https://youtu.be/7ybEmzqpdgQ
เฮียหมาเจ้าของร้านอาหารเจ้าของร้านนายหมา ทะเลมีชีวิต ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนตำหรุ-คลองเก้า โร่แจ้งความหลังพบสมุดบัญชีเงินฝากประเภท 12 เดือน ถูกยกเลิกเงินหายกว่า 5 ล้านบาท
เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ขณะที่ พ.ต.ท.ประจวบ แขตสันเฑียะ สว.สอบสวน สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มีนายเอกพัฒ อธิธนัทกุล อายุ 61 ปี หรือเฮียหมา เจ้าของร้านนายหมา ทะเลมีชีวิต ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนตำหรุ-คลองเก้า ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้นำเอกสารสมุดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งเข้าแจ้งความร้องทุกข์ หลังจากเงินที่ฝากไว้กับธนาคารดังกล่าวกว่า 5 ล้านบาท ได้หายออกจากบัญชีไป แถมสมุดบัญชียังถูกยกเลิกโดยที่ตนเองไม่ทราบ จนไม่สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้
นายเอกพัฒ ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปลายปี 61 ตนได้นำเงินจำนวนกว่า 5 ล้านบาท ไปฝากไว้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขานิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งพนักงานธนาคารได้แนะนำให้ตนฝากเป็นประเภท 12 เดือน เพื่อที่จะได้ดอกเบี้ยมากว่า ฝากแบบออมทรัพย์ธรรมดา ซึ่งตนคิดว่าบัญชีนี้ตนจะเก็บเอาไว้เป็นบัญชีเก็บเงินและไม่ได้เบิกออกมาใช้จ่ายอยู่แล้ว จึงได้ตอบตกลงและได้มีเงินจำนวนดังกล่าวเข้าไว้ในบัญชีตามขั้นตอนตามปติ หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชีดังกล่าวอีกเลย กระทั่งวันนี้ตนได้นำสมุดบัญชี 12 เดือนเล่มดังกล่าว ไปปรับสุดเพื่อที่จะดูอัตราดอกเบี้ย ที่ธนาคารกรุงเทพสาขาโรบินสันสมุทรปราการ เนื่องจากเวลาผ่านไปเกือบ1ปีแล้ว แต่กลับพบว่าสุดบัญชีเล่มดังกล่าว กลับไม่สามารถปรับยอดได้ ตนจึงได้ลองนำสมุดบัญชีอื่นซึ่งเป็นบัญชีเงินเงินค้ำประกันธุรกิจ ซึ่งเปิดไว้ธนาคารเดี่ยวกัน แต่ก็ไม่สามารถปรับสมุดได้เช่นกัน ตนจึงได้เข้าไปสอบถามพนักงานธนาคาร และพนักงานได้อธิบายว่าสมุดบัญชีทั้ง 2 เล่มถูกยกเลิกการใช้แล้ว โดยให้ตนไปติดต่อสาขาที่เปิดบัญชีไว้ ตนจึงเดินทางไปที่ธนาคารสาขาที่ตนเปิดบัญชีไว้ ทางพนักงานธนาคารจึงได้ทำการตรวจสอบ และพบว่า เงินจำนวน 5 ล้านบาท ที่ตนฝากในบัญชีประเภท 12 เดือนนั้น ได้ถูกย้ายออกไปใส่ไว้ในบัญชีที่ค้ำประกันธุรกิจ ที่มีเงินในบัญชีกว่า 1 แสนบาท ซึ่งเป็นบัญชีที่ถูกยกเลิกเช่นกัน และเมื่อตรวจสอบสุดบัญชีอีกเล่มหนึ่งที่ถูกย้ายเงินจำนวน 5 ล้านบาทไปอยู่ในบัญชีดังกล่าวตามที่พนักงานธนาคารได้แจ้งมา พบว่าได้มีการทำสุดบัญชีใหม่ขึ้น มาและ มีการเซ็นถอนเงินออกจากบัญชี 12 เดือน ไปกว่าสองล้านห้าแสนบาท และลายมือที่เซ็นเบิกก็ไม่ใช่ลายเซ็นของตน ตนจึงเกิดความไม่สบายใจเพราะเงินอยู่ในธนาคาร ก็ยังไม่ปลอดภัย และก็ไม่ทราบว่ายังมีเงินเหลือในบัญชีทั้งสองอีกเท่าไหร่ หรืออาจจะหายไปหมดแล้ว จึงได้เดินทางมาแจ้งความกับตำรวจ
อย่างไรก็ตามตนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมผู้ที่จงใจโยกย้ายเงินของตนถึงรู้ว่าตนมีบัญชีเงินฝากของธนาคารนี้ ในสาขาเดียวกันบัญชีอื่นอีก และเลือกใช้บัญชี 12 เดือน และบัญชีค้ำประกันธุรกิจ ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวและตนก็ไม่อยากโทษเจ้าหน้าที่ธนาคาร จึงเดินทางมาแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ทางธนาคารออกมาชี้แจงและรับผิดชอบกับเงินของตนเองที่หายไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน และจะเชิญทางผู้บริหารของธนาคารสาขาดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
GNUN ไม่ปลอดภัยแม้แต่ในธนาคาร ไว้ใจอะไรไม่ได้เลย สังคมเละเทะ ประเทศเละเทะ
13 พ.ย. 2562 เวลา 21.14 น.
ขนาดธนาคารสถาบันการเงินยังไว้ใจไม่ได้ แล้วอย่างนี้จะไว้ใจอะไรได้อีก
13 พ.ย. 2562 เวลา 22.24 น.
ยอดยุทธ กระเช้าสวยมีขายที่ท็อป
ธนาคารกรุงเทพรู้ยัง
13 พ.ย. 2562 เวลา 22.32 น.
นี้และโจรในเครื่องแบบเวรกรรมเปนถึงเจ้าหน้าที่ทำเสียเอง
13 พ.ย. 2562 เวลา 22.36 น.
ใส่ไหฝังดินเลยเฮีย
13 พ.ย. 2562 เวลา 21.30 น.
ดูทั้งหมด