สุขภาพ

เตือน!!! กินหมูสุกๆ ดิบๆ เสี่ยง ‘ไข้หูดับ’

The Bangkok Insight
เผยแพร่ 31 ต.ค. 2561 เวลา 09.01 น. • The Bangkok Insight

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนหลีกเลี่ยงการกินหมูดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ เพราะเสี่ยงป่วยด้วยโรคไข้หูดับ อาจทำให้หูหนวกถาวรหรือเสียชีวิตได้ เผยปีนี้พบผู้ป่วยโรคไข้หูดับแล้ว 274 ราย โดยเกือบ 3 ใน 4 เป็นผู้ป่วยในภาคเหนือ

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

วันนี้ (31 ต.ค.) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้บางจังหวัดมีเทศกาล และงานบุญต่างๆ ซึ่งมีการจัดเลี้ยง หรือมีการรับประทานอาหารร่วมกัน จึงควรระวังเรื่องการบริโภคหมูดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ หลู่ เพราะเสี่ยงติดเชื้อโรคไข้หูดับได้

ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในปี 2560 ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้หูดับ 317 ราย เสียชีวิต 15 ราย ส่วนในปี 2561 พบว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–19 ตุลาคม 2561 มีผู้ป่วยโรคไข้หูดับแล้ว 274 ราย เสียชีวิต 26 ราย

ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป รองลงมาอายุ 45-54 ปี ภาคที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือ ภาคเหนือ จำนวน 199 ราย หรือเกือบ 3 ใน 4 ของผู้ป่วยทั้งหมด จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ พะเยา อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร นครสวรรค์ และสระแก้ว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า โรคไข้หูดับเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย สเตร็ปโตค็อกคัส ซูอิส โดยเชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และอยู่ในเลือดของหมูที่กำลังป่วย

โรคไข้หูดับ ติดต่อได้ 2 ทาง

  • การสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อ รวมทั้งเนื้อหมู เครื่องใน และเลือดหมูที่เป็นโรค โดยติดต่อสู่คนทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกายหรือทางเยื่อบุตา
  • *เกิดจากการบริโภคเนื้อและเลือดหมูที่ปรุงแบบดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ ที่มีเชื้ออยู่ *

ผู้ป่วยจะมีอาการหลังรับประทาน 3-5 วัน ซึ่งเชื้อจะเข้าไปทำให้เยื่อหุ้มสมอง เยื่อบุหัวใจอักเสบ อาจทำให้ประสาทหูทั้ง 2 ข้างอักเสบ และเสื่อมจนหูหนวกถาวร และอาจเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือดได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อโรคไข้หูดับ คือ ผู้ที่สัมผัสกับหมูที่ติดโรคโดยตรง เช่น ผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู และผู้ที่รับประทานเนื้อหมูดิบ เป็นต้น

กลุ่มที่เสี่ยงจะมีอาการป่วยรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ ผู้ที่ติดสุราเรื้อรัง ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ไต มะเร็ง หัวใจ ผู้ที่เคยตัดม้ามออก เป็นต้น

วิธีป้องกันโรค

  • *กินหมูสุกเท่านั้น โดยปรุงเนื้อหมูให้สุกทั่วถึงจนเนื้อไม่มีสีแดง และควรเลือกซื้อเนื้อหมูที่ไม่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากโรงฆ่าสัตว์ *
  • ผู้ที่สัมผัสกับหมูที่ติดโรค โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมรองเท้า บู๊ทยาง สวมถุงมือ รวมถึงสวมเสื้อที่รัดกุมระหว่างทำงาน หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง

ข้อควรระวังสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง หูหนวก ท้องเสีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ภายหลังสัมผัสหมูที่ป่วย หรือหลังกินอาหารที่ปรุงมาจากเนื้อหมูดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ ให้รีบพบแพทย์ทันที และบอกประวัติการกินหมูดิบให้ทราบ เพราะหากมาพบแพทย์เร็วจะช่วยลดอัตราการหูหนวกและการเสียชีวิตได้

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 3
  • เป็นไข้หูดับก็ดีนะ จะได้ไม่ได้ยินเสียงประยุทธ์ รำคาญมากๆเลย
    31 ต.ค. 2561 เวลา 17.00 น.
  • ศักดิ์ชัย พวงพอก
    เชิญแวะแดกก๋วยเตี๋ยวหมูพิษสุนัขบ้า ร้านกู เจอพิษสุนัขบ้าตาย ไอ้อาร์มโต้รุ่งผัวกูมันไม่รับผิดชอบ กูจ่ายค่าทำศพให้ สำรับอีปอบผีฟ้า พวกมึงรู้ยัง 55555555555555 👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣👣
    31 ต.ค. 2561 เวลา 11.27 น.
  • x.09
    ทุกวันนี้จะกินอะไรก็มีแต่เสี่ยงๆหมดแหล่ะ แดกๆกันเข้าเหอะ
    31 ต.ค. 2561 เวลา 14.14 น.
ดูทั้งหมด