บันเทิง

'แพนเค้ก' ทำใจไม่ได้ ของที่ถูกขโมย

คมชัดลึกออนไลน์
อัพเดต 19 ต.ค. 2562 เวลา 08.25 น. • เผยแพร่ 19 ต.ค. 2562 เวลา 02.00 น.

ทีมบันเทิง คมชัดลึก - เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ทำเอานางเอกสาวชื่อดัง "แพนเค้ก" เขมนิจ จามิกรณ์ จำไปตลอด เมื่อไปเดินแฟชั่นที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ แต่วันที่กำลังจะบินกลับ แต่ดันถูกโจรทุบรถฉกทรัพย์สิน และที่สำคัญที่สุดคือหนังสือเดินทาง โดยสาวแพนเค้กที่มาร่วมงาน "ศรีอโยธยา มีทแอนด์กรี๊ด แพนเค้ก เขมนิจ" ณ ร้านเชสเตอร์กิลล์ สยามสแควร์ ได้เล่าว่าถึงเหตุการณ์ดังนี้

"แพนไปแฟชั่นโชว์ที่แอลเอค่ะ วันสุดท้ายก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทย เราก็ไปแวะชายหาด แวะสถานที่ท่องเที่ยวของเขา ก็จอดรถในที่จอดรถปกติ ใกล้ทางเข้าห้าง เราคิดว่าน่าจะโอเคแล้ว ก็มีแบ่งของทิ้งไว้ เราลงไปถ่ายรูปประมาณ 1 ชั่วโมง พอกลับขึ้นมาที่รถ น้องสาวก็ถามว่าน้ำหกเหรอ เห็นเป็นเงาๆใสๆ พอเข้าไปดูใกล้ๆก็กลายเป็นเศษกระจก ทั้งบานด้านซ้ายคือแตกหมดเลย ทุกคนก็ช็อก ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลยตั้งสติดูว่ามีอะไรหายไปหรือเปล่า คือของคุณแม่ก็ถูกค้นไป แต่ก็ไมได้มีอะไรสำคัญมากในนั้นของแพน ทั้งใบที่มีทุกอย่างโดนอุ้มไปทั้งใบเลย ของพี่สาวด้วยก็โดนเอาไปทั้งใบเหมือนกัน ของที่หายก็มี โทรศัพท์มือถือ กล้อง เงินสด พาสปอร์ต ของใช้จำเป็นต่างๆอยู่ในประเป๋าใบนั้นหมดเลย ค่าเสียหายก็พอสมควร จริงๆมันก็เป็นพวกของใช้งานต่างๆ ตอนนี้ไม่อยากนึกว่ามีอะไรบ้าง เพราะถ้านึกนะ โอ๊ย..หลายอย่างค่ะ ก็คิดว่าโอเค ตัดใจ"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เคยรู้ไหมว่า จริงๆแล้วมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อย

"จริงๆ มีคนเตือนอยู่ตลอดเวลา เวลาไปก็เตือนว่าอย่าทิ้งของไว้ในรถ หรือว่าถ้าทิ้งไว้ต้องปิดให้มิดชิด ก็มีคนบอกตลอด แต่เราคิดว่ามันน่าจะโอเคแล้ว ที่จอดรถก็ดูไม่เปลี่ยว ก็เป็นความชะล่าใจของเราเองที่ทิ้งเอกสารสำคัญไว้ในรถ ซึ่งควรจะอยู่ติดตัว เราก็คิดว่าเป็นอะไรที่สอนเราเหมือนกัน ประเทศนี้และอีกหลายๆประเทศเขามีเหตุการณ์แบบนี้ค่อนข้างบ่อย และคนไทยก็ประสบเหตุการณ์แบบนี้ค่อนข้างบ่อยในต่างประเทศ ทุกคนก็จะบอกว่าไปถึงที่แล้วแหละ โดนแบบเต็มๆ"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

