“สมคิด”สั่งเกษตรฯเร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรรับอุดหนุนจำนำยุ้งฉาง เร่งปรับแผนปฏิรูปเกษตรเฟส 1 ส.ค.นี้ จ่อชงมาตรการพักหนี้เอาใจเกษตรกร 3 ล้านคน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและรับฟังรายงานความคืบหน้าของผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า เนื่องจากรัฐบาลเหลือเวลาทำงานเพียงแค่ 7 -8 เดือน ก็อยากจะให้การทำงานคืบหน้าไปด้วยความรวดเร็ว โดยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) มีมาตรการช่วยเหลือเกษตกรหลายอย่างเพื่อผลักดันให้ราคาข้าวสูงขึ้น เช่นการรับจำนำข้าวในยุ้งฉาง ซึ่งถือว่เป็นมาตรการที่ดี ดังนั้นจึงขอให้กระทรวงเกษตรฯ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งการลงทะเบียนเกษตรกร เพื่อที่ชาวนาจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลให้เร็วที่สุดโดยให้ทางเกษตรจังหวัด และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันลงไปบอกข่าวแก่เกษตรกร
“ส่วนชาวนาที่ไม่มียุ้งฉาง จะทำอย่างไรให้สามารถมาลงทะเบียน และระบายข้าวโดยไม่ต้องมีข้าวตกค้างไว้ ซึ่งอาจให้สหกรณ์ต่างๆ เช่ายุ้งฉางและโกดัง เพื่อให้ข้าวขาวในภาคกลางมีโอกาสเข้าร่วมโครงการนี้ ในขณะที่สหกรณ์ที่มีโครงสร้างพื้นฐานจากรัฐ เช่น โรง อบ ลานตาก เหล่านี้ต้องให้สมาชิกเข้ามาใช้ด้วย”
สำหรับโครงการปฎิรูปภาคการเกษตรฯ โดยใช้หลักการตลาดนำการผลิตจะเริ่มเฟสที่ 1 ได้ในกลางเดือน ส.ค.นี้ โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอแผนมาแล้ว เช่น ลดการปลูกข้าวนาปรัง เพือปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่ใช้น้ำน้อยแทน ได้แก่ ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ส่วนทางภาคใต้ อยากให้ดูเรื่องผลไม้เป็นหลักและพยายามอย่าให้เกิดต้นทุนกับผู้ที่อยากเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิต ลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด เพราะถ้าต้องรับความเสี่ยงไม่มีใครอยากปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น
“ภาคเอกชนได้มาประสานกับทางผมแล้วว่าจะให้ความร่วมมือเต็มที่ รวมทั้งล้งต่างๆ จะเข้าหารือสถานการณ์ตลาดร่วมกับรัฐบาล แล้ววางแผนร่วมกัน อย่างตอนนี้กระทรวงพาณิชย์สามารถหาตลาดล่วงหน้าของลำใยได้ ดังนั้นสินค้าทุกตัวที่จะให้ทำการปลูกแทนที่ เขาจะต้องเตรียมไว้ล่วงหน้าโดยจะเริ่มเฟสแรกประมาณ ส.ค.นี้” นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ในเรื่องของระบบสหกรณ์ ปัจจุบันมีสหกรณ์การเกษตรประมาณ 800 แห่ง ที่มีความเข้มแข็งสามารถเป็นที่พึ่งของเกษตรกรได้ จึงสั่งให้กระทรวงเกษตรฯ ทำแผนพัฒนาสหกรณ์กลุ่มนี้ให้แข็งแรงขึ้น โดยให้กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดประชุมทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง และขอความร่วมมือกับธนาคารของรัฐบาล เช่น ธ.ก.ส. ออมสินมาช่วยสนับสนุนขณะที่ปัญหาสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งมีเงินทุนจำนวนมากและมีการลงทุนหลักทรัพย์นั้น ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติให้มีการทำหลักเกณฑ์ การลงทุน แต่ยังอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงเกษตร ดังนั้นกำกับให้เป็นไปตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยควรตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาดุแลเป็นการเฉพาะ ร่วมด้วยกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อทำให้การบริหารงานของสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายสมคิดเห็นด้วยกับมาตรการที่การยางแห่งประเทยไทย (กยท.) เสนอขอเพิ่มพื้นที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกยางจากปีละ 4 แสนไร่ เป็น 6 แสนไร่ โดยยางที่ปรับเปลี่ยนต้องเป็นยางที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป และคาดว่าการปรับเปลี่ยนพื้นที่นี้จะทำให้ราคายางเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า กิโลกรัม (กก.)ละ 60 บาท
