ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“ไปรษณีย์ไทย” สู้อย่างไร ท่ามกลางคู่แข่งรุมเร้า

Positioningmag
อัพเดต 02 มิ.ย. 2562 เวลา 12.48 น. • เผยแพร่ 03 มิ.ย. 2562 เวลา 00.55 น.

*ในขณะที่ต้องผจญศึกรอบด้าน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด(ปณท) ยังคงมีอัตราการเติบโตได้ต่อเนื่อง แม้ว่าการเติบโตในปีนี้จะน้อยกว่า2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การตั้งเป้าหมายอัตราเติบโตปี62 เป็นเลขหลักเดียวไม่เกิน10% *

ไม้ตายที่ ปณท วางไว้รับมือกับภาวะยอดขายโตยาก คือการมองหาธุรกิจใหม่แบบค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้จุดยืนของไปรษณีย์ไทย ที่ยังคงมุ่งเน้นการเป็นบริษัทขนส่ง ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นผู้ขนส่งอะไร สินค้า บริการ หรือแม้แต่เงิน ทุกอย่างที่ขนส่งได้จึงถูกมองเป็นโอกาสของ ปณท ทั้งหมด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ภาพใหญ่ของธุรกิจ ปณท จึงขยายจากการส่งจดหมาย มาสู่การส่ง“ไปรษณียภัณฑ์” ที่เป็นกล่องใหญ่ขึ้น ล่าสุด ปณท เริ่มยุคอีวอลเล็ตและให้บริการCOD เก็บเงินปลายทาง ซึ่งอนาคต ปณท อาจต่อยอดไปสู่ธุรกิจสินเชื่อรายย่อย โดยที่ยังคงบริการ“ธนาณัติ” ไว้ต่อไปเพราะยังมีคนใช้งานสม่ำเสมอ

พัสดุน้อยลงหรือคู่แข่งเยอะขึ้น?

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด(ปณท) บอกปัดว่ายังไม่แน่ใจถึงสาเหตุที่ทำให้ ปณท เติบโตน้อยลงกว่า3 ปีก่อน แต่เลือกยกตัวอย่างว่าอาจเป็นเพราะคนไทยเริ่มสั่งของน้อยลงก็ได้ ซึ่งเริ่มเห็นมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จุดนี้สมรยืนยันว่า ปณท ไม่กลัวคู่แข่งที่รุมเร้าเพราะความเชี่ยวชาญที่ ปณท สั่งสมมานาน จนมั่นใจในศักยภาพที่แข่งขันได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ปัจจุบัน คู่แข่งของไปรษณีย์ไทยมีหลากหลายมาก ตั้งแต่DHL, Kerry, SCG Express, นิ่มซี่เส็ง ยังไม่นับเลือดใหม่อย่างAlpha, Flash, Ninja Van รวมถึงสตาร์ทอัปสายแอปอย่างLineman ที่จับมือกับLa la move เช่นเดียวกับGrab และGet ที่จัดบริการส่งพัสดุเอกสารแบบทันใจเพื่อตอบตลาด

ท่ามกลางคู่แข่งเหล่านี้ ปณท ยืนยันว่ายืนหยัดได้ สถิติปี2561 ไปรษณีย์ไทยโชว์ว่าครองส่วนแบ่งในธุรกิจจัดส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซ54-55% ของทั้งตลาด จำนวนพัสดุที่จัดส่งอยู่ที่ประมาณ310 ล้านชิ้น จากปริมาณรวม580 ล้านชิ้น คิดเป็นมาร์เก็ตแชร์อันดับ1 ของตาราง รองลงมาเป็นKerry ที่มีส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า30% เรียกว่า2 เจ้ารวมกันก็กินสัดส่วนเกิน80% ของตลาด

เราทำธุรกิจด้านการขนส่งมาก่อน แต่เปลี่ยนจากจดหมายเป็นสิ่งของ เชื่อว่าแข่งขันได้แน่นอนเพราะเชี่ยวชาญ จ่าหน้าผิดก็ยังส่งได้” สมรระบุ“เรามีจุดบริการ7,000-8,000 จุด บุรุษไปรษณีย์หลักหมื่นคน ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกล สามารถให้บริการประชาชนทุกระดับหลายราคา บนความเร็วที่มียกระดับเป็นการจัดส่งวันเดียวถึง คือส่งก่อน11.00 น. จะได้รับของช่วงบ่าย ส่วนการส่งช่วงบ่ายจะได้รับวันรุ่งขึ้น ซึ่งเราทำได้100% แล้ว”

