ถ้าหากพูดถึง “หมูกระทะ” คนไทยคงแทบไม่มีใครที่ไม่รู้จักใช่ไหมครับ เพราะสำหรับบ้านเราหมูกระทะนั้นก็เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง และหาได้ง่าย มีแทบจะทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ซึ่งประวัติความเป็นมาของหมูกระทะในไทยนั้น แม้จะยังมีที่มาที่ไม่แน่ชัด บ้างก็ว่ามาจากเกาหลี เพราะหมูกระทะในบ้านเราตอนแรก ๆ ถูกเรียกว่า “หมูย่างเกาหลี” หรือบ้างก็ว่ามาจาก “เนื้อย่างเจงกีสข่าน” ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นหมูกระทะแบบที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน
ในญี่ปุ่นนั้น คนญี่ปุ่นค่อนข้างคุ้นเคยกับอาหารที่ใช้กระทะย่างอยู่แล้ว เพราะที่ญี่ปุ่นก็มีหลายเมนูที่ทำจากกระทะย่าง ไม่ว่าจะเป็นเตาเทปัน หรือเตาย่างเนื้อแบบยากินิคุ แต่สิ่งที่ดูแล้วน่าจะใกล้เคียงกับเตาหมูกระทะมากที่สุดก็คือ ジンギス鍋 หรือหม้อเจงกีส ที่คนไทยอาจจะรู้จักกันในชื่อของ “เนื้อย่างเจงกีสข่าน” นั่นแหละครับ
ประวัติความเป็นมาของเนื้อย่างเจงกีสข่านในญี่ปุ่นก็มีที่มาที่ไม่ชัดเจนเหมือนกัน บ้างก็ว่ามาจากมองโกลจริง ๆ แต่บ้างก็ว่าแค่เลียนแบบรูปทรงของหมวกทหารมองโกล แต่ไม่ว่ามันจะมาจากไหน เอาเป็นว่าเจ้าเนื้อย่างเจงกีสข่านนี้ก็กลายเป็นอาหารท้องถิ่นของฮอกไกโด จังหวัดที่อยู่เหนือสุดของญี่ปุ่นมาตั้งแต่ราว ๆ 70-80 ปีก่อนแล้ว
แม้เราจะเรียกว่าเนื้อย่างเจงกีสข่าน แต่จริง ๆ แล้วถ้าพูดถึง “เจงกีสข่าน” ในฮอกไกโดนั้น จะหมายถึงเนื้อเนื้อแกะย่างเท่านั้นนะครับ โดยเขาจะนำเอาผักมาย่างด้านข้างแล้วนำเอาเนื้อแกะมาย่างด้านบนเตาที่นู้น ๆ (ด้านข้างไม่ได้ใส่น้ำซุปแบบหมูกระทะบ้านเรานะ !) โดยจุดเด่นของหม้อย่างเจงกีสข่านนี้ก็คือไขมันและน้ำมันในเนื้อของเนื้อแกะที่ถูกย่างอยู่ข้างบนก็จะไหลลงมารวมกับผักที่ย่างเอาไว้รอบ ๆ ทำให้เกิดรสชาติที่อร่อยนั่นเอง
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอิทธิพลของหม้อเจงกีสข่านหรือเปล่า แต่เตาย่างหมูกระทะในไทยก็มีลักษณะคล้าย ๆ กัน แต่เปลี่ยนเป็นการใส่น้ำซุปเอาไว้ด้านข้างแทน และตอนนี้วัฒนธรรมทางอาหารที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปนี้ก็ได้ถูกส่งกลับมาที่ญี่ปุ่นในชื่อของ「ムーガタ」อ่านว่า “มูกะตะ” ซึ่งก็คือ “หมูกระทะ” นั่นเอง
คนญี่ปุ่นในปัจจุบันค่อนข้างคุ้นเคยกับอาหารไทยมากขึ้น แน่นอนว่าสิ่งยอดฮิตก็หนีไม่พ้นต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ข้าวมันไก่ ผัดไทย ฯลฯ รวมถึงสิ่งที่เป็นกระแสในญี่ปุ่นอย่าง “ผักชี” และรสชาติที่เผ็ดร้อนของพริก ความมันของกะทิ กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำปลา ทั้งหมดนี้ก็เป็นภาพจำของคนญี่ปุ่นที่มีต่ออาหารไทย
ตอนนี้เจ้าหมูกระทะก็ได้ถูกส่งข้ามจากประเทศไทยมายังญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ทั้งรายการโทรทัศน์รวมถึงสื่ออื่น ๆ ของญี่ปุ่นก็ดูเหมือนจะให้ความสนใจกับอาหารไทยชนิดนี้มากพอสมควร แน่นอนว่าถ้าพูดถึงคำว่า “มูกะตะ” คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็ต้องทำหน้างงว่ากำลังพูดถึงอะไร มันฟังดูเหมือนแมลงอะไรซักอย่างมากกว่าอาหาร แต่ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นที่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมธรรมไทย และเคยมาเที่ยวไทย ก็คงจะรู้จักกับหมูกระทะที่มีอยู่ทุกซอกทุกมุมในเมืองไทยเป็นอย่างดี
ในตอนนี้ “มูกะตะ” ในญี่ปุ่นนั้นก็อาจจะมีความแตกต่างกับหมูกระทะในไทยไปซักหน่อยเนื่องจากก็ต้องพยายามปรับให้เข้ากับคนญี่ปุ่น โดยเราจะเห็นว่า “มูกะตะ” ในญี่ปุ่นนั้นจะไม่ได้เป็นหมูกระทะบุฟเฟต์ราคาถูกที่กินได้ไม่อั้นเหมือนบ้านเรา แต่จะเป็นเมนูที่อยู่ในร้านอาหารไทยบางร้าน ขายเป็นเซ็ตที่จะประกอบไปด้วยผักและหมู พร้อมกับเตาย่างที่ดูแล้วหน้าตาเป็นเตาทองเหลืองเหมือนร้านปิ้งย่างในห้างบ้านเรามากกว่าหมูกระทะในร้านริมทาง
วิธีกินก็จะผสมผสานระหว่างเนื้อย่างเจงกีสข่าน ยากินิคุ และชาบูชาบู โดยการนำผักไปต้มในด้านข้าง แล้วก็ย่างหมูด้านบนให้น้ำมันในหมูไหลลงมาในน้ำซุปให้ผักอร่อยขึ้น และสามารถนำเอาหมูมาจุ่มลวกในน้ำซุปได้เหมือนชาบูชาบูอีกด้วย
ที่สำคัญคือเขาบอกว่า “มูกะตะ” สามารถนำมากินคู่กับผักชีได้อีกด้วย กินแล้วซาบซึ้งถึงรสชาติแบบไทย ๆ จริง ๆ นะ (คนไทยเห็นแบบนี้อาจจะแทบเอาหัวโขกโต๊ะ นี่มันผิดผีผิดเหล่ามาก จะกินหมูกระทะกับผักชีแบบนี้ได้ยังไงฮึ !)
