ทั่วโลกสลดใจ ภาพพ่อลูกผู้อพยพจมน้ำดับ

รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ประกาศเตือนประชาชน อย่าพยายามเสี่ยงชีวิต ลักลอบเดินทางเข้าสู่สหรัฐ หลังเกิดเหตุสลด พ่อและลูกสาววัย 23 เดือนผู้อพยพชาวเอลซัลวาดอร์จมน้ำเสียชีวิต ขณะพยายามข้ามแม่น้ำริโอแกรนด์ จากเม็กซิโกเข้าสู่อเมริกา ซึ่งภาพที่ถูกเผยแพร่ออกไป ได้รับเสียงประณามจากทั่วโลก

เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่ ทางการสหรัฐและทางการเม็กซิโก ดำเนินนโยบายแข็งกร้าวมากขึ้น เพื่อสกัดกั้นคลื่นไหลบ่าของผู้อพยพผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่ไปจากอเมริกากลาง ไม่ให้ลักลอบเดินทางผ่านเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐ
นายออสการ์ อัลแบร์โต มาร์ติเนซ รามิเรซ อายุ 25 ปี และวาเลอเรีย ลูกสาวตัวน้อย จมน้ำเสียชีวิตทั้งคู่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มิ.ย. ขณะพยายามข้ามแม่น้ำริโอแกรนด์ จากฝั่งเมืองมาตาโมรอส ในรัฐตาเมาลีปัส ทางตอนเหนือฝั่งตะวันออกของเม็กซิโก เข้าสู่รัฐเทกซัสของสหรัฐ และภาพถ่ายที่บันทึกโดยผู้สื่อข่าวสาวหนังสือพิมพ์ ลา ฮอร์นาดา ของเม็กซิโก ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกในวันต่อมา
ผู้เห็นเหตุการณ์เผยต่อสื่อมวลชนว่า ตอนแรกนายรามิเรซพาลูกสาวข้ามไปขึ้นฝั่งสหรัฐได้แล้ว และตัวเขาจะว่ายน้ำกลับมารับภรรยา นางทันยา วาเนสซา อวาลอส อายุ 21 ปี แต่ลูกสาวตัวน้อยกระโดดลงแม่น้ำตามพ่อมาด้วย รามิเรซจึงหันกลับไปหาลูก ซึ่งชั่วขณะนั้นกระแสน้ำเชี่ยวกรากได้พัดพา 2 พ่อลูกลอยหายไป โดยที่ไม่มีใครช่วยเหลือได้ทัน
นางอวาลอสเผยว่า เธอและครอบครัวอพยพจากเอลซัลวาดอร์ มาอาศัยอยู่ในเม็กซิโกนาน 2 เดือนแล้ว ด้วยวีซ่าด้านมนุษยธรรมขององค์กรระหว่างประเทศ แต่รามิเรซสามีของเธอไม่พอใจที่ยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยในสหรัฐไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจพาครอบครัวข้ามแม่น้ำริโอแกรนด์เข้าสู่อเมริกา
เจ้าหน้าที่เม็กซิโกเผยว่า มีผู้อพยพเสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย ในระยะไม่กี่วันล่าสุด
ผู้อพยพเหล่านี้จำนวนมาก หลบหนีความรุนแรงและความยากจน ในฮอนดูรัส กัวเตมาลา และเอลซัลวาดอร์ มุ่งหน้าไปแสวงหาชีวิตใหม่ที่ดีกว่าในสหรัฐอเมริกา
กลุ่มผู้วิจารณ์กล่าวว่า นโยบายแข็งกร้าวต่อผู้อพยพต่างชาติ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ทำให้ผู้อพยพต้องเลือกใช้วิธีการเสี่ยงอันตรายมากยิ่งขึ้น จากข้อมูลของสำนักงานลาดตระเวนเขตแดนสหรัฐ หรือ ยูเอสบีพี (US Border Patrol) มีผู้อพยพเสียชีวิต บริเวณรอยต่อเขตแดน สหรัฐ-เม็กซิโก อย่างน้อย 283 ราย ในปี พ.ศ. 2561