หมอเผยตัวอย่างเคสคนไข้ป่วยอาการท้องผูก 3-4 วัน ถ่ายสักครั้ง ทายยาระบายบ่อย มีอาการปวดท้อง ท้องอืดมาก ต้องผ่าตัดฉุกเฉินตัดลำไส้บางส่วนที่โป่งพองทิ้งไปแล้วต่อลำไส้ใหม่ ระบุอันตรายมากควรเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. เฟซบุ๊ก "Arak Wongworachat" หรือ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เปิดเผยเรื่องราวท้องผูกเรื้อรังจนลำไส้อุดตัน ซึ่งระบุรายละเอียดคนไข้อายุ 68 ปี มีอาการท้องผูก 3-4 วัน จึงถ่ายสักครั้ง โดยพบว่ามีอุจจาระแข็ง ต้องออกแรงเบ่ง จึงกินยาระบาย สวนสบู่เป็นประจำ จนในที่สุดเกิดลำไส้อุดตัน ปวดท้อง ท้องอืดมาก ต้องผ่าตัดฉุกเฉิน ตัดลำไส้บางส่วนที่โป่งพองอย่างมากทิ้งไป แล้วต่อลำไส้ใหม่ ท้องผูกเรื้อรัง จึงไม่ใช่ภาวะปกติที่จะปล่อยวางได้
ทั้งนี้ พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันบางอย่างหรือปัจจัยบางประการอาจเอื้อต่อการเกิดอาการท้องผูกได้ง่ายมากขึ้น เช่น การอั้นอุจจาระ รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อย น้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไป ดื่มน้ำน้อย ความเครียดหรือความกดดัน โรคทางจิตเวช ปัญหาทางด้านจิตใจ มีภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ อยู่ในวัยผู้สูงอายุ
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดลำไส้ใหญ่ออก มักใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยท้องผูกจากภาวะที่ลำไส้เคลื่อนไหวช้า หรือโป่งพองจนไม่สามารถบีบรัดตัวได้แล้ว ที่รักษาโดยการรับประทานยาแล้วไม่ได้ผลและมีความผิดปกติชัดเจนของกล้ามเนื้อและระบบประสาทของลำไส้ที่ได้รับการตรวจยืนยันชัดเจนแล้ว โดยวิธีนี้ต้องผ่านการพิจารณาจากแพทย์เฉพาะทางผู้ชำนาญการเท่านั้น
ด้าน การฝึกการขับถ่าย (Biofeedback Training) สอนให้ผู้ป่วยขับถ่ายอย่างถูกวิธีด้วยเครื่องมือที่แสดงการทำงานของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการขับถ่าย ซึ่งสามารถแสดงผลกล้ามเนื้อเชิงกรานและกล้ามเนื้อหูรูดบริเวณทวารหนักทั้งหมดของผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงวิธีการขับถ่ายที่ถูกต้อง ทั้งท่าทาง การหายใจ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อหูรูด และการรับรู้ความรู้สึก โดยจะทำการฝึกทั้งหมด 6 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 - 40 นาที วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้ผลในระยะยาว เมื่อทำอย่างต่อเนื่องจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องรับประทานยา รวมถึงการจัดท่านั่งที่เหมาะสมต่อการขับถ่าย
โดย สามารถปรับพฤติกรรม ได้แก่ ขับถ่ายอุจจาระเมื่อรู้สึกครั้งแรก อย่ารอจนสัญญาณการขับถ่ายอ่อนลง นั่งขับถ่ายในท่านั่งที่เหมาะสม รับประทานผักผลไม้ที่มีกากใย ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ ดื่มน้ำในปริมาณที่มากเพียงพอ
chaiyasit คนส.ว.จะถ่ายยาก ความรู้สึกอยากถ่ายตอนเช้ามันน้อยลง ถ้ากินพวกผักที่ช่วยระบายบ้างจะลดการใช้ยาได้ เช่นมะละกอ แกงส้มที่มีมะขามเปียกบ้าง ขี้เหล็ก ใบช้าพลู
19 ส.ค. 2562 เวลา 09.37 น.
sri ทานนำ้มะขามคั้นกับนำ้ต้มสุก ชิมรส พอทานได้ ผักต้มเปื่อย ผลไม้ ที่มีกากใย ทานนำ้เยอะ ออกกำลังตามวัย
สำคัญ ต้องทานผัก ให้มาก นึ่ง ต้ม ลวก ผัดนำ้มัน นานๆครั้ง คนสูงอายุ ต้องใส่ใจสุขภาพ
19 ส.ค. 2562 เวลา 09.48 น.
ดูทั้งหมด