เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 น.ส.ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ เลขาธิการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) เผยแพร่แถลงการณ์พีเน็ต ที่ 3/2563 เรื่อง “เลือกตั้งซ่อม สส.เขต 5 สมุทรปราการ ปลอดทุจริตหรือ” ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว โดยระบุว่า มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) ได้ทำหน้าที่สังเกตการณ์การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งซ่อมใน เขต 5 สมุทรปราการ โดยมีทีมทนายความและอาสาสมัครที่มีความเชี่ยวชาญในการสังเกตการณ์การเลือกตั้งมานานหลายสิบปี โดยไม่ได้รับการสนับสนุนการทำงานจากหน่วยงานใดๆ
ในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง พีเน็ตได้จัดทำใบปลิวและประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงทั้งดิจิตอล ให้ประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลและรายงานเมื่อพบเห็นสิ่งผิดปกติผ่าน QR Code ที่มีแบบฟอร์ม ให้กรอกรายละเอียดถึงเหตุที่อาจเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง และสังเกตการณ์ในวันลงคะแนนเลือกตั้ง ในการทำงานครั้งนี้ พีเน็ตได้รับรายงานส่อทุจริตผ่าน QR Code จากประชาชนกระจายครบทุกพื้นที่ พบเหตุมากที่ บางเสาธง คลองด่าน ศีรษะจระเข้น้อย ราชาเทวะ ศีรษะจระเข้ใหญ่ และบางบ่อ
โดยมีลักษณะการแจกเงิน ให้เต็มจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในบ้านนั้นๆ เป็นการให้แบบปูพรมไม่ถามอะไรมาก เอาเงินใส่มือให้ง่ายๆ ตัวเลขที่รับรายงานตรงกันหมดคือ 500 บาท เบอร์เดียวตรงกันหมด มีการเก็บบัตรประชาชน สัญญาว่าจะให้ เจ้าหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลาง พบการซื้อเสียงในรูปแบบของการขายล็อตเตอรี่โดยคนขายล็อตเตอรี่ (เสื้อสีแดง) ได้มอบเงิน 1,000 บาทพร้อมล็อตเตอรี่ให้แก่ผู้รับ (เสื้อสีดำขี่จักรยานยนต์) และหลังจากมีการบันทึกภาพคนขายล็อตเตอรี่ จึงทำการย้ายที่ออกไปจากบริเวณดังกล่าว
ผู้แจ้งเหตุรายหนึ่งกล่าวว่า มีการสอบถามคนในครอบครัวว่าได้เงินไหม ได้จากพรรคอะไร ได้กี่บาท ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า พรรค … ได้มาคนละ 500 บาท และได้ไปสอบถามคนอื่นๆ ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ทุกคนก็บอกเหมือนกันว่าได้คนละ 500 จากพรรคนี้ กรณีแจกเงินตามรายจำนวนเสียงตามบ้าน การล่ารายชื่อล่วงหน้า ให้เป็นรายหัว หัวละ 500 บ้านมี 5 คน ทั้งสิ้น 2,500 บาท กรณีมีคนในหมู่บ้านมาขอชื่อสมาชิกในบ้านเพื่อนำไปดูว่าควรได้เงินกี่คน
แล้วก่อนวันเลือกตั้งตอนเย็นประมาณ 18.30 น. มีคนซึ่งคนคนนี้ก็เป็นคนเดิมที่มาขอรายชื่อ แล้วนำเงินมายัดใส่มือคนละ 500 แต่ในที่นี้คือเขานำเงินรวมมาเป็นเงิน 10 คน คนละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 5,000 บาท กรณีมีคนในหมู่บ้านเดียวกันมาเรียกคนที่อยู่ในหมู่ 7 ซึ่งเป็นปีแรกที่เลือกตั้งได้เพราะอายุ 18 ปีพอดี เขามาถึงบอกว่าพรุ่งนี้ช่วยไปเลือกตั้งให้หน่อย ก็บอกว่าจะไปอยู่แล้ว เขาบอกว่าดีเลยงั้นช่วยๆ หน่อย เบอร์ … เขาขอมา พร้อมกับส่งเงินให้ 500 บาท แต่รับมาก็ไม่ได้เลือก เพราะเบอร์ … เป็นของพรรค …
อีกกรณีได้รู้ข่าวจากพ่อแม่ว่าครอบครัวอื่นได้รับเงินจากพรรค…ที่ส่งผ่านมาทางผู้ใหญ่บ้าน 1 คนในครอบครัวนั้นๆ ที่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้งจะได้รับเงินเป็นจำนวนเงิน 500 บาท ข่าวที่พ่อแม่รู้มานั้นมีชาวบ้านในหมู่บ้านที่ได้รับเงินบอกต่อๆ กันมา แต่ที่บ้านไมได้รับเงินที่ผู้ใหญ่บ้านนั้นใช้ซื้อเสียงให้ … มีคนโกงกินแบบนี้ในหมู่บ้านแล้วรู้สึกไมได้รับความเป็นธรรม
