วิษณุ เรียก‘อธิบดีป่าไม้-ส.ป.ก.’ สางที่ดิน ปารีณา โยนกฤษฎีกา ลั่นไม่ปกป้องคนผิด
ปารีณา / เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เชิญนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฎิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ ว่าที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าหารือเพื่อหาข้อยุติ กรณีที่ดินของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายอรรถพล ให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า หลังจากคณะทำงานของกรมป่าไม้กับส.ป.ก.หารือกันช่วงเช้าวันที่ 11 ธ.ค. เกี่ยวกับเรื่องสถานภาพพื้นที่ รวมถึงแนวทางปฏิบัติว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ในวันเดียวกัน นายวิษณุได้เชิญมาหารือในข้อกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ อันที่จริงท่านได้ให้ข้อมูลไปแล้วถูกต้องครบถ้วน แต่อาจนำเสนอข่าวที่ไม่ตรง
นอกจากนั้นยังได้พูดคุยประเด็นเรื่องการคืนที่ดิน ซึ่งต้องพิจารณาไปพร้อมกับพิจารณาสถานภาพของพื้นที่เดิมว่าเป็นไปตามกฎหมายใด ก็ต้องว่าไปตามกฎหมายนั้น แต่ที่ผ่านมาอาจมีความคลาดเคลื่อนของการนำเสนอข่าว ทำให้ถูกมองว่านายวิษณุ ระบุว่าแค่คืนอย่างเดียว ก็ไม่ต้องดำเนินอย่างอื่น
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ดังนั้น วันนี้จึงมาคุยกันในข้อกฎหมายกับทางคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย โดยหารือเรื่องสถานภาพของพื้นที่ว่าจะยึดหลักการพิจารณาดำเนินการอย่างไรที่จะเข้าข้อกฎหมายของส.ป.ก. หรือเข้าข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องที่ดินของกรมป่าไม้ ซึ่งตรงนี้มี 3 ประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อยุติ คือ
1.ต้องดูคำจำกัดความการดำเนินการที่จะพิจารณาว่าพื้นที่นั้นๆ ได้เข้าไปทำกิจกรรมหรือจัดรูปที่ดินตามพระราชกฤษฎีกาปฏิรูปที่ดินแล้วหรือยัง
2.สมมติว่าถ้ามีการทำผิดแล้วสถานภาพพื้นที่กลับมาเป็นพื้นที่เดิมคือ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ควรจะดำเนินอย่างไร และ
3. หากมีการดำเนินคดี ใครจะเป็นหน่วยงานหลักที่จะเข้าไปดำเนินการ ซึ่งตรงนี้ได้ข้อยุติพอสมควรแต่ขอให้รอความเห็นจากการพิจารณาของกฤษฎีการะบุออกมาก่อน ก็จะได้ข้อยุติ
“นายวิษณุพูดถูกแล้วว่าให้คืน แต่ในส่วนของที่ดิน ถ้าอยู่ภายใต้กฎหมายใดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายนั้น เพื่อความรอบคอบ ให้ไปยุติที่ความเห็นของกฤษฎีกา ถ้าต้องบังคับใช้กฎหมายก็ต้องใช้ ไม่ใช่คืนที่ไปแล้วไม่ผิด ท่านไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่กระบวนการคืน เป็นการคืนตามพ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดิน แต่ที่ดินตรงนั้นมีสถานภาพอย่างไรต้องดูกฎหมายด้วย เมื่อได้พูดคุยกันแล้วก็เคลียร์”นายอรรถพลกล่าว
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเอาผิดทางอาญากับน.ส.ปารีณาได้ นายอรรถพล กล่าวว่า รอความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งไม่น่าจะนาน เพราะทำหนังสือไปถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว
เมื่อถามย้ำว่าคดีของน.ส.ปารีณา ไม่มีทางหลุดพ้นความผิดได้ใช่หรือไม่ อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวย้ำว่า รอความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าให้ความเห็นมาอย่างไร ถ้าเข้าหลักเกณฑ์การบังคับใช้กฎหมาย กรมป่าไม้ก็พร้อม
เมื่อถามว่าหากความเห็นของกฤษฎีกาออกมาตรงข้ามกับสิ่งที่กรมป่าไม้เคยไปแจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.ปารีณาจะทำอย่างไร นายอรรถพล กล่าวว่า ก็ต้องเคารพความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่พื้นที่ 46 ไร่ที่รุกป่านั้น มีความผิดฐานเดิมอยู่แล้ว ซึ่งดำเนินคดีไปเรียบร้อยแล้ว ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ส.ป.ก.