คนญี่ปุ่นที่ได้ลองกินไม่ว่าจะเป็นหมูกระทะในไทย หรือมูกะตะในญี่ปุ่นก็ค่อนข้างชื่นชอบกันมาก นั่นเป็นเพราะว่าคนญี่ปุ่นคุ้นเคยกับอาหารที่ใช้หม้อหรือเตาย่างในการทำอาหารแบบนี้อยู่แล้ว ทำให้ก็แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรใด ๆ เรียกว่ากินง่ายกว่าต้มยำกุ้งซะอีก แล้วที่สำคัญคือหมูกระทะนั้นมีลักษณะเป็นอาหารแบบไฮบริด ผสมผสานระหว่างยากินิคุและชาบูชาบู ทำให้มันเหมือนเป็นสิ่งที่ลงตัวสำหรับคนญี่ปุ่นที่สามารถกินทั้งยากินิคุและชาบูชาบูไปพร้อม ๆ กันแบบที่บ้านเขาไม่เคยมีมาก่อน !
แล้วยิ่งคนญี่ปุ่นที่เคยมาเจอหมูกระทะของจริงในบ้านเราก็ยิ่งน่าทึ่ง เพราะปัจจุบันหมูกระทะในบ้านเรานั้นไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่การเอาหมูมาย่างบนเตาอีกต่อไปแล้ว แต่หมูกระทะโดยทั่วไปในบ้านเรานั้นมันเหมือนจะกลายเป็นอาหารบุฟเฟต์นานาชาติไปแล้ว เพราะนอกจากหมูแล้วก็ยังมีเนื้อ มีซีฟู้ด แถมยังมีอาหารปรุงสุกให้เลือกหยิบ มีของหวานแบบครบ ๆ บางร้านมีซูชิให้ด้วย (แม้จะเป็นซูชิแบบตลาดนัด 3 บาท 5 บาท แต่ก็ยังน่าทึ่งอยู่ดี) แล้วที่น่าทึ่งก็คืออาหารทั้งหมดนี้ราคารวมกันแค่เพียง 500 เยน (ราว ๆ 150 บาท) ซึ่งมันนับว่าถูกแสนถูก เพราะเงิน 500 เยนในญี่ปุ่นนั้นกินได้แค่อาหารจานเดียว เป็นข้าวหน้าเนื้อแบบธรรมดา หรืออาหารเซ็ตที่ไม่หรูหรามากนักเท่านั้น ดังนั้นหมูกระทะนี่มันช่างสุดยอดจริง ๆ !
แน่นอนว่าวัฒนธรรมอาหารก็เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลาและสถานที่ ครั้งหนึ่งเรารับวัฒนธรรมหมูกระทะเข้ามาแล้วก็เปลี่ยนแปลงให้เป็นรูปแบบในปัจจุบันแล้วก็ถูกส่งต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ในนามของอาหารไทย ซึ่งมันก็ถูกเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับประเทศนั้น ๆ นั่นทำให้วัฒนธรรมอาหารพัฒนาต่อไปอีกเรื่อย ๆ
ไม่แน่ว่า เจ้า “มูกาตะ” ที่ถูกคนญี่ปุ่นปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ก็อาจจะกลายเป็นอาหารญี่ปุ่นไป แล้ววันนึง “มูกาตะ” อาจจะถูกส่งกลับมาในไทยในนามของอาหารญี่ปุ่นก็เป็นได้ …
อ้างอิงข่าวจาก ANN NEWS
ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TOP PICK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ
ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook :Eak SummerSnow
Youtube : Eak SummerSnow
s.tiensin สุกี้ของญี่ปุ่นเองก็มากลายพันธุ์เป็นสุกี้ไทยแบบที่คนญี่ปุ่นก็งงเพราะไม่เหมือนของญี่ปุ่นเลย 🍲
28 พ.ย. 2563 เวลา 07.31 น.
SomP😊KSook😄裕福な😆639 วิวัฒน์ธรรมวนไป 🤗🤗🤗
28 พ.ย. 2563 เวลา 16.49 น.
vun กินทุกเดือน เป็นเมนูสุดโปรดของครอบครัว
29 พ.ย. 2563 เวลา 00.07 น.
ห้องว่าง วันนี้จัดไป...
28 พ.ย. 2563 เวลา 07.54 น.
🌺🌿คุณเรดวงดี อิ่มอร่อยคุ้มคือมันดีงามมาก
29 พ.ย. 2563 เวลา 02.07 น.
ดูทั้งหมด