มาแล้วค่า มาแล้ววว ค่าจัดส่งตามน้ำหนักที่ทุกท่านรอคอย แอดก็เช่นกันค่ะ 555 ไม่พูดพร่ำเพรื่อ เรามาดูวิธีการตั้งค่าและใช้งานกันเลยค่ะ
หลัก ๆ คือ 1) ต้องใส่น้ำหนักของสินค้าแต่ละชิ้น 2) ตั้งราคาค่าจัดส่งของการจัดส่งแต่ละแบบ มา! เข้า MyShop แล้วทำไปพร้อม ๆ กันเลย
1. ใส่น้ำหนักของสินค้าแต่ละชิ้น
ไปที่ "สินค้า" >> "รายชื่อสินค้า" >> กดเข้าไปที่สินค้าแต่ละรายการ >> เลื่อนลงมาด้านล่างจะเจอช่องใส่น้ำหนักตามภาพ ถ้าสินค้าไหนหนักครึ่งกิโลกรัม ก็ใส่ไป 0.5 ได้เลยค่ะ
1.1 กรณีเลือกใช้ “คุณสมบัติ” +สำหรับสินค้าที่มีขนาดและสี เช่น เสื้อผ้า, รองเท้า, เครื่องใช้ที่มีขนาด อะไรก็ได้ที่มีขนาดหรือสี ก็เลือกใช้ฟังก์ชันคุณสมบัติได้หมดค่ะ +
>> โดยกดเลื่อนเปิดแถบใช้ “คุณสมบัติ” ให้เป็นสีเขียว
จากนั้นใส่ "ชื่อคุณสมบัติ" เช่น ขนาด >> ใส่ "ค่าคุณสมบัติ" เช่น S แล้วใส่ , หรือกด Enter เพื่อให้ระบบไปจับค่าคุณสมบัตินั้น ๆ
** หากต้องการใส่สีด้วย ให้กดปุ่ม + เพิ่มคุณสมบัติอื่น ๆ แล้วใส่สี ใส่ค่าสมบัติที่ต้องการ **
1.2 ใส่ราคา, จำนวนสินค้า, น้ำหนักของแต่ละคุณสมบัติได้ในคลิกเดียว
บอกก่อนว่าตรงนี้มันเริ่ดมากนะคะ คือ >> ร้านค้าสามารถใส่ราคา, จำนวนสินค้า และน้ำหนัก แล้วกดปุ่ม"อัปเดตกับสินค้าทั้งหมด"ระบบจะใส่ค่าที่กรอกลงไปให้กับทุกคุณสมบัติของสินค้านั้นเลยค่ะ
แอดขอเรียกปุ่มนี้ว่า ‘ปุ่มประหยัดแรงเว่อร์’ เพื่อมันสะดวก แค่กดคลิกเดียว ชีวิตง่ายขึ้นเลยอ่ะค่ะ
Tips อีกนิดค่ะ สำหรับร้านค้าที่มีราคา, จำนวนสินค้า หรือน้ำหนักที่ต่างกันบางคุณสมบัติ แอดแนะนำให้ >> ใส่ค่าทั้งหมดที่เป็นส่วนใหญ่ไปก่อน >> แล้วไปเลือกปรับค่าและจำนวนต่าง ๆ กับเฉพาะบางคุณสมบัติที่แตกต่าง ไป
>> เมื่อใส่รายละเอียดทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็กด "บันทึก" ได้เลยค่ะ
>> จากนั้นไปตั้งค่าการจัดส่งกันค่ะ
2. ตั้งค่าการจัดส่งตามน้ำหนัก
ไปที่ "ตั้งค่าร้านค้า" >> "ตั้งค่าการจัดส่งสินค้า" >> กดปุ่ม + เพิ่มการจัดส่ง (สำหรับร้านที่ยังไม่ได้ตั้งค่าการจัดส่งไว้แล้วนะคะ)
เมื่อสร้างหรือมีค่าจัดส่งแล้ว >> ตั้งค่าสถานะ “แสดง” >> จากนั้นกดไปที่ชื่อการจัดส่งที่สร้างไว้
3. กำหนดช่วงค่าน้ำหนักและค่าจัดส่ง
เมื่อกดเข้ามาในค่าจัดส่งที่สร้างไว้แล้ว >> เลื่อนลงมา เลือก "ค่าจัดส่งตามน้ำหนัก" >> แล้วใส่ค่าน้ำหนักต่ำสุด และน้ำหนักสูงสุด และค่าจัดส่งของช่วงน้ำหนักนั้น >> จากนั้นกดปุ่ม "+ ช่วงค่าน้ำหนัก" แล้วใส่ค่าน้ำหนักและค่าจัดส่งตามลำดับ >> และกด "บันทึก" เป็นอันเสร็จสิ้นเรียบร้อย
หมายเหตุ:
ในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถกดสั่งซื้อได้ เนื่องจากตระกร้าสินค้ามีน้ำหนักเกินกว่าที่ร้านตั้งไว้ สามารถแก้ไขโดย
(1) เพิ่มช่วงค่าน้ำหนัก กำหนดน้ำหนักต่ำสุด น้ำหนักสูงสุด และค่าจัดส่งตามลำดับ
(2) หากต้องการให้ระบบไม่จำกัดค่าน้ำหนักสูงสุด สามารถทำได้โดยกด “+ ช่วงค่าน้ำหนัก” แล้วกรอกเพียง “น้ำหนักต่ำสุด” และเว้นช่อง “น้ำหนักสูงสุด” ไว้ จากนั้นใส่ค่าจัดส่งตามปกติ
เท่านี้เวลาลูกค้ากดสั่งสินค้าหลายชิ้น หรือสินค้า A รวมกับสินค้า B ระบบก็จะคิดน้ำหนักของแต่ละสินค้าตามที่เราตั้งไว้ แล้วไปแมชกับค่าจัดส่งที่ลูกค้ากดเลือก แสดงผลบนหน้าจอของลูกค้าตามนี้เลย
พบกับแอดได้ใหม่ในช่วง #สาระมีอยู่จริงกับแอดคนดี ได้เร็ว ๆ นี้
ใครที่คิดถึงแอดอยากไลน์หา ทักมาได้ที่ @linemyshop
ส่วนร้านไหนยังไม่เปิดใช้ MyShop ฟรี! เปิดได้แล้วนะคะ คลิกที่นี่เปิดร้าน MyShop ไม่เชื่อใจแฟน แต่ขอให้เชื่อใจแอด เพราะ #MyShopช้อปง่ายขายดี สำหรับวันนี้ต้องขอตัวไป เ ว้ น ร ะ ย ะ ห่ า ง จากงานก่อนค่ะ อิอิ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ แอดเป็นห่วง :))
ทับคับ
24 มิ.ย. 2563 เวลา 17.34 น.
悠道ー日本 ยิ่งบู๊ทส่งของไปรษณีย์ ตามจุดต่าๆ เช่น ตามห้างทุกห้างเลย แพงมากๆๆ เมื่อก่ินไม่แพงขนาดนี้นะ
รัฐบาล ลงมาจัดการทีเถอะ
31 พ.ค. 2563 เวลา 07.22 น.
悠道ー日本 แบบนี้ทำให้ยิ่งแพง ตอนนี้ค่าส่งทุกบริษัทแพงมาก เป็น100
เช่น สั่งดินมาปลูกต้นไม้ ราคา 15 บาท ค่าส่ง 110 บาท
31 พ.ค. 2563 เวลา 07.20 น.
The Pao2495 馬化澤(人上人) น่าจะศึกษาจากแพลทฟอร์มอื่นด้วยนะครับพวก ลาซาด้า ชอปปี้
27 พ.ค. 2563 เวลา 07.42 น.
จะดีมากถ้าตั้งเรื่องขนาดสินค้าได้ด้วย เพราะการส่งจริงนอกจากเรื่องน้ำหนัก ยังมีการคำนวณเรื่องไซส์ของด้วย แล้วน้ำหนักมีการแสดงให้ผู้ซื้อเห็น ถ้าเราตั้งน้ำหนักเกินเพื่อให้แมชกับขนาดด้วย ลูกค้าก็จะเห็นว่าน้ำหนักกระโดดมาก ไม่ตรงตามความจริง ซึ่งถ้าเราเป็นคนซื้อก็คงจะไม่โอเค
26 พ.ค. 2563 เวลา 08.16 น.
ดูทั้งหมด