ความมั่นใจของ ปณท ส่วนหนึ่งมาจากความรุ่งเรืองที่เริ่มทอแสงชัดเจนในปี2559 กลายเป็นประวัติศาสตร์สำคัญหลังจากแยกหน่วยงานออกมาเป็นบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด(ปณท) เมื่อ16 ปีก่อน ผลประกอบการ ปณท ร้อนแรงขึ้นอีกในปี60 สดใสมากจากที่เคยขาดทุนเพราะมีรายได้หลักมาจากการขายสแตมป์เท่านั้น แต่แล้วก็กลับมาวูบลงเพราะรายได้ปี61 ไม่เข้าเป้า

*ผลประกอบการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด(ปณท) *

  • ปี2559 รายได้25,600 ล้านบาท กำไร3,570 ล้านบาท
  • ปี2560 รายได้27,880 ล้านบาท กำไร4,220 ล้านบาท(เพิ่มขึ้นจากปี2559 ประมาณ8% เพิ่มขึ้นจากปี2559 ประมาณ18%)
  • ปี2561 รายได้ราว28,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่เคยประกาศไว้30,000 ล้านบาท
  • ปี2562 ปณท จึงตั้งเป้าหมายเดิมคือ30,000 ล้านบาท

วันนี้ ปณท ทำเงินหลักจาก4 ธุรกิจ ส่วนที่ใหญ่ที่สุดคือธุรกิจขนส่งพัสดุแบบกล่อง(40% ของทั้งพอร์ต) รองลงมาคือธุรกิจส่งจดหมายซอง อันดับ3 คือค้าปลีก และอันดับ4 คือบริการการเงิน

สินเชื่อหรือประกัน?

สมรมองว่าการทำให้ ปณท มีอัตราการเติบโตแบบเท่าตัวอีกครั้งนั้นทำได้ยากขึ้น จึงต้องการมองหาธุรกิจใหม่ แล้วเริ่มดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป หนึ่งในนั้นคืออาจจะให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล หรือบริการด้านประกันภัยซึ่งยังไม่มีการสรุปแผนดำเนินงานในเร็ววัน

“ไปรษณีย์คือขนส่ง ขึ้นอยู่กับว่าเป็นผู้ขนส่งอะไร สินค้า? พัสดุ? คือทุกอย่างที่ต้องขนส่งเป็นโอกาสเราหมด อย่างเช่นการรับส่งเงิน จากภาพใหญ่ที่เราขยับจากบริการส่งจดหมาย มาเป็นกล่องที่ใหญ่ขึ้น วันนี้เราทำอีวอลเล็ตแล้ว มีบริการCOD เก็บเงินปลายทาง ต่อไปนี้ใครช็อตเงินก็อาจจะใช้บริการกับเราได้ รวมถึงประกันภัยด้วย”

ในขณะที่ ปณท ลุยอีวอลเล็ตแล้ว แต่สมรยืนยันว่าจะไม่ทิ้งบริการดั้งเดิมอย่างธนาณัติไป เพราะยังมีคนใช้งาน เช่นเดียวกับการปรับราคาค่าบริการ จุดนี้สมรมองว่าราคาที่ ปณท กำหนดนั้นต่ำอยู่แล้ว ซึ่งแม้จะไม่ใช่ราคาต่ำที่สุดเพราะคู่แข่งเล่นสงครามราคา แต่ ปณท ก็ยังยืนราคาเหมือนเดิมมา10 ปีแล้ว โดยมอบส่วนลดเล็กน้อยให้ลูกค้ารายใหญ่เท่านั้น

สำหรับภาพลักษณ์แบรนด์ ปณท ในนาทีนี้ สมรระบุว่า ปณท ได้รับคะแนนความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้น จากที่เคยตกต่ำที่สุด80% คะแนนกลับเพิ่มขึ้นเป็น85% ในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปรับคุณภาพบุคลากรและภาพลักษณ์ทันสมัยขององค์กรให้เหนือกว่าช่วงที่ ปณท ถูกล้อเลียนเรื่อง“เจ้าหนูรับนะ”

“เมื่อ5 ปีที่แล้วเราโดนต่อว่าเรื่องโยนของ ซึ่งต้องยอมรับว่าพนักงานเราก็โยนจริง และโยนมานาน136 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้การโยนเป็นเรื่องธรรมดาในยุคเก่าซึ่งเน้นการส่งจดหมายและซองเอกสาร แต่ภาพที่มีการเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตกระทบความรู้สึกของผู้ใช้ส่วนใหญ่ ซึ่งหากสังเกตให้ดี จะเห็นว่าห่อกระสอบพัสดุในภาพที่ส่งต่อกันนั้นเป็นสีเขียว แปลว่าเป็นกระสอบเจดหมายอกสารที่โยนแล้วเสียหายน้อย ไม่ใช่พัสดุกล่องอย่างที่หลายคนกังวล”

ว่าแล้วก็ติดตามชีวิต“ไปรษณีย์ไทย” กันไปยาวๆ ว่าจะลุยบริการใหม่ได้สมใจที่ตั้งไว้หรือไม่.

ดูข่าวต้นฉบับ