หลังจากของหายได้ตรวจสอบทางกล้องวงจรปิดไหม

"ไม่ทันได้เปิดกล้องเลยค่ะ เพราะแพนต้องไปขึ้นเครื่องต่อ เวลาเหลือน้อยมาก เราโทรแจ้งตำรวจ เขาบอกอีก 3 ชั่วโมงเขาจะมา เราก็บอกว่าไม่ทันเราต้องไปขึ้นเครื่อง เราต้องไปทำเอกสารด้วย เราเลยต้องติดต่อสถานทูต กงสุลใหญ่ อธิบดีกรมการกงสุลที่กรุงเทพฯว่าจะต้องทำอย่างไร คือการที่เราเป็นแอมบาสเดอร์ของหนังสือเดินทางไทย เราก็เคยแต่ประชาสัมพันธ์ว่า ถ้าเกิดเหตุอะไรก็ให้ติดต่อกงสุล สถานทูต อันนี้ได้ประสบการณ์ตรงเลย ก็รีบทำเอกสารเพื่อที่จะเดินทางกลับ ซึ่งเวลากระชั้นชิดมาก"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทางตำรวจทางนั้นว่าอย่างไรบ้าง มีการตามเรื่องไหม

"ถ้าในทางตำรวจแพนคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเพิ่มเติม อย่างรถเช่าที่เอาไปคืนเขาก็ถามว่ามีอะไรที่หายไป ให้เราลิสต์เอาไว้ จะโคฟเวอร์อะไรได้ไหม ก็อยู่ในกระบวนการต่างๆ แต่จริงๆตัดใจแล้วแหละ ไปขนาดนั้นแล้ว ไม่รู้กระจัดกระจายไปอยู่ที่ไหนบ้าง ก็เลยกลับมาคิดว่ากลับมาเริ่มใหม่"

ที่กงสุลแนะนำอะไรบ้าง ในฐานะที่เราเป็นแอมบาสเดอร์ด้วย

"ท่านก็บอกว่า ขอบคุณที่เรามีโอกาสได้บอกต่อจากประสบการณ์ตรงด้วย แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเยอะมากที่นั่น แล้วก็มีคนไทยเกือบ 200 กว่าเคส ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วมาติดต่อกงสุลใหญ่ ถือว่าเป็นโอกาสที่เราได้กระจายข่าว อย่างสายการบินที่เรากลับมาเขาก็ช่วยประสานงานให้ตั้งแต่ที่แอลเอ จนถึงเมืองไทยในเรื่องของ ตม. ทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย เราก็มาบอกต่อได้ว่าถ้าเจอเรื่องแบบนี้ต้องทำยังไงบ้าง ซึ่งก็มีคนมาแชร์เรื่องนี้กับแพนเยอะเหมือนกัน"

เรียกว่าเป็นการฟาดเคราะห์

"เราก็คิดว่ามันเป็นประสบการณ์ดีๆ มันก็ต้องบอกตัวเองว่าทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ เราไม่ควรชะล่าใจ ยิ่งเอกสารหรือของสำคัญควรอยู่ใกล้ตัว"

ตอนนั้นทำตัวไม่ถูกเลยไหม

"ทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ ต้องลำดับว่าต้องทำอะไรก่อนดี จะโทรหาใครดี ตอนนั้นกำลังคิดว่าอะไรอยู่ในกระเป๋าบ้าง ก็ดันเป็นวันที่ทุกอย่างอยู่ในกระเป๋าหมดเลย ก็ไปหมดเลยทั้งใบเลยค่ะ"

มีอะไรจะฝากไหม

"คือการที่ติดต่อไปทางกงสุลไม่มีอะไรยุ่งยาก ถ้าอยู่ในช่วงเวลาทำการ แพนคิดว่าเจ้าหน้าที่ก็เตรียมที่จะประสานงานให้เราอยู่แล้ว เราต้องเตรียมรูปถ่ายไปให้กงสุลใหญ่ เพื่อที่จะนำไปทำเอกสารต่างๆ เพื่อให้เดินทางกลับประเทศ ซึ่งครั้งนี้ แพน ไม่ได้รับอภิสิทธิ์อะไรเลยค่ะ"

หลายคนมองว่าเราเป็นดาราหรือเปล่า ถึงได้ทุกอย่างไว เพราะใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถทำเอกสารเดินทางชั่วคราวได้

