลือกตั้ง” หรือไม่ ยันพร้อมลงทุนไทยต่อเนื่อง

นายโทโมยาสุ ยามาเบะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชินวะ เรียลเอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือ ชินวะ กรุ๊ป กล่าวว่า ในฐานะนักลงทุนญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศไทย แม้สถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งยังไม่ชัดเจน แต่เราทำธุรกิจในประเทศไทยมาหลายปีเข้าใจสถานการณ์ได้ โดยเชื่อว่าหากมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ทุกอย่างนิ่งจะยิ่งส่งผลบวกต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี)

“คนญี่ปุ่นไม่ได้มองประเด็นการเลือกตั้งในไทยเป็นประเด็นในการลงทุน คนญี่ปุ่นไม่ได้รับทราบเรื่องสถานการณ์การเมือง หรือเลือกตั้งในไทย เต็มที่ก็รับรู้แค่ว่ามีการชุมนุม แต่ในส่วนของผมที่อยู่ประเทศไทยมานาน และทำธุรกิจมานานไม่ได้รู้สึกอันตรายใดๆ สำหรับคนญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่นผมไม่รู้ แต่ในฐานะที่ผมเป็นคนญี่ปุ่นในประเทศไทย ผมไม่กลัว”

อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจในประเทศไทยอุปสรรคใหญ่ คือ การทำงานที่ล่าช้าของระบบราชการและการดำเนินการด้านเอกสาร เช่น การทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ค่อนข้างล่าช้ามาก อาจใช้เวลาประมาณ 6 – 9 เดือนหรือมากกว่านั้น ต่างจากญี่ปุ่นใช้เวลา 2 – 3 สัปดาห์เท่านั้น หากล่าช้าที่สุดไม่เกิน 1 เดือน ประเด็นนี้ถือเป็นปัจจัยฉุดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก อย่างโครงการเรเนะสุ ทองหล่อ 5 ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบันประมาณ 3 ปี หากเป็นที่ประเทศญี่ปุ่นจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี 6 เดือนเท่านั้น ธุรกิจชนิดเดียวกัน หากเราไปดำเนินการที่ประเทศญี่ปุ่นจะใช้เวลาน้อยกว่ากันมาก คือใช้เวลาแค่ครึ่งเดียวของเวลาทั้งหมดที่ต้องใช้ในไทย

“คนญี่ปุ่นมองว่า ประเทศไทยยังมีโอกาสทางธุรกิจอยู่มาก แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้นำมาใช้ ขณะที่ความคืบหน้าในการทำงานแต่ละอย่างมันใช้เวลานานมาก ล่าช้ามาก หากรัฐบาลสามารถแก้ไขให้กระบวนการเร็วขึ้นได้ จะส่งผลให้เอกชนพัฒนาโครงการเร็ว มีรายได้ จ่ายภาษีเร็ว รัฐบาลมีเงินพัฒนาประเทศต่อไป เหมือนญี่ปุ่นจีดีพีใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกเพราะการดำเนินงานต่างๆเร็ว”

ด้านนายวิชัย จุฬาโอฬารกุล กรรมการบริหาร บริษัท ชินวะ เรียลเอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า การที่เราเป็นบริษัทจากญี่ปุ่นมาทำงานในประเทศไทยมองว่า การทำงานที่ยากสุด คือการทำงานกับภาครัฐ อย่างเช่น อีไอเอ คือสิ่งที่น่ากลัวมาก เพราะเป็นการตัดสินใจที่ไม่มีวิทยาศาสตร์รองรับ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากรัฐบาลใหม่ได้พิจารณาเรื่องมิติของการลงทุน และมีการปรับกระบวนการทำงานให้มันกระชับ เหมาะสมมันก็จะดีขึ้น เพราะถ้าปรับกระบวนการทำงานให้สั้นลง รัฐบาลก็ได้ภาษีเร็วขึ้น ได้นำเงินมาพัฒนประเทศได้เร็วขึ้น

“ส่วนประเด็นการเลือกตั้งนั้น เราไม่ได้มองเรื่องว่าเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง เรามองว่ามันจะเกิดความขัดแย้งกันหรือไม่ ต่อให้มีการเลือกตั้ง แต่ยังไม่เกิดความสงบในบ้านเมือง เลือกตั้งจบยังเกิดความขัดแย้งของคนสองฝั่งว่าฉันได้เธอไม่ได้อยู่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี”