"พาณิชย์"เผยผลการจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ได้เพิ่มอีก 7 ราย ส่วนไข่ไก่ไม่พบผู้กระทำความผิดต่อเนื่อง เหตุสถานการณ์ดีขึ้น ฟาร์มได้รับคำสั่งซื้อชะลอตัวลง ผู้จำหน่าย รายใหญ่ส่งสินค้าเข้าตลาดมากขึ้น ขณะที่ห้างและร้านค้าปลีกมีสินค้าจำหน่ายเพียงพอ
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ ว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ ได้เพิ่มอีก 7 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 2 ราย โดยเป็นการจับกุมร้านค้าออนไลน์บนเฟซบุ๊ก จำหน่ายหน้ากากอนามัยนำเข้าจากจีน ราคากล่องละ 665 บาท ราคาเฉลี่ย 13.30 บาทต่อชิ้น รวม 2.5 แสนชิ้น ซึ่งได้ส่งดำเนินคดีตามมาตรา 25 (5) และมาตรา 29 แล้ว และจับกุมผู้จำหน่ายแอลกอฮอล์ไม่ปิดป้ายแสดงราคา โดยได้เปรียบเทียบปรับตามมาตรา 28 แล้ว
ส่วนในต่างจังหวัด 5 ราย โดยจับกุมร้านค้าทั่วไปจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินจริง 2 รายที่จังหวัดเพชรบูรณ์และชลบุรี จับกุมร้านค้าที่จำหน่ายเกินราคาควบคุม 1 ราย ที่จังหวัดระนอง และจับกุมร้านค้าไม่ปิดป้ายแสดงราคา 2 ราย ที่จังหวัดชัยภูมิ ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นเป็น 248 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 122 ราย และต่างจังหวัด 126 ราย
ส่วนการจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายไข่ไก่เกินราคาทั่วประเทศ ณ วันที่ 2 เม.ย.2563 ไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม เพราะขณะนี้ ผลผลิตไข่ไก่เข้าสู่ตลาดปกติ ฟาร์มไข่ไก่ได้รับคำสั่งซื้อชะลอตัวลงจากช่วงสัปดาห์ก่อนที่มีความต้องการมาก ทำให้สามารถส่งไข่ไก่ให้กับผู้ค้าส่งได้มากขึ้น ทำให้ได้รับสินค้าเพียงพอที่จะกระจายต่อไปยังผู้ค้าปลีก ขณะที่ผู้จำหน่ายรายใหญ่ ทั้งซีพี เบทาโกร ก็กระจายไข่ไก่เข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้น โดยสถานการณ์ในห้างโมเดิร์นเทรด เช่น แม็คโคร บิ๊กซี เทสโก้โลตัส มีสินค้าวางจำหน่ายเพิ่มขึ้น แต่ยังจำกัดการซื้อของประชาชนคนละ 1-2 แผง เพื่อกระจายให้ทั่วถึง ส่วนประชาชนมีการซื้อเท่าที่จำเป็น
สำหรับโทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) และมาตรา 25 (5) ไม่แจ้งต้นทุนซื้อขาย สต๊อก มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มาตรา 28 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะมีการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยในช่วงนี้จะให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น ไข่ไก่ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ ขอให้ผู้ค้าสินค้า ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาโดยเด็ดขาด และหากผู้บริโภคพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน และในต่างจังหวัดสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด
wisit จับแต่รายยิบรายย่อย ไอ้ที่โพสเป็นตัน เรื่องเงียบ
03 เม.ย. 2563 เวลา 09.19 น.
AREEJIT RUNCHAROEN อยากรู้ว่าไอ้ที่ราคาถูกหามาให้ประชาชนซื้อนะมีมั้ย
03 เม.ย. 2563 เวลา 09.09 น.
Np ช่วยดูหน่อย น้ำมันลง ทำไมสินค้าไม่ลง
03 เม.ย. 2563 เวลา 09.09 น.
Pol Thunya แล้วของกลางที่ยึดมาได้ สามารถนำไปแจกจ่ายได้หรือไม๋ อย่าบอกเหมือนที่ตำรวจออกมาแถลงเมื่อครั้งก่อนนะว่า ต้องยึดไว้เพราะเป็นหลักฐานของกลาง เอาไปใช้ หรือบริจาค แจกจ่ายไม่ได้...ก็ทำไมไม่ใช้วิธีการถ่ายรูป หรือคลิปไว้หนอ ??
03 เม.ย. 2563 เวลา 09.19 น.
E m m i E ขอให้ปรับจริง จำคุกจริง ไม่ต้องรอลงอาญา พวกฉวยโอกาสมันจะได้เข็ดหลาบ
03 เม.ย. 2563 เวลา 09.04 น.
ดูทั้งหมด