"แฟชั่นโชว์ที่แพนได้เดินวันนั้น กงสุลใหญ่ก็เป็นส่วนหนึ่งของงาน และเป็นคืนที่เขากำลังมีงานเลี้ยงขอบคุณทีมดีไซน์เนอร์ ผู้ร่วมงาน ก็เป็นโชคดีว่าตอนที่เราเกิดเรื่องทุกคนยังอยู่ที่กงสุลใหญ่ พอเราโทรไปปุ๊ป ทีมที่รู้จักก็รีบติดต่อทำเอกสารให้ทันที แพนคิดว่าในเคสอื่นๆ ถ้าอยู่ในเวลาทำการปกติก็จะสะดวกและรวดเร็วเหมือนกัน มีการให้ความสะดวกกับประชาชนได้ทันท่วงที"

มีคำแนะนำคนอื่นๆไหม

"แพนว่าเอกสารสำคัญควรอยู่ติดตัว ไม่ควรชะล่าใจในที่ใดๆก็ตาม เพราะเราก็ไม่รู้ว่าอาจจะมีใครสังเกตว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวหรือเปล่า คงต้องยอมแบกทุกอย่างลงไป อย่างแพนนี่เป็นครั้งแรกเลย เดินทางไปมาหลายประเทศแล้วก็รอดมา ที่ๆคนบอกมีโดนล้วงกระเป๋า เราก็ปลอดภัย ก็พอมาถึงที่นี่ ซึ่งเป็นที่ๆเรามาบ่อย เราก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องได้ ก็เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ว่าเราควรดูแลของ และควรลำดับเหตุการณ์ ตอนนี้จำขึ้นใจเลยค่ะ เพราะเราก็ไม่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น กระเป๋าก็ไม่ได้ใช้กระเป๋าแพงอะไรเลย วันนั้นก็มีแอบแวบนะว่าจะกลับเมืองไทยทันไหม เพราะอีกวันมีงาน แต่ถ้าเกิดอะไรจริงๆ เราก็ต้องแก้ไขกันต่อค่ะ"

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 4
  • เวลาดิฉันขับรถไปไหน ถ้าจอดนอกสายตาเมื่อไร จะเอากระเป๋าที่ใส่ของไปใส่ท้ายรถตลอด ไม่ว่าจะ 5 หรือ 10 นาทีก็ตาม แม้ว่ากระเป๋าจะไม่มีทรัพย์สิน โจรมันต้องคิดว่ามี แล้วถ้าโจรมันทุบกระจกพังแล้ว ความเสียหายมันจะตามมาสูงกว่าการเสียเวลานิดหน่อยเพื่อเอาของไปใส่หลังรถ และทุกครั้งที่ขับรถจะหยิบกุญแจสำรองติดตัวตลอดเวลา กันรถล๊อคอัตโนมัติ จะได้ไขเปิดได้ และไม่เคยขับรถแบบไม่พกกุญแจสำรองเลยสักครั้งคะ ประเมินความเสี่ยงไว้และทำให้เป็นนิสัยคะ
    19 ต.ค. 2562 เวลา 06.28 น.
  • Tho
    ไปที่ไหนก็ไม่ควรทิ้งของไว้ในรถ ของที่ลักษณะที่เป็นกระเป๋าโจรก็คิดว่ามีเงินมีของมีค่าอยู่ข้างในทั้งนั้น ยิ่งฟิลม์ติดรถใสแบบนี้ไม่เหลือหรอกครับ เคยไปอยู่เมกาโดนมาแล้วหลายครั้ง ไม่มีมันยังจะแงะเลย แต่ที่แพงยิ่งกว่าคือกระจกรถครับหลายตังค์เลยนั่น แต่มีประกันโชคดีไป
    19 ต.ค. 2562 เวลา 03.37 น.
  • Kattareeya
    เขียนข่าวทุกข่าว ไม่เคยจะตรวจเช็คความทุกต้องเลย อีกอย่างข่าวทุกไม่มีจุดจบเลย
    19 ต.ค. 2562 เวลา 04.06 น.
  • chun
    ว่าล่ะต้องมีดราม่าเรื่องอภิสิทธิคนดังดารา แต่คนที่รุ้จักคิดวิเคราะห์ จะนึกภาพออกว่าเพราะอะไรถึงเดินเรื่องได้เร็ว และไม่ใช่เพราะเป็นดารา กต.มีขรก.คุณภาพ ทำงานรวดเร็วมีประสิทธิภาพ ขอชมเชยคะ
    19 ต.ค. 2562 เวลา 04.40 น.
ดูทั้งหมด