พีเน็ตได้พยายามสอบถามขอข้อมูลเพิ่มเติมไปยังผู้แจ้งเหตุตามหมายเลขมือถือที่แจ้งไว้ แต่บรรยากาศของความไม่เชื่อถือในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ประกอบกับความไม่มั่นใจในความปลอดภัย ทำให้ปฏิเสธที่จะไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ ในวันลงคะแนนเลือกตั้ง จากการลงพื้นที่ 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนหน่วยเลือกตั้ง พีเน็ตได้พบเห็นข้อผิดพลาดบางประการเกิดขึ้นจากการทำงานของกรรมการประจำหน่วยในหน่วยเลือกตั้ง
เช่น การที่กรรมการประจำหน่วยไม่ขอให้ผู้มาใช้สิทธิ์ถอดหน้ากากในขณะนำบัตรประชาชนมาแสดงตน เพื่อยืนยันว่าตนเป็นเจ้าของบัตรที่แท้จริง ซึ่งข้อนี้สุ่มเสี่ยงต่อการสวมรอยใช้สิทธิ์ โดยที่ก่อนหน้านี้มีข่าวการรวบรวมบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมาก มีกรณีที่ผู้มาใช้สิทธิ์จะขอนำทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนที่ถ่ายไว้ในโทรศัพท์มือถือเป็นหลักฐานเพื่อแสดงตนในการใช้สิทธิ์ จนเกิอบได้ใช้สิทธิ์แต่ถูกพีเน็ตทักท้วงไว้ได้
หรือการปล่อยให้มีการนำบัตรเลือกตั้งมาให้ผู้สูงอายุกาบัตรลงคะแนนที่ทางเข้าที่เลือกตั้งโดยอ้างว่าผู้สูงอายุเดินไม่ไหว พีเน็ตได้ทักท้วงไว้เพราะจะทำให้การกาบัตรเลือกตั้งไม่เป็นความลับ สุดท้ายกรรมการประจำหน่วยจึงให้ญาติพาผู้สูงอายุเดินเข้าไปกาบัตรที่คูหา ในช่วงก่อนปิดหีบเลือกตั้ง พีเน็ตพบเห็นเหตุการณ์ปะทะวาจากันอย่างเคร่งเครียดหน้าหน่วยเลือกตั้ง จึงเข้าไปตรวจสอบและช่วยคลี่คลายไกล่เกลี่ย พบว่า การปะทะทางวาจากันระหว่างเจ้าหน้าที่จาก รด. และผู้แทนพรรคการเมืองที่มาสังเกตการณ์นอกหน่วย มีเหตุมาจากการที่ต่างไม่ทราบบทบาทซึ่งกันและกันจนเกิดการเข้าใจผิด เกือบเป็นเรื่องราวที่อาจนำไปสู่การทะเลาะวิวาทหน้าหน่วยเลือกตั้ง
จากการทำงานของมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) ในฐานะพลเมืองอาสาสมัครที่ใส่ใจประสงค์ให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม การเลือกตั้งเป็นหลักประกันที่สะท้อนเสียงบริสุทธิ์ของผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ผู้เกี่ยวข้องต่างได้ทำหน้าที่อย่างมุ่งมั่นทุ่มเทด้วยใจที่มีหลักประชาธิปไตย จึงมีข้อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะต่อการเตรียมการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่น่าจะมีขึ้นในอีกไม่นานนี้ ดังนี้
1.พัฒนาระบบการป้องปรามปราบปรามการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ตลอดจนการทุจริตการเลือกตั้ง ให้เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจได้ 2.เตรียมมาตรการที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นกับสาธารณชน ว่า ผลของการซื้อสิทธิ์ขายเสีบงจะไม่มีอิทธิพลต่อผลการเลือกตั้ง และมีมาตรการที่ชัดเจน ที่จะทำให้การทุจริตเลือกตั้งลดน้อยลง 3.พัฒนาระบบการจัดการเลือกตั้ง ให้มีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่เป็นมืออาชีพ การบริหารจัดการหน่วยเลือกตั้ง
เพิ่มจำนวนหน่วยเลือกตั้งมากขึ้นให้สอดคล้องกับการระบาดของโรคที่ความเสี่ยงต่ำลงอย่างมาก ยกเลิกผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ไม่มีผลงานการทำงาน และสนับสนุนให้มีอาสาสมัครตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ และ 4 สนับสนุนให้องค์กรเอกชน ภาคประชาสังคม สถาบันวิชาการ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาทำให้การเลือกตั้งเป็นกลไกที่สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง
ดิเรก ตัวพีเน๊ตเองส่องกระจกบ้างน่ะจะได้รู้ใครรับจ้าง555
10 ส.ค. 2563 เวลา 15.10 น.
ดิเรก พีเน๊ตมีที่ไหนไม่ซื้อเสียงการซื้อเสียงเป็นเรื่องธรรมดาขอคนไทยบ้างกลุ่มแล้วจะมาโวยวายทำไหมก็ขายสิมธิต่างๆให้เค้าไปแล้ว
10 ส.ค. 2563 เวลา 15.09 น.
Sombat ได้รับเงินต่างชาติมาโจมตีประเทศ เขาเรียกว่าขายชาติอะ
10 ส.ค. 2563 เวลา 11.36 น.
AquAduCkbiRd หลักฐานโกงเยอะแยะมากเลย เป็นรูปถ่าย วิดีโอ แต่ กกต ที่ คสช เลือกมาบอกว่าไม่ ผิด เห้ เอาพวกเข้าไปหากอนกันต่อไป
10 ส.ค. 2563 เวลา 11.32 น.
adul เอาคนร้องเอาหลักฐานมาอย่าออกมาเห่าอย่างเดียว
10 ส.ค. 2563 เวลา 11.27 น.
ดูทั้งหมด