15 ตุลาคม 2561 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยให้ข้อมูลว่า จากการที่นายชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.นครพนม เขต 4 พรรคเพื่อไทย ได้ลาออกไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐในห้วงเวลาที่เข้าสู่โหมดเลือกตั้ง
อันเป็นเวลาที่กระชั้นชิดที่จะหาตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งให้ทันการณ์เพื่อรักษาที่นั่งของพรรคที่ชาวนครพนมได้เลือกไว้ การที่นายชูกัน ย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ นับเป็นฟากการเมืองฝ่ายสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลนี้ ซึ่งมีอุดมการณ์ตรงกันข้ามกับ พรรคที่สนับสนุนอุดมการณ์ประชาธิปไตย
"ผมจึงอาสาพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อรักษาที่นั่งของพรรคเพื่อไทยให้อยู่กับชาวจังหวัดนครพนมต่อไป แม้จะต้องข้ามเขตเลือกตั้งจากที่เคยเป็น ส.ส.ในเขตอำเภอเมืองนครพนม และอำเภอท่าอุเทน ก่อนจะมาเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แล้วครั้งนี้อาสาข้ามเขตมาสมัครรับเลือกตั้งในเขตอำเภอนาแก อำเภอปลาปาก และอำเภอวังยาง ซึ่งไม่เคยทำงานในพื้นที่นี้มาก่อน หวังอาศัยตัวตนที่ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตยสอดคล้องกับวิถีชีวิตของพี่น้องชาวอำเภอนาแก อำเภอปลาปาก และอำเภอวังยาง ที่รักความยุติธรรมและศรัทธาประชาธิปไตย เป็นต้นทุนในการต่อสู้ทางการเมือง ประการสำคัญ จากการตรวจสอบความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมือง พบว่าประชาชนยังศรัทธา และเชื่อมั่นในนโยบายของพรรคเพื่อไทยว่าสามารถจับต้องได้ แก้ไขปัญหาของประชาชนได้จริง"
อย่างไรก็ตาม เพียงวันแรกที่เข้าพื้นที่อำเภอนาแก ในวันที่ 14 ต.ค.61 เพื่อหาสถานทึ่จัดตั้งสำนักงาน จัดหาอุปกรณ์สำนักงาน ตกแต่งสถานที่ ฯลฯ ขณะเดียวกันก็ต้องพบประชาชนเพื่อรับทราบปัญหาดังเช่นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ได้ลงพื้นที่ที่คลองลัดมะยมเพื่อรับทราบปัญหาประชาชนเช่นกัน ปรากฎว่าขณะรับทราบปัญหาประชาชน มีทหารสองนายนอกเครื่องแบบตามประกบผมถึงในห้องประชุม ซึ่งเป็นห้องกระจกใส เปิดเผย มิได้เป็นที่รโหฐาน ผมให้เกียรติทหารทั้งสองท่าน ไม่ได้ถามชื่อท่าน ไม่ได้ถ่ายรูป พูดคุยโอภาปราศรัยอย่างเอื้ออาทร เพราะเข้าใจดีว่า ทหารชั้นผู้น้อยต้องทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
นอกจากนั้น ผมก็ยังอนุญาตให้ถ่ายรูปผมกับประชาชนไปรายงานผู้บังคับบัญชาได้ เพราะไม่มีอะไรปิดบัง ที่นำเรื่องนี้มาเปิดเผย เพราะคาดการณ์ว่า จะมีทหารชั้นผู้น้อยได้รับคำสั่งเช่นนี้ทุกเขตเลือกตั้ง ทุกจังหวัด ซึ่งน่าจะไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของทหาร ซึ่งเป็นสถาบันหลักด้านความมั่นคงของชาติ
ผมมีพี่ มีเพื่อน มีน้อง เป็นทหารจำนวนมาก ครั้งผมลงเลือกตั้งในเขตอำเภอเมืองนครพนม ทหารในค่ายพระยอดเมืองขวาง และครอบครัว ได้ลงคะแนนให้ผมอย่างท่วมท้น เฉพาะอย่างยิ่ง ผมเคยเป็นคณะทำงานฝ่ายพลเรือนของนายทหารประชาธิปไตย คือท่าน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ตั้งแต่ครั้งท่านดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.จนลาออกจาก ผบ.ทบ.มาทำงานการเมืองด้วยการสมัครรับเลือกตั้ง จนได้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมก็เป็นคณะทำงานของท่านมาตลอด
ด้วยภารกิจของงาน จึงมีความผูกพันกับทหารมาก อยากให้ทหารเป็นที่รักของประชาชน หน้าที่ในการบริหารจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ควรเป็นหน้าที่ของ กกต. และองค์กรกลาง ทั้งในประเทศ และที่จะมาสังเกตการณ์จากต่างประเทศจึงขออนุญาตฝากท่านผู้บังคับบัญชา ควรมอบหมายภารกิจให้ถูกต้องกับหน้าที่ของทหาร ผมหวังที่จะเห็นทหารที่ลงตามหมู่บ้านต่าง ๆ ทั่วประเทศขณะนี้ ได้กลับ กรม กอง บ้านเมืองมิได้มีภัยคุกคามใด ๆ เลย ตรงกันข้าม ถ้าทหารยังอยู่ตามตำบล หมู่บ้าน ในห้วงเวลานี้ จะถูกสังคมกล่าวหาว่า บล๊อคพรรคการเมืองอื่น แต่ปล่อยพรรคการเมืองฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาล การเลือกตั้งจะไม่เสรี และไม่เป็นธรรม อันจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นประเทศถดถอย จึงขอฝากให้พิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
ทหารมีหน้าที่พิทักษ์ชายแดน ไม่มีสิทธิ์มายุ่งภายในประเทศ จึงควรลดกำลังพลลงครึ่งหนี่ง ลดงบประประมาณลงครึ่งหนึ่ง ห้ามยุ่งแทรกแซงการทำงานส่วนราชการอื่น
16 ต.ค. 2561 เวลา 01.25 น.
none ขอหลักฐานครับอย่าตีกิน เบื่อมุขเดิมๆ
15 ต.ค. 2561 เวลา 23.14 น.
Surat ได้อ่านที่นายชวลิต แถลงแล้วจะอาเจียน มันคงนึกว่าคนอื่นโง่ ทั้งที่มันเองโคตรโง่
15 ต.ค. 2561 เวลา 22.52 น.
คิดดี ทำดี มีน้ำใจ เห็นด้วยครับ รัฐบาลมคสช. ไม่ควรใช้ทหารเป็นเครื่องมือทางการเมือง และทหารที่ดีก็ไม่ควรเป็นสุนัขรับใช้ทางดารเมืองให้ฝ่ายใด เพราะทหารต่องอยู่ฝ่ายประชาชนครับ ไม่ใช่อยู่ฝ่ายทหารแก่ที่เกษียน
15 ต.ค. 2561 เวลา 23.50 น.
ทหารชั้นประทวนไม่อยากทำหน้าตัวเมียหรอก
15 ต.ค. 2561 เวลา 22.52 น.
ดูทั้งหมด