ส่วนเรื่องปฏิรูปการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ เสนอปรับเปลี่ยนการทำนาปรังครั้งที่ 2 และ 3 ไปปลูกพืชอื่น ได้แก่ ข้าวโพด และมันสำปะหลัง รวม พื้นที่ 2 ล้านไร่ โดยให้พิจารณาตามความหมาะสมของดิน รวมไปถึงการทำตลาดกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์จะเชิญภาคเอกชนที่จะต้องการรับซื้อข้าวโพด มันสำปะหลัง และผลไม้อื่นๆ ร่วมกำหนดเป้าหมายการรับซื้อแต่ละปี ส่วนพืชที่กำลังมีปัญหาเนื่องจากผลผลิตมาก เช่น มังคุด ลองกอง ลำไย เป็นต้น ต้องเร่งหารือกับผู้รับซื้อว่ามีเป้าหมายตลาดเท่าไหร่
“นายสมคิด มองว่า หากสามารถจัดส่งผลไม้ไปถึงมือผู้บริโภคแบบเดลี่เวอรี่ ได้ในกรุงเทพหรือเมืองใหญ่ๆ ก็จะช่วยแก้ปัญหาล้นตลาดได้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ มีความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยได้แล้ว ดังนั้นจึงให้ทั้ง 2 หน่วยงาน หารือกับผู้ประกอบการ เพื่อเร่งดำเนินการตามแผนให้เร็วที่สุด คาดว่าจะเริ่มต้นได้ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ส่วนในวันที่ 15 ส.ค.61 รองนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาตรวจสอบอีกครั้ง ”
ส่วนทางด้านนายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ยางที่จะโค่นได้ จะเป็นต้นเก่าที่กรีดเกินกว่า 25 ปีขึ้นไป และยางใหม่ที่เพิ่งปลูกได้ 7 ปีรหรือมากกว่านั้นในพื้นที่ไม่เหมาะสม ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3-4 ล้านไร่ คตามแผนการนี้จะโค่นทิ้งให้หมดภายใน 5 ปีนี้จะใช้เงินจากการเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษจากการส่งออกยาง(เซส) ชดเชยไร่ละ 1.6 หมื่นบาท หากประสบผลสำเร็จจะช่วยให้ราคายางปรับเพิ่มขึ้นกก.ละ 10 บาท กรณีเงินเซสไม่พอจะของบประมาณจากรัฐบาล
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวระบุอีกว่า ที่ประชุมได้ร่วมหารือกับ นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงค์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ นายบุญยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งทั้งหมดได้ร่วมหารือกันคาดว่าจะหารือเรื่องของการพักหนี้เกษตรกร 3 ล้านคน คาดว่าจะต้องมีการหารือในรายละเอียดและนำเสนอต่อ ครม.ก่อนจึงจะสามารถประกาศได้อย่างเป็นทางการ เร็วๆนี้
Pong_U เออ! หันมาดูแลภาคไมโครบ้าง อย่ามัวแต่เพ้อเจ้อน้ำลายแตกฟองไปวันๆ
18 ก.ค. 2561 เวลา 00.26 น.
กำนันตี ยอดเยียมมากเลย พูดดีมากๆ ได้แตพูดทำ ไม่ได้เลยมาจะเป็นปีแล้ว ราคายางพารา ข้าว ถูกทุกวัน. สมชื่อจริงๆสมคิด
17 ก.ค. 2561 เวลา 10.19 น.
มีความสามารถแค่นี้ พูดจำอวดบนเวที พูดให้ดูดีด้วยมโนและน้ำเสียงอลังการ์ โยงอ้างประเทศใหญ่ๆโน้นนี่ แต่การลงมือทำอยู่กับที สุดท้ายก็ใช้เงินภาษีไปโป๊ะ กระจอกมาก
17 ก.ค. 2561 เวลา 07.30 น.
ร.ต.บัญญัติ ข.ธัญญา ผลผลิตข้าวและฯลฯ ถูกเพราะ ถูกนำเข้ามาด้วยต้องแก้ไข!!!
ผู้บริโภค ก็หารู้ไม่ว่า ผลิตจากต่างประเทศ ที่นำเข้ามานั้น"ถูกจริง"แต่
สารเคมี # ความปลอดภัย ในการบริโภคนั้นไม่มี
17 ก.ค. 2561 เวลา 04.53 น.
ร.ต.บัญญัติ ข.ธัญญา ข้าวถ้าชลอการขายข้าว ได้นั้นดี เพราะราคาดีขึ้น #แต่ ปัญหาอยู่ที่ ไม่มียุ้งฉาง ที่เก็บผลผลิต ข้าว ของปีถัดไป เพราะการทำนา ต้องทำทุกๆปี เมื่อ ถึงฤดูกาลทำนา จาก ชาวนา🐂🐃
17 ก.ค. 2561 เวลา 04.48 น.
ดูทั้งหมด