หลายคนอาจจะคุ้นกับชื่อ เมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) ที่อยู่ตอนบนสุดของจังหวัดฟุกุโอกะ(Fukuoka) ถ้าได้เดินทางมาจากเกาะฮอนชูโดยทางบกและทางทะเลจะต้องผ่านเมืองนี้แน่นอน
เพราะหลังจากข้ามช่องแคบคัมมง (Kammon Straits) เมืองคิตะคิวชูตั้งอยู่ทางด้านเหนือสุดของเกาะคิวชูเป็นเสมือนด่านแรกของเกาะนี้ เมื่อมาถึงจะรู้สึกถึงความคุ้นตากับบรรยากาศของที่นี่ เพราะภาพวิวทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองนี้ โดยเฉพาะบริเวณท่าเรือและสถานีโมจิโกะ ที่มักจะถูกนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ อยู่บ่อยๆ นั่นเอง
พิพิธภัณฑ์มังงะคิตะคิวชู (Kitakyushu Manga Museum)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนอาคาร Aruaru City เป็นสถานที่จัดแสดงการ์ตูนมังงะ โดยเน้นการ์ตูนมังงะที่เขียนโดยนักเขียนการ์ตูนที่มีความเกี่ยวพันกับเมืองคิตะคิวชู พิพิธภัณฑ์จะมีการจัดแสดงแบบหมุนเวียนและแบบถาวร แล้วยังมีหนังสือการ์ตูนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันให้อ่านตามใจชอบ
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและมนุษย์แห่งคิตะคิวชู (Kitakyushu Museum of Natural History & Human History)
พิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก มีการจัดแสดงการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์โดยใช้สื่อผสม และโครงกระดูกไดโนเสาร์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้มีความเหมือนจริงและน่าสนใจ อีกทั้งยังมีคอลเล็กชั่นสัตว์ในยุคโบราณที่หาชมได้ยาก
ภูเขาซาระกุระ (Mount Sarakura)
การขึ้นไปยังจุดชมวิวเราต้องนั่งเคเบิลคาร์ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นตะวันตกต่อด้วยสโลปคาร์ เพราะที่นี่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 622 เมตร ระหว่างขึ้นไปเราสามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติที่แตกต่างตามฤดูกาล เมื่อขึ้นไปแล้วจะมองเห็นเมืองคิตะคิวชู เกาะโอกิโนะชิมะ สะพานคัมมง และ สะพานใหญ่วาคาโตะ
ร้านปลาปักเป้าเทงกะ (Tenka)
ในสมัยก่อนมีคนที่เสียชีวิตจากพิษของปลาปักเป้าจึงมีคำสั่งห้ามคนญี่ปุ่นรับประทาน จนกระทั่งมีการยกเลิกคำสั่งห้ามปลาปักเป้าเฉพาะใน จ.ยามากุจิ แต่ต้องมีการสอบใบอนุญาตอยู่เรื่อยๆ จึงทำให้ผู้คนจากที่อื่นหลั่งไหลมากินปลาปักเป้าที่นี่ จึงกลายเป็นจุดกำเนิดของวัฒนธรรมการกลับมาบริโภคปลาปักเป้าตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ทั้งนี้เขตโมจิโกะ เมืองคิตะคิวชู จ.ฟุกุโอกะ ที่อยู่ใกล้กันจึงรับวัฒนธรรมนั้นมาด้วย
ท่าเรือโมจิโกะ (Mojiko port)
ท่าเรือแห่งนี้เป็นจุดเชื่อมระหว่างเกาะฮอนชูมายังเกาะคิวชู เคยเป็นท่าเรือที่ติดต่อค้าขายกับนานาประเทศ ในปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งในโซนนี้ เพราะมีการอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์รอบๆท่าเรือ