เมื่อถามว่าก่อนหน้านั้นส.ป.กเคยยอมรับว่าที่ดิน 682 ไร่อยู่ในความรับผิดชอบของส.ป.ก. แต่ทำไมตอนนี้เกิดปัญหาความไม่ชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอำนาจของใคร อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ต้องตีความกันก่อน ว่าที่ตรงนี้อยู่ในสถานภาพอะไร ขอให้กฤษฎีกาตีความให้ได้ข้อยุติก่อน
ประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับการเข้าไปดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวกับกฎหมายปฏิรูปที่ดิน จึงต้องให้ได้ข้อยุติชัดเจนก่อน และตามกฎหมายที่ตีความไว้สถานภาพเป็นอะไร และก่อนจะบังคับใช้กฎหมายอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และความรัดกุมของการดำเนินคดี ต้องหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายก่อน
เมื่อถามว่าเคยมีกรณีพื้นที่ที่โอนไปให้แล้วแต่ยังไม่มีการจัดสรร จนเกิดกรณีการบุกรุกที่ป่าหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า มี แต่เรื่องแบบนี้ต้องดูเฉพาะราย เพราะแต่ละรายเข้าไปครอบครองพื้นที่ที่แตกต่างกัน และในเวลาที่แตกต่างกัน จึงต้องดูกฎหมายในช่วงเวลานั้นๆ
เมื่อถามย้ำว่ากรณีมีนักการเมือง หรือผู้มีอิทธิพลที่ยื่นเสียภาษี ภบท.5 จะเป็นที่ป่าหรือที่ส.ป.ก. นายอรรถพลกล่าวว่า ต้องดูว่าเป็นการเข้าไปครอบครองแบบไหน แต่โดยสถานภาพหากไม่มีเอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดินถือว่าเป็นที่ดินของรัฐ แต่ก็ต้องไปตรวจว่ามีสิทธิ์ครอบครองที่ดิน และได้มาอย่างไรด้วย และทั้งประเทศก็ยังมีอีกเยอะ
ตอนนี้ ไม่อยากให้กังวล เพราะประชาชนประสานมาจำนวนมาก ว่าถือครองที่ดินภบท. 5 แล้วผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งที่จริงแล้วอาจจะไม่ได้ผิดทั้งหมด ที่ถูกก็มี 2 ประเภท คือ ภายใต้ประมวลกฎหมายที่ดิน มีโฉนด นส. 3 ก. โฉนดตราจอง หรือใบจอง แต่โฉนดอีกแบบมีสิทธิ์ครอบครองโดยชอบธรรม แต่อาจยังไม่รับสิทธิ์ในการจับที่ดิน หรือกรมที่ดินอาจยังสำรวจไปไม่ถึง แต่จะบอกว่าเอา ภบท. 5 มายืนยันว่าที่ดินของคุณถูกต้องตามกฎหมายนั้น ไม่ได้
เมื่อถามว่ากรณีน.ส.ปารีณา ต่างกับชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีอย่างไร นายอรรถพล กล่าวว่า คนละรูปแบบ ต้องถามว่าชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุก บุกรุกแบบไหน ส่วนใหญ่ที่เราเข้าไปดำเนินการก็เป็นการบุกรุกใหม่ ส่วนชาวบ้านที่ไปบุกรุกที่ส.ป.ก.เราไม่เคยเข้าไปดำเนินการ เรารับผิดชอบเฉพาะพื้นที่ป่าสงวนและป่าไม้ ไม่จับชาวบ้านที่อยู่ในเขตส.ป.ก.
เมื่อถามย้ำว่าความเห็นของคนในรัฐบาลส่วนใหญ่ดูเหมือนจะโอบอุ้มน.ส.ปารีณา จะส่งผลต่อการดำเนินงานหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า เราทำไปตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนเรื่องจริยธรรมของส.ส. ที่ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ตนไม่มีอำนาจออกดุลพินิจในเรื่องนี้
อ่านข่าว ‘เรืองไกร’ หอบแผนที่ แฉพิรุธ 6 ข้อ ที่ดิน ‘ปารีณา’ ยังไม่มีรังวัด จี้ ‘ประยุทธ์’ อย่าเพิกเฉย
HS4JGI 65MEDICAL ถ้า สส.ไม่ผิด ประเทศเราก็ไม่มีอะไรที่ควรเคารพอีกต่อไป
11 ธ.ค. 2562 เวลา 12.41 น.
k. Anurat ก็มึงเป็นคนบอกเองไม่ผิดปากมึงไวไปป่ะอวดรู้ทุกเรื่อง เก่งทุกเรื่อง
11 ธ.ค. 2562 เวลา 12.03 น.
Picky วิษณุออกมาแก้ตัว
11 ธ.ค. 2562 เวลา 12.07 น.
Chatchanok สงสารชาวบ้านตาดำๆ
11 ธ.ค. 2562 เวลา 12.41 น.
เรียกมายอมความ
11 ธ.ค. 2562 เวลา 12.36 น.
ดูทั้งหมด